ชาวบ้านเพชรบูรณ์ร้อง ‘ศูนย์ดำรงธรรม-ป.ป.ช.’ เร่งความคืบหน้า ‘คดีฉ้อโกงผู้สูงอายุ’ สูญเงินเกือบ 3 ล้านบาท

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธิตินิพัทธ์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลนางั่ว อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 8 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเร่งรัดความคืบหน้าคดีฉ้อโกงมูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 3 ล้านบาท ที่ได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 ณ สถานีตำรวจภูธรท่าพล แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

นายธิตินิพัทธ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อของหญิงรายหนึ่งที่ใช้นามสมมุติว่า “นางสาวเอ” ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่งกายคล้ายข้าราชการ และถือเอกสารทางราชการที่ดูน่าเชื่อถือ ก่อนหลอกยืมเงินจากกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการในหลายพื้นที่ ทั้งที่ความจริงหญิงคนดังกล่าวเป็นเพียงอาสาสมัครของศูนย์คนพิการเท่านั้น

ด้าน นายนเรนธร แก้วโท ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ติดตามความคืบหน้าจาก สภ.ท่าพล มาแล้วกว่า 30 วันแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ และจะดำเนินการส่งหนังสืออีกครั้งภายใน 20 วัน หากยังไม่ได้รับคำชี้แจง จะดำเนินการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วัน

จากนั้น กลุ่มผู้เสียหายได้นำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นร้องเรียนต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาเพิกเฉยต่อหน้าที่ โดยมี นางสาวนุชจรินทร์ อินประถม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน และให้คำมั่นว่าจะสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามขั้นตอน

นายธิตินิพัทธ์ ระบุว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานกว่า 200 หน้า พร้อมรายชื่อผู้เสียหายทั้งหมด ยื่นประกอบการร้องเรียน โดยหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้พิการที่ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ด้วยตนเอง

กรณีนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนในพื้นที่ และสะท้อนถึงปัญหาช่องโหว่ในการตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและช่วยเหลือผู้เปราะบางจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในลักษณะนี้อย่างเร่งด่วน ///-026