วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นางสาวบี อายุ 28 ปี “ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ตนเองถูกแจ้งความหลังจากที่เดินทางไปออกกำลังกาย แล้วมีการนัดรวมตัวกันเต้น และมีการบันทึกภาพวีดีโอ เพื่อนำไปลงในช่องทางส่วนตัว แต่ก่อนที่จะมีการบันทึกภาพ ได้มีการประกาศออกไมค์ไปแล้วว่าจะมีการบันทึกภาพ แต่เขาน่าจะเข้ามาทีหลังเลยไม่ได้ยิน ซึ่งตนเองก็เป็นครูสอนเต้นด้วย ในวันเกิดเหตุมาเป็นแค่ผู้ใช้บริการฟิตเนส แล้วคลิปดังกล่าวลงไปกว่า 1 ปี แต่กลับมาถูกแจ้งความดำเนินคดี สุดงงย้อนดูภาพถึงบางอ้อ ติดผู้แจ้งความตัวเท่ามดแทบมองไม่ออก ตำรวจแจ้งแค่ผู้แจ้งมองออกว่าเป็นตัวเองก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
นางสาวบี กล่าวว่า ตนเองไปออกกำลังกาย แล้วได้มีการโพสต์ลงในโซเชียล แต่ดันไปติดเขาอยู่ในภาพนิ่งและวีดีโอ แต่ว่า มันเบลอ เพราะทุกอย่างภาพจะโฟกัสที่ตัวตน เพราะทุกอย่างมันจะเบลอหมดแล้วจะมองไม่รู้ว่าเป็นเขา แต่ว่าไม่รู้ว่าที่เขาเห็นแล้วเขารู้ว่าเป็นเขา ในส่วนของคลิปวีดีโอมันสะท้อนเขาในกระจก ไม่ได้เห็นเขาโดนตรง แต่จะเห็นเขาในกระจก ถ้ามองผ่านๆก็จะไม่รู้ว่าเป็นเขา ซึ่งทุกคนดูก็คงจะไม่ได้ดูเขา คงจะดูแค่ตน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 67
โดยตนเองโพสต์ลงในโซเชียล ส่วนคนที่มาแจ้งความนั้นไม่ได้มาพูดคุยกับตนเลย ไม่ได้มาพูดคุยกันก่อน ซึ่งเขาไปแจ้งความเลย ในข้อหา “กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล โดยทำให้เขาอับอาย” เหมือนว่าเราแกล้งเขา ซึ่งเราก็ไม่ได้เห็นเขาอยู่ภายในคลิปวีดีโอด้วย ซึ่งตนเองก็เคยเจอกับชายคนนี้เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งเขาเข้ามาทักทายสวัสดี ตนก็สวัสดีตอบ จากนั้นก็ไม่เคยคุยอะไรกันอีก
ซึ่งทางชายคนดังกล่าวเขาก็ได้ประสานผ่านทางฟิตเนสมาว่า ขอให้ลบภาพและคลิปวีดีโอ แต่คือด้วยการที่เขาแจ้งไปทางฟิตเนส แล้วกว่าฟิตเนสจะมาแจ้งกับตนเองมันใช้เวลานาน ซึ่งเขาเลือกที่จะไปแจ้งความก่อน แล้วจะมาแจ้งฟิตเนสมันก็เลยนาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เลยมองว่าทำไมไม่ลบซักที ซึ่งเขาก็มองว่าทำไมตนไม่ลบซักที เขาก็เลยไปแจ้งใหม่
ซึ่งในเบื้องต้น เขาได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จำนวน 3 ครั้ง และ สภ.ธัญบุรี จำนวน 1 ครั้ง แต่ตนยังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ตนไปพบพนักงานสอบสวนมาแล้วทั้งหมด ซึ่งเมื่อวานที่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเขาก็ได้แจ้งข้อหา ว่า “กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล โดยทำให้เขาอับอาย” ซึ่งตำรวจก็บอกว่าถ้ายอมรับข่อกล่าวหา ก็ไปจ่ายค่าปรับที่ศาลก็จบ แต่ตนมองว่าตนยอมรับก็แสดงว่าภาพและคลิปวีดีโอที่ตนลงเป็นการประจานเขา แต่จริงๆมันไม่ใช่ ตนเลยไม่ยอมรับ ซึ่งตำรวจก็จะส่งตัวไปอัยการวันที่ 18 ก.ค.
ตอนนี้ตนต้องการให้มีคนมาช่วย เพราะตนไม่รู้เรื่องกฎหมายอ แล้วอีกอย่างทางนั้นเขาค่อนข้างรู้กฎหมายมากๆ แล้วตนก็อยากได้ทนาย อยากได้คนที่มีความรู้มาช่วย ตนไม่มีความรู้อะไรเลย แล้วก็ไม่มีเงินจ้างทนายด้วย ซึ่งภาพที่เราลงนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำให้เขาเสื่อมเสีย แล้วก็ไม่ได้มีความคอมเมนต์อะไรเลย โดยตำรวจบอกว่าเขาดูแล้วรู้ว่าเป็นตัวเขาเท่านั้นก็พอแล้ว ซึ่งตนเองก็เลยงง เพราะตยก็กลับมาดูคลิปตั้งหลายรอบก็ยังไม่เห็นเขาจนกระทั้งไปเห็นว่าเขาโยงเส้นมาว่าเขาคือคนนี้ เขาคือคนนี้ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องก็ยังไปเขาฟิตเนสสาขาอื่นบ้าง ส่วนสาขาที่เกิดเรื่องก็จะเลือกช่วงเวลาที่ไม่เจอเขาซักเท่าไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี