ศูนย์ต่อต้านข่าวลวงจังหวัดขอนแก่นจัดงานครบรอบ 1 ปี ในการก่อตั้งศูนย์ เชิญหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่ายกว่า 15 องค์กรร่วมนำเสนอการทำงาน ตำรวจไซเบอร์เผยยอดแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เดือนปี 2568 มีมากถึงแสนคดี มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท
ที่หม่องเฮียนฮู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น จัดงานครบรอบ 1 ปีการก่อตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวลวง จ.ขอนแก่น โดยได้เชิญภาคีเครือข่ายคนทำงานเรื่องการต่อต้านข่าวลวงและป้องกันมิจฉาชีพในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จำนวน 15 องค์กร อาทิ สำนักงานตำรวจไซเบอร์ สมาคมผู้บริโภค สภาองค์กรผู้บริโภคสภาวัฒนธรรม จ.ขอนแก่น สมาคมสื่อมวลชน อีสานอินไซด์คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น ชมรมผู้ประกอบการวิทยุธุรกิจ จ.ขอนแก่น ฯลฯ ร่วมแชร์ข้อมูล โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่นเป็นประธาน
พ.ต.ท.นราภพ นวลเท่า สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 บช.สอท. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า รับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผ่านเว็บไซต์ตำรวจคือ www.Thaipoliceonline.go.th ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
พบว่ามีคดีออนไลน์มากถึง 129,452 คดี มูลค่าความเสียหายมากถึง 10,733,459,475 บาท โดยมีคดีออนไลน์จำนวน 21,834 คดี แจ้งความที่หน่วยงาน 11,876 คดี เฉลี่ย 884 เรื่องต่อวัน แต่สามารถอายัดบัญชีได้ทันแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยพบ 5 อันดับคดีที่แจ้งความออนไลน์มากที่สุดคือ หลอกลวงซื้อขายสินค้าและบริการ 56 เปอร์เซ็นต์ หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 14 เปอร์เซ็นต์ หลอกลวงเพื่อโอนเงินหารายได้พิเศษ 11 เปอร์เซ็นต์หลอกลวงให้กู้เงินอันมีลักษณะฉ้อโกง 7 เปอร์เซ็นต์และหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 6 เปอร์เซ็นต์และได้มีการแนะนำคาถาป้องกันมิจฉาชีพเอาไว้ว่า “ไม่รับ ไม่คุย ไม่คลิก ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”
ด้าน นายสหโชค เพียรการ เจ้าหน้าที่ประสานงาน และสื่อสารองค์กรโครงการ ISAN Insight and Outlookคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า กลโกงของมิจฉาชีพ หากเอามาประเมินและวิเคราะห์จะพบว่ามีรูปแบบเดิมๆ คือการแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการ และใช้สื่อออนไลน์ในการหลอกให้หลงเชื่อ ทั้งการหลอกให้เราอยากทำงาน หลอกขายของถูก หลอกให้อยากรู้ จากนั้นก็ให้แอดไลน์แล้วให้ถอนเงินจากกระเป๋าเงินหรือวอลเล็ตหรือไม่ก็ให้สมัครทำงาน แล้วมีการโอนเงินเข้าบัญชีม้า จากบัญชีม้าก็กระจายออกไป จะวนแบบนี้ และเป้าหมายคือต้องการเงินของเรา เพราะฉะนั้นหากเราต้องการให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพเราก็จะต้องไม่โอนเงินเพราะเงินอยู่ในกระเป๋าเราถ้าเราไม่เชื่อ ไม่โอนมิจฉาชีพก็ทำอะไรเราไม่ได้
นางสุมาลี สุวรรณกร หัวหน้าศูนย์ต่อต้านข่าวลวง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการ Cofact Thailand กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาของศูนย์ต่อต้านข่าวลวง จ.ขอนแก่น เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเรื่องการถูกหลอกลวงจากเครือข่ายและประชาชนเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบ และส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ สร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม เพื่อร่วมกันตรวจสอบข่าวลวง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เหยื่อที่ถูกหลอกลวง พร้อมกับการให้ความรู้เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง และเพื่อทำข้อเสนอเชิงนโยบายนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการถูกหลอกลวง ในทุกรูปแบบ โดยทางศูนย์ได้ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมผลิตสื่อที่เน้นการเข้าถึงผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเป็นจำนวนมากอย่างเช่นการทำเป็นหมอลำ โดยมีดร.ราตรีศรีวิไล บงสิทธิพรศิลปินแห่งชาติเป็นผู้แต่งกลอนลำและมีการนำไปทำเป็นแอนิเมชั่นในรูปแบบการ์ตูนหมอลำเพื่อให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กเยาวชนเพิ่มอีกด้วย
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์ต่อต้านข่าวลวงจังหวัดขอนแก่น”พร้อมเพจภาคีเครือข่ายอีกหลายเพจ ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าไปกดติดตามเพื่อรับฟังข้อมูลและติดตามข่าวสารที่เป็นประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี