ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าจากงบกลาง พ.ศ.2568
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2518 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าจากงบกลาง พ.ศ.2568
ซึ่งมีสาระสำคัญในการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่า ดังต่อไปนี้
ข้อ 5 ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา ค่าเสียหายจากช้างป่ากรณีบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ไม่มีพฤติกรรมที่ระบุได้ว่ามีเจตนาเข้าไปทำลายช้างป่าหรือเข้าไปในพื้นที่มีช้างป่าโดยไม่มีเหตุอันสมควรจำเป็น
(2) มีการป้องกันตนเองอย่างวิญญูชน
(3) ไม่ฝ่าฝืนคำสั่งหรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จนเป็นเหตุให้ถูกช้างป่าทำร้าย
(4) ไม่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พระราชบัญญัติอุทยาน พระราชบัญญัติป่าไม้ หรือกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 6 ผู้ที่ได้รับผลกระทบที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาค่าเสียหายจากช้างป่ากรณีพืชผลทางการเกษตรหรือทรัพย์สินเสียหาย ต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือที่ดินหรือสิทธิครอบครองที่ดิน หรือเป็นผู้เช่าทรัพย์สินหรือที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 7 ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้ถูกดำเนินคดีและศาลมีคำ
พิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหรือมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พระราชบัญญัติอุทยาน พระราชบัญญัติป่าไม้ หรือกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ส่วนในขั้นตอนการยื่นและระยะเวลานั้นได้มีกำหนดไว้ในข้อที่ 8 กล่าวโดยสรุปคือ ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์หรือผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเข้าจึงรับประเมินค่าเสียหาย
กรณีบาดเจ็บทุพพลภาพหรือเสียชีวิตกรรมการประกอบด้วยผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นประธานกรรมการ ให้มีกรรมการจำนวนไม่เกิน 2 คนและให้หัวหน้าหน่วยพื้นที่อนุรักษ์ที่รับผิดชอบดูแลเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรณีพืชผลทางการเกษตรหรือทรัพย์สินเสียหาย คณะกรรมการประกอบด้วยหัวหน้าหน่วยงานพื้นที่อนุรักษ์หรือผู้ที่รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกรรมการ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าหรือหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ดูแลรับผิดชอบ เป็นกรรมการและเลขานุการโดยให้มีกรรมการจำนวนไม่เกิน 3 คน
โดยระยะเวลาในการ ในการแจ้งนั้นกำหนดให้ผู้เสียหายแจ้งภายใน 3 วัน โดยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าหรือเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานในพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่แจ้งประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบในทันที
ทั้งนี้ในข้อ 8 อนุ 3 ได้กำหนดกรอบเอาไว้ว่า รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินความเสียหาย ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบเหตุ
หลังจากนั้นให้ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นำรายงานเสนอต่ออธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในทันที
ซึ่งระยะเวลาในการอนุมัติของ อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ใน ระเบียบฉบับนี้ เพียงแต่ได้กำหนดไว้ใน ข้อถัดไปว่าเมื่ออนุมัติจ่ายเงินเยียวยา แล้วจะต้องเบิกจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบหรือทายาทภายใน 5 วันทำการ
ส่วนหลักเกณฑ์ในการชำระค่าเสียหายนั้นได้ระบุไว้ในท้ายระเบียบดังกล่าว ซึ่งมีหลักการแบ่งคำนวณเป็นต้นทุนต่อไร่ของไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น รวมถึงตารางค่าเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินลักษณะคล้ายกับกรมธรรม์ประกันภัย
ระเบียบฉบับนี้เป็นการพัฒนาแก้ปัญหาอีกระดับของ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แม้จะมีข้อที่ต้องพัฒนาและตีความอีก 2 ประเด็นหลักๆคือ การแก้หรือการตีความเกี่ยวกับ เงื่อนไขของผู้เสียหายเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน รวมถึงความชัดเจนของระยะเวลา ที่ทำการอนุมัติซึ่งไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะต้องทำการอนุมัติภายในกรอบระยะเวลาเท่าใด
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี