รอง อสส.เป็น ปธ.เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างทักษะการสอบสวนคดีค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ จัด Workshop ให้ พนง.อัยการ บุคลากร ที่เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ เกี่ยวกับพยานหลักฐานทางดิจิทัล การวิเคราะห์เส้นทางการเงิน การพิจารณาพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน การนำเสนอพยานหลักฐานในชั้นศาล เพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในคดีค้ามนุษย์รูปแบบใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 25 มิถุนายน 2568 นายอธึก คล้ายสังข์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานเปิดโครงการ “สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการสอบสวนดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ให้แก่พนักงานอัยการและบุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” โดยสำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุดจัดขึ้น ณ ห้องแมกโนเลีย 2 - 3 ชั้น 4 โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร และผ่านระบบการประชุมออนไลน์
นายอธึก รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการค้ามนุษย์มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการกระทำความผิด รวมถึงปกปิดการกระทำความผิดอย่างแยบยล นอกจากจะสร้างความเสียหายทั้งทางร่างกายและจิตใจกับผู้เสียหายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ผู้บังคับใช้กฎหมายจำเป็นต้องพัฒนาองค์ความรู้ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อรับมือกับการกระทำความผิดค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปตามวิวัฒนาการของสังคมอยู่เสมอ การที่สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดโครงการนี้ นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งที่วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจะได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางการปฏิบัติที่ดี เพื่อให้พนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะด้านการสอบสวนและการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ สามารถรวบรวม ใช้ และนำเสนอพยานหลักฐานทางดิจิทัล ที่แสดงถึงความเชื่อมโยงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรม นำไปสู่การพัฒนาศักยภาพในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และยังเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในอนาคต เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
ด้าน นางจตุพร แสงหิรัญ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ว่า พฤติกรรมของประชากรโลกเปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์เสมือนโลกอีกใบหนึ่ง ผู้กระทำความผิดฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NCMEC) รายงานว่า ในปี 2567 จำนวนวัตถุหรือสิ่งแสดงการล่วงละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับใช้ Generative AI เป็นเครื่องมือในการผลิตหรือดัดแปลงสื่อเพิ่มขึ้น 1,325% จากปี 2566 ที่มีจำนวนการรายงาน 4,700 ครั้ง เป็น 67,000 ครั้ง และยังมีจำนวนการรายงานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางเพศเกี่ยวกับเด็กออนไลน์ เพิ่มขึ้น 546,000 รายงาน หรือ 192% เมื่อเทียบกับปี 2566 อีกด้วย
นอกจากนี้ เทคโนโลยียังทำให้ผู้กระทำความผิดรวมกลุ่มกันง่ายขึ้น สร้างเครือข่ายและขยายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อแสวงหาประโยชน์จากบุคคลในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการค้ามนุษย์ที่เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศและการบังคับใช้แรงงาน องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน ใช้เทคโนโลยีในการล่อลวงและควบคุมเหยื่อ รวมถึงมีการฟอกเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ส่งผลให้การพิสูจน์ความเชื่อมโยงของผู้กระทำความผิดในแต่ละระดับเป็นไปด้วยความยากลำบาก
สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ตระหนักดีว่าการดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้เท่าทันกับรูปแบบคดีค้ามนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการนี้ขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 26 มิถุนายน 2568 เพื่อให้พนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีทักษะด้านการสอบสวนและการดำเนินคดีค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ มีความเข้าใจคุณค่าเชิงพิสูจน์ของพยานหลักฐานทางดิจิทัล การวิเคราะห์เส้นทางการเงิน การพิจารณาพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน จนกระทั่งการนำเสนอพยานหลักฐานในชั้นศาล เพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในคดีค้ามนุษย์รูปแบบใหม่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย พนักงานอัยการ และผู้แทนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เข้าร่วมกิจกรรมในห้องประชุม จำนวน 60 คน และพนักงานอัยการจากทั่วประเทศเข้าร่วมผ่านระบบการประชุมออนไลน์ จำนวน 280 คน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี