ซุบซิบกทม.

ประชาชนทั้งชาวพุทธและศาสนาอื่นต่างให้ความสนใจอย่างมากกับพฤติกรรมสุดทรามอับอายขายขี้หน้าของอิสตรีเพศคนหนึ่งที่ไปเจาะจงมีความสัมพันธ์กับพระผู้ใหญ่หลายรูป โดยล่าสุดจากการตรวจสอบของตำรวจ ว่ากันว่ามีกว่า20รูปทีเดียว ที่สำคัญมีความสัมพันธ์กันแล้วฝ่าย“มารสีกา”ก็บันทึกเก็บรูปเอาไว้เสมือนมีเจตนาจงใจทำลายพุทธศาสนาโดยตรงอย่างไรอย่างนั้น จนมีคำถามกระหึ่งว่าผู้หญิงคนนี้นับถือศาสนาอะไร หรือมีศาสนาในหัวใจหรือไม่ คลิปเสียงหลายคลิปที่พระสงฆ์รูปแล้วรูปเล่าตกเป็นเหยื่อ ล้วนแต่สอดคล้องต้องกันจงใจคล้ายจะให้เกิดเป็นข่าวบัดสีทำลายแทบทั้งสิ้น ยิ่งกว่านั้นก็จะเลือกพระสงฆ์ที่มีชื่อดังๆทั้งหมดเป็นเหยื่อ อะไรกำลังอุบัติเกิดกับศาสนาพุทธ ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันเกิดมาตลอดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าจับตามอง คือ ถัดจากนี้ไปวงการสงฆ์รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำนักพุทธจะเดินหน้าแก้ไขป้องกันแบบไหนให้เป็นรูปธรรม เพราะตราบใดที่สงฆ์ไม่เคร่งในศีลในธรรมเห็นเงินเป็นปัจจัยหลัก สงฆ์ย่อมถูกหลอกได้ง่าย เมื่อถูกหลอกถูกยั่วยวน สงฆ์จะตกเป็นเครื่องมือทันที ...อันที่จริงพระสงฆ์ใกล้ชิดได้เสียกับสีกานั้นมีตัวอย่างอยู่บ่อยๆทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว หรือเป็นข่าวพักหนึ่งก็เงียบหายไป แต่สำหรับ“สีกานรก”บางคน เชื่อแน่ว่า คงจะทำให้พระสงฆ์ที่ละเลิกกิเลสราคะไม่ได้ต้องระวังตัวเพิ่มขึ้น หรือถ้าเกิดพลาดพลั้งเพราะหลงไหลกลิ่นกาย“สีกานรก“ไม่ได้ พระรูปนั้นจะหมดราคาการเคารพทันที ...หลายคนบอกว่าเรื่องดังกล่าว“ฆราวาส”จะเที่ยวโอ้อวดไปอบรมสอนสงฆ์หรือพระไม่ได้ อันนี้ต้องยอมรับว่าทางธรรมนั้นสอนไม่ได้ แต่ทางโลก“ฆราวาส”มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม การเป็นหูเป็นตาเฝ้าจ้องมองภัยคุกคามศาสนา“ฆราวาส”ทำได้ ขณะที่สงฆ์เรื่องพรรค์แบบนี้ไม่มีวันตามทันร้อยเล่ห์เพทุบายมารยาหญิงทรามได้เลย(ถ้าสงฆ์มีกิเลสดับราคะกำหนัดไม่ได้) ...ที่ผ่านๆมามีสงฆ์ดังๆหลายรูปแอบมีอะไรกับสีกาลับๆ แต่วันนี้สีกาคนเดียวกระทำกับสงฆ์หลายรูปในเวลาใกล้เคียงกัน บอกตรงๆมันชวนให้สงสัยข้องใจสาหัสว่า เหตุใดทำไมสีกาคนนี้จึง“กายใจหยาบ”อุกอาจกระทำกับพระศาสนาเช่นนั้น  สุดน่าอนาถการบันทึกภาพไว้ก็คล้ายๆเหมือนจะยืนยันใช้สื่อเป็นเครื่องมือกระพือข่าว ซึ่งตรงนี้ก็น่าคิดไม่น้อยทีเดียว ...แต่อย่างที่บอกแม้พระจะมี“มารนรก”แบบไหนอย่างไรเข้ามา หากถ้าพระสงฆ์รูปนั้นมีอภิญญาดังคำที่สั่งสอนผู้คน“มารยา”อิสตรีเพศรูปลักษณ์จำแลงใดๆก็ไม่มีวันทำลายภิกษุรูปนั้นได้ แต่ที่ทำลายได้ก็เพราะภิกษุหรือพระรูปดังกล่าวหาใช่ผู้ทรงศีลแท้ๆไม่ ภาพที่แลเห็นก็แค่รูปกายภายนอกธรรมดาๆเท่านั้น...ประชาชนชาวพุทธทิ้งท้ายไว้อีกเรื่องให้สำนักพุทธ“เสือกระดาษ”ฉุกคิดว่า วัดดังวัดมีชื่อเห็นเงินเห็นธุรกิจเป็นหลักบังอาจใช้ศาสนสถานเรียกเก็บค่าจอดรถ ค่าเข้าห้องน้ำ เกลื่อนเมืองนั้น วันนี้สำนักพุทธจะไม่เข้าสะสางแก้ไขห้ามปราบบ้างหรือไร เพราะขณะนี้ผู้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์หนาหู และคงไม่ต้องบอกว่าวัดไหน แค่สำนักพุทธใช้ปัญญาตรวจสอบด้วยสมอง 4,000 เซลล์อันต่ำกว่าสมองทั่วไปก็รู้ว่าชื่อวัดอะไร...

ไผ่ฎำ

036