ชี้หมกเม็ดปมพระสงฆ์กระทำผิด
‘บิ๊กเต่า’จวกพศ.
จ่อรื้อคดีเก่าถูกปัดตกมาทำใหม่
‘เจ้าคณะพิษณุโลก’ยอมสึก
ภาพหลุดพัวพันสีกากอล์ฟ
เจ้าคุณประสิทธิ์ยังปฏิเสธ

ตร.ชี้หลักฐานชัด มัดตัว “เจ้าคุณประสิทธิ์” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรฯแม้เจ้าตัวยังปัดไม่มีส่วนพัวพันสีกากอล์ฟ รอง ผบก.ป.เผยแจ้งข้อหาเพิ่มสีกากอล์ฟ ฉ้อโกงอดีต ผอ.พศ.พิจิตร ด้าน ‘บิ๊กเต่า’ สับ พศ.ไม่จริงจังแก้ปัญหา หวั่นเป็นมะเร็งร้าย พร้อมรื้อคดีที่เคยถูกปัดตก ส่วน ตร.ไซเบอร์ ยันประสาน บก.ปปป.ขยายผลคดีที่เกี่ยวพันเว็บพนัน ขณะเดียวกัน เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยอมลาสิกขา อีกรูป

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.นำกำลังตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการกระทำที่เข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ในวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภายหลังพบว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันกับ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ หรือสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี โดยพบภาพและคลิปในโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง บางรายมีหลักฐานการโอนเงินให้กัน รวมภาพถ่ายกว่า 80,000 ภาพ และคลิปอีกกว่า 5,000 คลิป โดยมีพระที่ยอมลาสิกขาไปแล้ว 9 รูป แต่บางรายยังไม่ยอมลาสิกขา ว่าในส่วนของพระเทพปวรเมธี หรือเจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้เข้าพบเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ช่วงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้นำเอกสารมาชี้แจงข้อเท็จจริง ว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกากอล์ฟ แต่อย่างใด และยังไม่ยอมลาสิกขา เพื่อขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากนายตำรวจระดับสูง ซึ่งอยู่ในคณะทำงานกรณีดังกล่าว เปิดเผยว่าคำชี้แจงของเจ้าคุณประสิทธิ์ ที่อ้างว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกากอล์ฟ และจะไม่ยอมลาสิกขา เพื่อขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์นั้น ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่หากพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจากโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ พบว่าขัดแย้งกับคำชี้แจงของเจ้าคุณประสิทธ์ โดยเฉพาะแชตข้อความสนทนาผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ระหว่าง เจ้าคุณประสิทธิ์ กับสีกากอล์ฟ ที่ส่งถึงกัน บ่งชี้เป็นอย่างดีถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่เป็นไปในลักษณะเชิงชู้สาว

วันเดียวกัน นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยมีผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนา และ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา 76 จังหวัด เข้าร่วม โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ได้ฝากภารกิจกับ พศ.ซึ่งก็มีที่ดำเนินการไปแล้ว ตนเข้ามารับตำแหน่งก็เหมือนเป็นการต้อนรับน้องใหม่ที่แรงเหลือเกิน แต่ก็ยินดีจะเข้ามาสังคายนา ช่วยเหลือแก้ไข ส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครอง ป้องกันปัญหาที่กำลังประสบอยู่

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.พศ.ที่ยอมรับว่าได้เห็นแชตเจ้าคุณประสิทธิ์ แล้ว ชี้ว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส หรืออาบัติเบา ไม่ถึงขั้นปาราชิก โดยอยู่ระหว่างให้คณะกรรมการวินิจฉัย ร่วมกันว่าจะพิจารณาอย่างไร หรือให้อยู่ในตำแหน่งไหน ทั้งนี้ สำหรับอาบัติสังฆาทิเสส คือโทษประเภทหนึ่งในวินัยของพระภิกษุสงฆ์ มีความรุนแรงรองจากอาบัติปาราชิก โดยจะประกอบด้วยความผิด 13 ข้อ

รายงานข่าวแจ้งว่าภายหลังจากที่สีกากอล์ฟ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.และ บก.ป.บุกเข้าจับกุมตัวถึงบ้านพักย่านราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 147 ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงินและรับของโจร ก่อนจะมีการสอบสวนดำเนินคดีนั้น ช่วงสายวันเดียวกัน มารดาและญาติ ได้เข้าเยี่ยมสีกากอล์ฟ โดยนำอาหารมาให้ ก่อนจะเดินทางกลับในเวลาประมาณ 11.00 น.โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอติดตามทำข่าว

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ว่าทางตำรวจ บก.ป.ดำเนินการใน 2 คดี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคดีฉ้อโกงทรัพย์อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าถูกสีกากอล์ฟ หลอกยืมเงิน โดยอ้างว่าป่วยแล้วขอยืมเงิน 400,000 บาท แลกยังระบุว่าพร้อมจะแลกกับหลักฐานกรณีที่เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ กรณีนี้มีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจน โดยจะมีการขอเบิกตัวสีกากอล์ฟ มาสอบสวนและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมด้วย

รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีรีดทรัพย์ ที่สีกากอล์ฟ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฯ อยู่แล้ว พบว่ามีความเชื่อมโยงกับอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ในเชิงชู้สาว และแผนประทุษกรรมของสีกากอล์ฟ เมื่อเริ่มสนิทสนมก็จะมีเรื่องเงินตามมา โดยมีหลักฐานเส้นเงินจากอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ โอนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ 8,000 บาท ซึ่งสีกากอล์ฟ อ้างว่าจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับเซรามิก

“สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของพระชั้นผู้ใหญ่ ที่ผิดหลักพระธรรมวินัย เช่น การยักยอกเงินวัด หรือเรื่องอื่นๆ เป็นความรับผิดชอบของทาง บก.ปปป.แต่หากเป็นความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ หรือบุคคลอื่น เช่น การฉ้อโกง หรือยักยอกทรัพย์ จะเป็นหน้าที่ของ บก.ป.ในการดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีในข้อหาอื่นเพิ่มเติม” รอง ผบก.ป.กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ หลังจากได้บัญชีธนาคารมาแล้ว โดยประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป.ซึ่งพบว่ามีการนำเงินไปเล่นพนันในเว็บพนันออนไลน์จริง อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบทุกบัญชี และหากพบบัญชีไหนที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ หรือตรวจสอบพบชื่อพระรูปไหน เข้ามาเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ก็จะพิจารณาดำเนินคดี คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนและได้ข้อสรุปในเรื่องเส้นเงิน

ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติปานแก้ว รอง ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เรียกประชุมคณะทำงานศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย
เพื่อกำหนดทิศทางและวางกรอบการทำงานต่อมาทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าศูนย์ฯ แห่งนี้ จะรับเรื่องร้องเรียนกรณีพระสงฆ์กระทำผิดพระธรรมวินัย มีคู่สายนับสิบสาย เชื่อว่าการดำเนินการส่วนนี้จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ได้ที่ผ่านมา การทำงานร่วมกับ พ.ศ.มักจะไม่ราบรื่นและล่าช้า เนื่องจาก พศ.มีแนวโน้มที่จะปกปิดปัญหาและขาดความเข้มงวดกวดขัน จึงมองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำงานหากปราศจากความจริงใจ โดยจำเป็นต้องบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยไว้ให้กลายเป็นมะเร็งร้ายทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้จะไม่อ่อนข้อใดๆ ทั้งสิ้น

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ตำรวจจะทำตามอำนาจหน้าที่ รวบรวมข้อมูลส่งให้พศ.พิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากไม่มีอำนาจในการไล่พระให้สึก พร้อมกับขอความร่วมมือ พศ.รวบรวมข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของพระสงฆ์กว่า 3 แสนรูป เพื่อตรวจสอบประวัติว่าเคยมีการกระทำผิดหรือไม่ นอกจากนี้กรณีที่มีคนของ พศ.เข้าไปเป็นมัคทายกวัดคอยให้ความช่วยเหลือพระที่ประพฤติไม่เหมาะสม ทางตำรวจจะนำเข้าหารือในที่ประชุมเพื่อรายงานผู้ใหญ่ใน พศ.ทราบและแก้ปัญหาต่อไป

“หลังจากนี้ตำรวจจะรื้อคดีที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ ที่เคยถูกสำนักพุทธฯปัดตกไป และกองซุกอยู่ใต้โต๊ะ ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ทั้งหมด โดยหลังจากเปิดศูนย์ฯ ก็ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่ามีพระผู้ใหญ่หลายรูป
ที่มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีสีกากอล์ฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอเวลาตรวจสอบก่อน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวและว่า ในคดีของสีกากอล์ฟ ยืนยันว่ามีหลักฐานว่าพระกระทำไม่เหมาะสม มีการมอบของขวัญเกินกว่าฐานะพระกับฆราวาส รวมทั้งเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยง นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลที่ยืนยันการส่งเงินในลักษณะเหมือนทำบุญจากตู้บริจาคผ่านพัสดุไปรษณีย์ ให้สีกากอล์ฟ นำไปใช้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่อดีตพระมหาบุญเลิศ ซึ่งเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลกรณีสีกากอล์ฟ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าเป็นเคสที่น่าสงสาร เนื่องจากพยายามหนีการเสพ
สังวาสจากสีกากอล์ฟหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็พลาด เพราะสีกากอล์ฟนำเด็กมาเป็นเหยื่อล่อ หลังจากเกิดเหตุก็สำนึกว่าศีลขาดจึงยุติการบวชพระใหม่ ทั้งยังโดนสีกากอล์ฟหลอกว่าเด็กป่วยและยืมเงินเพื่อนำไปรักษาเด็ก หลักแสนบาท แต่ภายหลังตรวจสอบที่โรงพยาบาล กลับไม่พบประวัติการรักษา

วันเดียวกัน ภายหลังมีกระแสข่าวออกมาว่า พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งหายตัวไปหลายวันและไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากตกเป็นข่าวมีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยมีภาพหลุดออกมา ก่อนที่นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้แจ้งสหธรรมิกใกล้ชิดว่าจะสละสมณเพศ ในวันนี้ ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้สละสมณเพศแล้ว ในเวลา 11.29 น. ที่วัดสว่างอารมณ์ อ.บ้านตาก จ.ตาก

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปัจจุบัน เรื่องความมั่นคงมีรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการต่อสู้ป้องกันประเทศ แต่พูดถึงภัยด้านความมั่นคงในหลายมิติ อย่างเรื่องศาสนา ที่เพิ่งเกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องความมั่นคง ซึ่งปกติเราไม่เคยทำอะไรที่มากไปกว่าการจับสึก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมวงการคณะสงฆ์ เดิมแค่จับสึก วันนี้
จะเริ่มเห็นจับพระลาสิกขาบทมารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งหากติดตามข่าววันที่ 17 ก.ค.เป็นต้นไปจะพบว่ามีกระบวนการจับกุมสีกาทั้งหลายที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหา ย้ำว่าพระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คือผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันของชาติ และถือว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน