วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
นักวิชาการหนุนรัฐใช้กฎกระทรวงคุมเข้มการเงินวัด  ชี้เป็นการแก้ปัญหาตรงจุด

นักวิชาการหนุนรัฐใช้กฎกระทรวงคุมเข้มการเงินวัด ชี้เป็นการแก้ปัญหาตรงจุด

วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 12.43 น.
Tag : กฎกระทรวง เงินวัด ตรวจสอบ ธรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ ป.ป.ช. ผศ.ดร.กริช ภูญียามา อาจารย์
  •  

อาจารย์นิติฯ มธ.หนุนรัฐใช้กฎกระทรวงคุมเข้มการเงินวัด  ชี้เป็นการแก้ปัญหาตรงจุด  ระบุข่าวพระสงฆ์ที่เกิดขณะนี้ ทำศรัทธาสั่นคลอน มาจากระบบบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด ที่พระชั้นผู้ใหญ่มีอำนาจบริหารจัดการ โดยไม่มีการตรวจสอบ  ยันไทยมีกฎหมายคุมวัดถือเงินสดได้ไม่เกิน 1 แสน และต้องทำบัญชีรายรับ-จ่ายรายปี ตั้งแต่ 2564 แล้ว

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม  ผศ. ดร.กริช ภูญียามา  อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการออกประกาศบังคับใช้กฎกระทรวง ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดทำไว้แล้วมาบังคับใช้  เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของวัด ถือเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด  เพราะจะเห็นได้ว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ ล้วนเป็นพระระดับชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น ซึ่งมีต้นตอมาจากความไม่โปร่งใสในระบบการจัดการทรัพย์สินของวัดที่พระชั้นผู้ใหญ่มีอำนาจและสามารถเข้าถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินโดยไม่มีการตรวจสอบ


ผศ. ดร.กริช กล่าวว่า การออกกฎกระทรวงฯ เพื่อควบคุมเงินวัดนั้นสามารถทำได้ เนื่องจากวัดในพระพุทธศาสนามีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน   ขณะที่พระสังฆาธิการ หรือพระที่ดำรงตำแหน่งทางปกครองในคณะสงฆ์ ตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาสไล่ขึ้นไปจนถึงสมเด็จพระสังฆราช พิจารณาในทางหลักการแล้ว ตำแหน่งเหล่านี้มิได้มีลักษณะแตกต่างจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในฝ่ายบ้านเมืองเลย เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเช่นว่านั้นต่างได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากรัฐที่เรียกว่า “นิตยภัต” ซึ่งมาจากงบประมาณแผ่นดินโดยตรง และประการสำคัญคือ มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะให้คุณให้โทษในเรื่องต่างๆได้

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันแล้ว กลับยังมีความไม่ชัดเจนบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งนี้ เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตีความว่าพระไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. ส่งผลให้กระบวนการยื่นบัญชีและการตวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินตามกฎหมายดังกล่าว ไม่อาจนำมาใช้กับบรรดาพระสังฆาธิการเหล่านี้ได้

ผศ. ดร.กริชกล่าวว่า เมื่อศึกษาข้อกฎหมายแล้วพบว่า กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมทรัพย์สินของวัดนั้นมีอยู่แล้ว นั่นคือ “กฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564” ซึ่งระบุชัดเจนว่า วัดทุกแห่งสามารถเก็บเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนที่เหลือจะต้องนำฝากเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดในนามของวัด  นอกจากนี้ กฎกระทรวงฉบับเดียวกันยังระบุให้วัดทุกแห่งต้องจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และต้องสรุปยอดรวมพร้อมคงเหลือในทุกสิ้นปีปฏิทินอีกด้วย

สำหรับการดำเนินงานตามกฎกระทรวงข้างต้น พศ. ต้องเป็นหน่วยงานที่คอยให้คำแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องในการปฏิบัติของวัดต่าง ๆโดยตามข้อ 10 ของกฎกระทรวงฉบับนี้กำหนดให้ พศ. เป็นผู้กำหนดแบบฟอร์มของบัญชี และแบบพิมพ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่วัดในด้านการจัดทำทะเบียน การดูแล และการบริหารจัดการศาสนสมบัติอย่างเป็นระบบ

ผศ. ดร.กริชกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สิ่งที่สมควรจับตามองคือ แนวทางการจัดทำกฎหมายฉบับใหม่ในชื่อ “พ.ร.บ. การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา”  ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การบัญญัติโทษทางอาญาทั้งโทษปรับและโทษจำคุกแก่พระภิกษุและสีกาที่ร่วมเสพเมถุนจนต้องอาบัติปาราชิก  วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก    อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีข้อสังเกตว่า หากจะมีการออกกฎหมายเช่นนั้นจริงก็เป็นเรื่องที่จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง  โดยการบัญญัติกฎหมายที่มีโทษทางอาญาต้องใช้ถ้อยคำที่ชัดเจนปราศจากความคลุมเครือ   เพราะโทษที่กฎหมายกำหนดไว้มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอย่างรุนแรง   

“ความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าการออกกฎหมายลงโทษพระ ที่มีความสัมพันธ์กับสีกานั้น แม้จะดูเหมือนเป็นการจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ก็อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะในหลายกรณี ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ระบบการเงินของวัด  ซึ่งเปิดช่องให้พระสังฆาธิการบริหารจัดการได้อย่างไม่มีกลไกการตรวจสอบที่เพียงพอ หากไม่แก้ไขเรื่องนี้ ปัญหาเดิมก็จะกลับมาอีก” ผศ. ดร.กริช กล่าว

ผศ. ดร.กริชกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากประเด็นการกำหนดโทษทางอาญาแก่พระภิกษุและสีกา ซึ่งกำลังอยู่ในความสนใจของผู้คนแล้ว  พศ. ยังได้ใช้กระแสสังคมที่เกิดขึ้น ผลักดันให้มีการบัญญัติกฎหมายเอาผิดบุคคลซึ่งดูหมิ่น ล้อเลียน หรือบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนาไปในคราวเดียวกันด้วย  ซึ่งประเด็นดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากบทกฎหมายเช่นนี้อาจกลายเป็นเครื่องมือในการ “ปิดปาก” สาธารณชนในการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ และให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับกิจการทางพระพุทธศาสนา ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในสังคมประชาธิปไตย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ม.ธรรมศาสตร์’มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร 7 สาขา ตอกย้ำความก้าวหน้าทางวิชาการ ‘ม.ธรรมศาสตร์’มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร 7 สาขา ตอกย้ำความก้าวหน้าทางวิชาการ
  • \'อธิการบดี มธ.\'ประกาศความพร้อม ดูแลคนไทยใน\'สังคมสูงวัย\' 'อธิการบดี มธ.'ประกาศความพร้อม ดูแลคนไทยใน'สังคมสูงวัย'
  • คิกออฟ TU Care & Ageing Society \'ธรรมศาสตร์\' ประกาศความพร้อม เป็นกำแพงพิงหลังใน \'สังคมสูงวัย\' คิกออฟ TU Care & Ageing Society 'ธรรมศาสตร์' ประกาศความพร้อม เป็นกำแพงพิงหลังใน 'สังคมสูงวัย'
  • นิติศาสตร์ จุฬาฯ แถลงการณ์ เสียใจข้อสอบรั่ว ยันผู้ต้องหาไม่ใช่ศิษย์เก่า สั่งตั้งกรรมการสอบ นิติศาสตร์ จุฬาฯ แถลงการณ์ เสียใจข้อสอบรั่ว ยันผู้ต้องหาไม่ใช่ศิษย์เก่า สั่งตั้งกรรมการสอบ
  • มติเอกฉันท์! เลือก‘ภูวนารถ ณ สงขลา’เป็นนายกสมาคมวารสารศาสตร์ ต่อเนื่องสมัยที่ 2 มติเอกฉันท์! เลือก‘ภูวนารถ ณ สงขลา’เป็นนายกสมาคมวารสารศาสตร์ ต่อเนื่องสมัยที่ 2
  • ‘นักเรียน’เฮ! สั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผม’ ชี้จำกัดเสรีภาพ-ไม่สอดคล้องอัตลักษณ์ ‘นักเรียน’เฮ! สั่งเพิกถอนกฎกระทรวงเรื่อง‘ทรงผม’ ชี้จำกัดเสรีภาพ-ไม่สอดคล้องอัตลักษณ์
  •  

Breaking News

ปลัดศธ.แจงรมว.ศธ.ให้ใส่ชุดไปรเวทได้ในวันหยุด

‘วิสุทธิ์’แย้ม‘นายใหญ่’ร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมฯ22ก.ค.นี้ ชี้ไปให้คำแนะนำ เปล่า‘ชี้นำ-ครอบงำ’

'กองทัพบก'โต้'กัมพูชา' คลิปทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานเท็จ ซัด! 'PMN-2 รัสเซีย' ไม่อยู่ในสารบบกองทัพไทย

‘เพื่อไทย’คาดเคาะชงชื่อ‘รองปธ.สภาฯคนที่2’อังคารนี้ ย้ำล็อกโควตาให้ ‘สส.อีสาน’ก่อน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved