ผู้ว่าศรีสะเกษปิดศูนย์อพยพกันทรลักษ์ ส่งผู้ประสบภัยกลับบ้านปลอดภัย เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดให้ความรู้แกชาวบ้านในการสังเกตความผิดปกติของบ้านเรือนที่อาจมีวัตถุอันตรายตกค้าง ให้เร่งแจ้งเจ้าหน้าที่และอย่าสัมผัส

9 สิงหาคม 2568 เวลา 17.00 น. นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และฝ่ายปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในวัดนากันตม บ้านนากันตม ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษ์ เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัยก่อนปิดศูนย์อพยพอย่างเป็นทางการ และจัดรถนำส่งประชาชนกลับบ้านอย่างอบอุ่น

 ศูนย์พักพิงแห่งนี้เปิดขึ้นเพื่อรองรับประชาชนจากตำบลเสาธงชัยและตำบลภูผาหมอก ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดยมีผู้อพยพกว่า 500 คนเข้าพักอาศัยชั่วคราว หลังย้ายออกจากวิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ ที่ขอคืนพื้นที่เพื่อเปิดการเรียนการสอน ต้องอพยพจากบ้านเรือนกว่า ครึ่งเดือน

 ก่อนการปิดศูนย์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ EOD และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 หรือ ตชด.22 ได้ให้ความรู้แก่ประชาชนในการสังเกตุความผิดปกติของบ้านเรือนที่อาจมีวัตถุอันตรายตกค้าง เช่น ร่องรอยทะลุของเพดานหรือผนัง พบจุดตกกระสุนปืนใหญ่ เป็นรูลึก มีเศษเหลือ มีน้ำขังจุดตก ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ พร้อมเน้นย้ำห้ามแตะต้องโดยเด็ดขาด หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. หรือหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้เข้าตรวจสอบและดำเนินการอย่างปลอดภัย

 นายอนุพงศ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยภายใต้ความร่วมมือ “บวร” บ้าน วัด ราชการ โรงเรียน ได้ช่วยกันดูแลความเป็นอยู่ในทุกด้าน ทั้งอาหาร สุขภาพกาย-ใจ ความปลอดภัย และเครื่องอุปโภค-บริโภค ทั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ที่ดูแลหมู่บ้าน 24 ชั่วโมง จนสถานการณ์คลี่คลายและสามารถส่งผู้ประสบภัยกลับสู่บ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย

 ขบวนการส่งตัวผู้ประสบภัยกลับบ้านมีทั้งนายอำเภอกันทรลักษ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ร่วมอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ซึ่ง เป็นพื้นที่ตำบลกระสุนตก และได้รับความเสียหายจากเหตุลูกระเบิดตกใส่หลายหลังคาเรือน หลายครอบครัวรู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้านเพื่อดูแลทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยง แต่ก็มีบางส่วนที่ยังวิตกเรื่องภาระหนี้สิน ค่าน้ำ ค่าไฟ รายได้ที่สูญเสียจากการหยุดประกอบอาชีพ ทั้งร้านค้าขายของชำ หรือสวนยางที่ไม่ได้กรีดยาง ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่หลายครอบครัวสะท้อนให้ภาครัฐเร่งเข้าไปช่วยเหลือ

 สำหรับบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ได้มีการกันพื้นที่และห้ามเข้าชั่วคราว โดยประชาชนต้องอาศัยอยู่กับญาติไปก่อน ขณะเดียวกันผู้ที่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ต่างรู้สึกโล่งใจที่ได้กลับมาอยู่ในถิ่นฐานของตน และยังคงติดตามสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิดต่อไป