อึ้ง!พุ่งหมื่นล้าน

เส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

‘บิ๊กเต่า’ชี้ใครเอี่ยวผิดหมด

“บิ๊กเต่า” คาดเส้นเงินอดีตพระอลงกต-หมอบี อาจถึงหมื่นล้านบาท หลังจากพบเครือข่ายจำนวนมาก-เดินสายรับบริจาคทั่วประเทศ ยันหากพบใครเกี่ยวข้องดำเนินคดีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ หรือนักการเมือง ด้านรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เร่งฟื้นฟูวัด-ดูแลผู้ป่วย 203 คน

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบปราม จับกุมอดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรืออดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานฯ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และข้อหาที่เกี่ยวข้อง และจับกุมนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เบียดบังยักยอกทรัพย์ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันฟอกเงิน เนื่องจากทั้งสอง มีพฤติการณ์ยักยอกเงินบริจาควัดดังกล่าว และพบการกระทำอื่นที่เข้าข่ายความผิด โดยมีการตรวจค้นเป้าหมายต่างๆ กว่า 17 จุด ยึดเอกสารและหลักฐานต่างๆ เพื่อตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามียอดเงินนับพันล้านบาท และยังมีผู้ที่เข้าข่ายเกี่ยวพันกับการกระทำผิดเพิ่มเติม ว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า การดำเนินคดีกับเครือข่ายอดีตพระอลงกต และหมอบี ยังคงมีผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เช่นในวันเดียวกันนี้ มีคณะกรรมการมูลนิธิพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ จ.ลพบุรี เข้ามาพบพนักงานสอบสวน น่าจะเป็นกลุ่มบุคคลที่พบเห็นการกระทำความผิดหลายเรื่อง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินในคดีนี้ ก็จะมาให้ข้อมูลด้วย

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลจำนวนมาก แต่อาจจะต้องขอหลักฐานเส้นทางการเงินมาประกอบ ซึ่งพฤติการณ์เครือข่ายนี้มีลักษณะเป็นบริษัท “อลงกตการละคร” มีเจ้าหน้าที่แต่ละตำแหน่งคอยเก็บเงิน และบริหารการเงิน หากตำรวจมีความชัดเจนในทุกเรื่อง ก็จะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ ดังนั้นขอให้ตำรวจได้ทำงานให้เกิดความชัดเจนอีกสักระยะหนึ่ง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเส้นทางการเงินของวัด หรืออดีตพระอลงกต และเครือข่าย เชื่อมโยงกับดารา หรือกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวยืนยันว่า หากมีพยานหลักฐานตำรวจจะดำเนินคดีไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะเป็นดารา อินฟลูเอนเซอร์ หรือนักการเมือง หากใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินหรือผลประโยชน์ ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ถ้าตนยังดำรงตำแหน่งอยู่ เพราะคดีนี้อดีตพระอลงกต ได้ตระเวนเรี่ยไรเงินไปทั่วประเทศ ไม่เหมือนกับวัดทั่วไป ที่จะมีคนเข้ามาบริจาคแค่ในพื้นที่

“คดีนี้มีความเสียหายอยู่ทั่วประเทศ และอาจไม่ใช่แค่หลักพันล้านบาท แต่อาจจะเขยิบขึ้นไปเรื่อยๆ และอาจแตะถึงหลักหมื่นล้านบาท หรือมากกว่านั้น ซึ่งตำรวจจะขยายผลให้ชัดเจน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับวัดบางวัดที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กันนี้” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ด้านพระครูสุวัฒน์กิตติสาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ลงพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อตรวจสภาพโดยรวมของวัด จุดวางสิ่งของบริจาคซึ่งเป็นลักษณะคลังอยู่ภายในโดมขนาดใหญ่ด้านหน้าวัด เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการสิ่งของบริจาคต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ ภายหลังเข้ามารับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ทางพระครูสุวัฒน์กิตติสาร ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเขาสามยอด ตามคำแนะนำของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของ จ.ลพบุรี เพื่อทุ่มเทเวลาและกำลังกายกำลังใจในการแก้ไขปัญหาภายในวัดที่สะสมมานาน และรอการพิจารณาของพระผู้ใหญ่ในการแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่

พระครูสุวัฒน์กิตติสาร กล่าวว่า นโยบายของอาตมาคือการอยู่ร่วมกัน สุขด้วยกัน ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน ต้องถือว่าวัดเป็นบ้านของตัวเอง แม้เผชิญวิกฤติศรัทธา เราต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคี และน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในส่วนของการบริหารบัญชีวัดนั้นจะเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมปรับปรุงสิ่งที่ไม่ถูกต้องและแก้ไขปัญหาที่คั่งค้าง โดยต้องขอความร่วมมือญาติโยมและผู้ที่มีน้ำใจในการช่วยเหลือผู้ป่วย 203 คน ทั้งที่ช่วยเหลือตัวเองได้และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็จะประหยัดให้ได้มากที่สุด ทั้งค่าน้ำ-ค่าไฟ และรายจ่ายอื่นๆ เราจะดูแลให้ดีที่สุด