ซุบซิบกทม.

น้ำท่วมพนังกั้นน้ำพังที่หล่มสัก  เรื่องนี้ได้ทำความเสียหายให้ประชาชนทั้งต้นน้ำปลายน้ำอย่างหนักและสาหัสสุดๆ ที่สำคัญน้ำที่ลงมารวมอยู่หน้าพนังกั้นน้ำก่อนพนังจะแตกยับก็รับรู้กันทั่วหน้าสภาพน้ำเป็นสีแดงขุ่นเข้ม นั่นแปลว่าน้ำที่ลงมาเป็นน้ำจากภูเขา และบนภูเขาก็มีการทำลายป่ากันจนกลายเป็นเขาหัวโล้น อย่าว่าแต่หล่มสัก เพชรบูรณ์เลย แม่ฮ่องสอน ,เชียงใหม่ ,เชียงราย ,โคราช หรืออีกหลายๆที่เมื่อเจอปัญหา“ชะตากรรมชะตาทราม”เกิดน้ำท่วมขึ้น สภาพสีของน้ำจะเป็นสีถนนดินแดงทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็เพราะน้ำที่ไหลมาจากภูเขาไม่มีต้นไม้ปกคลุม และที่ไม่มีต้นไม้ปกคลุมก็เพราะ“มนุษย์นายทุนอุบาทว์”ลักลอบตัดทำลายป่าจนเหี้ยนโล่งเตียน แถมบางที่บางแห่งก็มีนักการเมืองสวะสกปรกอยู่เบื้องหลังความทุรยศอุบาทว์ดังกล่าวอีกต่างหาก...ดังนั้นเมื่อเกิดน้ำท่วมและน้ำเป็นดินโคลนแดงลงมา ขณะเดียวกันก็มีการโวยวายตัดพ้อต่อว่า“ไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐฯ ”คำถามที่ทุกคนต้องคิด คือ ทำไมการตัดไม้ทำลายป่าประชาชนจึงไม่ร่วมกันเป็นหูเป็นตาและแจ้งเหตุเมื่อสงสัย หรือปรากฎว่ามีมนุษย์“จัญไร”อีแอบเข้าขึ้นไปทำลายป่า เพราะบางที่บางแห่งประชาชนรู้ดีเสียด้วยซ้ำ นายทุนอัปรีย์กลุ่มไหนอยู่เบื้องหลัง...จึงมาถึงคำถามกระหึ่มหลังพนังกั้นน้ำหล่มสักแตก เหตุใดรัฐบาลถึงไม่กำหนดโทษทางอาญาเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่าให้ถึงขั้นประหารชีวิต เพราะถ้ากฎหมายยังอ่อนแอไม่แข็งแรง หรือฝ่ายหรือคนนำกฎหมายไปบังคับใช้ไม่เด็ดขาด ภาพการ“ทุกขเวทนา”ของประชาชนก็จะยังคงต้องหลอกหลอนสืบต่อไป ขณะเดียวกันถ้ารัฐบาลเข้มข้น สภาฯเองก็รุกหนักจับมือแก้ไขกฎหมายกำหนดโทษคนบุกรุกป่าทำลายต้นน้ำจริงจัง จับได้ให้ประหารชีวิตเสีย ปัญหานี้งดหายแน่นอน  เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่า เป็นภัยใหญ่หลวงกับความมั่นคงของชาติ...น้ำท่วมในหลายๆที่ๆผ่านมาทางภาคเหนือหรือภาคไหนๆต่างล้วนรู้เช่นเห็นชาติ สาเหตุใหญ่มาจากอะไรเป็นหลัก แต่หลังจากความพินาศผ่านพ้น กระแสการเรียกร้องหรือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผลักดันแนวทางดังกล่าวงดหายสิ้นเสมอ ซึ่งอาจเป็นเพราะนิสัยคนไทย“โกรธง่ายหายเร็ว” พอวันเวลาผ่านไปก็ลืม ...“นพพิตำ ”อำเภอพิบูล จังหวัดนครศรีธรรมราช พี่น้องประชาชนยังจำกันได้หรือไม่ วันนั้นน้ำและซุงขนาดใหญ่ที่“มนุษย์ชั่วช้าเลวชาติ”ตัดซุกเอาไว้รอการชักลากหรือแปรรูป มันไหลงลงจากภูเขาพร้อมๆกับน้ำฝน จนสร้างความพินาศเป็นวงกว้าง แต่ทางการไม่มีปัญญาจับใครได้เลย ดังนั้นหล่มสักไม่ใช่ที่สุดท้าย ...ส่วน กทม.ถ้าสถานการณ์ไม่เลวร้าย เช่น น้ำทะเลหนุน เจ้าพระยาล้น พนังกั้นน้ำหรือเขื่อนริมเจ้าพระยาพังเกลี้ยง กอร์ปกับฝนตกหนักติดต่อยาวนานนับคืนนับวัน การันตีได้ว่าไม่ท่วม เพราะปราการด่านอ่อนไหวทุกจุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯตีนติดดินประกาศิตเข้มข้นให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายซึ่งเกี่ยวข้องทำงาน 24 ชั่วโมงเมื่อเกิดฝนหนักเพื่อระบายน้ำออกจากจุดล่อแหลมในเวลาที่รวดเร็ว...

ไผ่ฎำ

036