หนักสุดในรอบปี! ฤทธิ์พายุ ‘บัวลอย’ ทำน้ำท่วมหล่มสัก-หล่มเก่าเสียหายยับ

หนักสุดในรอบปี! ฤทธิ์พายุ ‘บัวลอย’ ทำน้ำท่วมหล่มสัก-หล่มเก่าเสียหายยับ

วันอังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.24 น.

จังหวัดเพชรบูรณ์เผชิญสถานการณ์อุทกภัย หนักหน่วงที่สุดในรอบปี จากอิทธิพลของ พายุ "บัวลอย" โดยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม อ.หล่มเก่า กว่า 500 หลังคาเรือน บางจุดน้ำสูงเกือบมิดหลังคา ขณะที่ อ.หล่มสัก สถานการณ์รุนแรงเมื่อแม่น้ำป่าสักกัดเซาะ ถนนเชื่อมบ้านวังร่องขาด 10 เมตร และพนังกั้นน้ำ ต.วัดป่า พังซ้ำ เป็นครั้งที่ 6 ในรอบปี จนชาวบ้านอยู่ในภาวะสิ้นหวัง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องระดมกำลังใช้เรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างอย่างทุลักทุเล

วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากอิทธิพลของ พายุ ‘บัวลอย’ ที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน นำมาซึ่งน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ อ.หล่มสัก และ อ.หล่มเก่า


ในพื้นที่ ต.ตาดกลอย และ ต.นาแซง อ.หล่มเก่า น้ำป่าจากเทือกเขาได้หลั่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 500 หลังคาเรือน สถานการณ์ที่บ้านวังขอน นับว่าวิกฤตที่สุดเนื่องจากระดับน้ำสูงจนเกือบมิดหลังคา ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและอาสากู้ภัยต้องเร่งเข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ยังติดอยู่ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เส้นทางคมนาคมก็ถูกตัดขาด ถนนสายกกกะทอน–น้ำหนาว บริเวณสะพาน S.33 ถูกน้ำท่วมสูงจนรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ หมวดทางหลวงตาดกลอยต้องติดตั้งป้ายเตือนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เส้นทางเลี่ยงไปใช้ทาง บ้านหนองยาว–หนองกลางแก้ว–ตาดกลอย แทน

ในส่วนที่ อ.หล่มสัก สถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อ แม่น้ำป่าสักที่มีระดับเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ได้กัดเซาะถนนเชื่อมต่อ บ้านวังร่อง–แก่งยาว ต.ห้วยไร่ ขาดเป็นระยะทางกว่า 10 เมตร ทำให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักลงสู่คลองชลประทานและแผ่ขยายเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอย่างรวดเร็ว

ความเสียหายที่สร้างความสิ้นหวังให้กับชาวบ้านอย่างหนักคือ เหตุการณ์ที่พนังกั้นน้ำในพื้นที่หมู่ 9 ต.วัดป่า ซึ่งเพิ่งซ่อมแซมไปก่อนหน้านี้ ถูกกระแสน้ำซัดจนพังลงอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนอย่างหนักเป็น ครั้งที่ 6 ภายในปีนี้ ชาวบ้านต่างรู้สึกเอือมระอาหลังเพิ่งเผชิญน้ำลดไปได้ไม่กี่วัน

นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น ต.ห้วยไร่ มีปริมาณน้ำเต็มความจุจนล้นผ่านสะพานฉุกเฉินสูง 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเปิดประตูสปิลเวย์ 2 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำออก ทำให้พื้นที่การเกษตรและชุมชนใน ต.ห้วยไร่ ถูกน้ำท่วมขังสูงราว 30 เซนติเมตรเช่นกัน

นายภาณุมาศ ทีมเรือหน่วยกู้ภัยกกไทร กล่าวว่า ในรอบนี้มวลน้ำมาจากรอบทิศ สุดที่จะป้องกันได้ สิ่งที่ทำได้คือการเตรียมอพยพประชาชนให้ทันในช่วงกลางวัน ก่อนที่น้ำจะมาถึง เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

ขณะนี้ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความโกลาหล เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านบางครอบครัวที่ยังคงติดอยู่ภายในบ้านเรือนออกมาอย่างทุลักทุเล สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้นับว่าสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วง คาดว่าพื้นที่การเกษตรหลายพันไร่และบ้านเรือนจำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งต้องมีการประเมินความเสียหายที่แท้จริงต่อไป ///-026

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top