ชาวบ้านศรีสะเกษหวัง'แม่ทัพคนใหม่'แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเด็ดขาด

ชาวบ้านศรีสะเกษหวัง'แม่ทัพคนใหม่'แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเด็ดขาด

วันพุธ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.05 น.

ประชาชนชายแดนศรีสะเกษหวัง'แม่ทัพคนใหม่'แก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2568 ที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ชาวบ้านยังคงจับตาสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความเคลื่อนไหวสำคัญจากทั้งรัฐบาลและกองทัพ


หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีคำสั่ง “จัดเต็ม” มาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน โดยบูรณาการกำลังจาก ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ขณะเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 ก็มีการเปลี่ยนถ่ายตำแหน่งสำคัญ ส่งไม้ต่อจาก “แม่ทัพกุ้ง” พลโท บุญสิน พาดกลาง ให้กับ “แม่ทัพเติ่ง” พลตรี วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ นักรบลูกอีสานผู้ผ่านสมรภูมิชายแดนมาอย่างโชกโชน

แม่ทัพเติ่ง เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันเฉพาะกิจพระวิหารในช่วงวิกฤตการณ์ปี 2554 โดยรับผิดชอบพื้นที่ยุทธศาสตร์ อาทิ ช่องอานม้า ภูมะเขือ และแนวปราสาทตาเมือน–ตาควาย ทั้งในด้านการสู้รบ การรักษาความสงบ และการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม จึงทำให้ชาวบ้านชายแดนมีความหวังว่า การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้จะสามารถคลี่คลายปัญหาเขตแดนได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายบรรยง อายุ 62 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล เปิดเผยว่า ชาวบ้านรับรู้ว่าแม่ทัพคนใหม่มีประสบการณ์ตรงและเข้าใจพื้นที่อย่างดี จึงคาดหวังให้มีการแก้ปัญหาความมั่นคงอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการรุกล้ำอธิปไตยและการตรึงกำลังที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการประกอบอาชีพของประชาชน

“ประชาชนปากท้องก็ลำบากอยู่แล้ว ยังต้องมานั่งกลัวว่าฝ่ายเขมรจะยิงปืนใหญ่เข้ามาอีกหรือไม่ คนที่อยู่ใกล้แนวชายแดนจะไปทำนาทำไร่ก็ต้องหวาดระแวงตลอดเวลา อยากให้แม่ทัพเด็ดขาด แต่ก็นุ่มนวล เหมือนแม่ทัพบุญสิน เพื่อดูแลพื้นที่ แก้ปัญหาให้เขตแดนชัดเจน หากเจรจาไม่เป็นผล ก็ควรดำเนินการเด็ดขาดให้เรื่องจบ” นายบรรยง กล่าว

ขณะที่ นายปิง อายุ 74 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน ระบุว่า แม้ยังไม่เคยพบแม่ทัพคนใหม่ แต่มั่นใจในประสบการณ์และความเด็ดขาด พร้อมยืนยันว่าชาวบ้านพร้อมให้กำลังใจและยืนหยัดเคียงข้างเจ้าหน้าที่ หากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้ง หลายครอบครัวได้เตรียมพร้อมสิ่งของจำเป็นสำหรับการอพยพไว้แล้ว

นอกจากนี้ ชาวบ้านหลายรายยังสนับสนุนแนวคิดการสร้างรั้วหรือกำแพงบริเวณแนวชายแดน เพื่อแสดงอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และลดความเสี่ยงต่อชีวิตของทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ โดยเสนอแนวคิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเพียงคนละ 10–20 บาท ก็สามารถระดมทุนสร้างรั้วที่แข็งแรงและปลอดภัยได้ “ไม่ต้องกลัวถูกลอบวางระเบิดหรือทหารเหยียบกับระเบิดอีก” ชาวบ้านกล่าวอย่างมีหวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายบรรยงยังชี้ให้ดูบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยที่ตนและชาวบ้านเคยใช้หลบภัยในช่วงเหตุปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เฝ้าหมู่บ้านดูแลทรัพย์สินให้ชาวบ้านที่อพยพ ทำอาหารด้านในบังเกอร์ และรักษาความสงบ ให้ชาวบ้านที่อพยพมีความอุ่นใจ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top