วันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว และอาคารสถานีตำรวจนครบาล สามเสน ที่เกิดความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมความคืบหน้าการดำเนินการ
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า มีการสไลด์ของดินและทำให้เสาเข็ม สน.สามเสน หักเพิ่ม คือเสาต้นที่ 5 ซึ่งเป็นเสาหลักในการรับน้ำหนักของ สน. ชำรุด และความเสียหายได้ขยายตัวต่อเนื่องไปยังเสาต้นที่ 3 ทำให้มีกำลังรับน้ำหนักได้น้อยลง แม้ยังไม่ถึงขั้นทำให้อาคารพังถล่ม แต่ทำให้เห็นว่ามีความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย และคนที่ลงไปทำงานจะได้ไม่กังวลทั้งเรื่องตึกถล่มและดินสไลด์ หากเรากำจัดปัญหาด้านบนไปก่อน เชื่อว่าการทำงานจะปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น ทั้งนี้ เสาเข็มที่หัก เกิดจากการสไลด์ของดินไม่ได้เกิดจากทำงานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำให้มั่นคงมากขึ้นด้วย ไม่ได้ทำให้เกิดความกระทบกระเทือน หรือเสียหายเพิ่มขึ้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เราพยายามทำตอนแรกคือ เพื่อกู้เอาถนนกลับมา เรื่องการรื้อถอนหรือไม่ในตอนนั้นต้องประเมินอีกครั้ง เพราะ สน.สามเสน เป็นอาคารใหม่ แต่สถานการณ์ขณะนี้ปรากฏว่าอาคารเกิดความเสียหายเพิ่มเติม และมีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา จึงต้องมีการรื้อถอน ซึ่งโอกาสรื้อถอนทั้งตึกมีความเป็นไปได้สูงเนื่องจากเป็นอาคารใหม่และมีความเชื่อมต่อเนื่องทั้งตึก เชื่อว่าหากแก้ไขเฉพาะจุดอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยงบประมาณก่อสร้างตึก อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายจะมีการหารืออีกครั้ง ซึ่งเป็นผู้รับจ้างของ รฟม.
สำหรับการรื้อถอนอาคาร จะทยอยรื้อจากฝั่งขวาสุดที่เป็นจุดที่เสาขาดก่อน และต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยระบบการรื้อถอนคาดว่าจะใช้เครื่องจักรคล้ายแขนหุ่นยนต์ไปตัด และยกวัสดุขึ้นรถเทรลเลอร์และขนออกเลย ไม่มีการกองทับลงในหลุม จากนี้จะมีการวางแผน และบ่ายนี้จะเริ่มดำเนินการได้ โดยสรุปมาตรการดำเนินการจากนี้คือ
1. นำรถในพื้นที่อาคารออกให้หมดเพื่อลดความเสียหาย
2. เริ่มรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน
3. เสริมความมั่นคงพื้นที่ทำงาน
4. ค้ำยันใต้ดินเพิ่ม
5. ตรวจอาคารแฟลตตำรวจ (ข้างเคียง) เพิ่มเติม
6. ดูแลโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งไม่ต้องกังวลเพราะมีบุคลากรเฝ้าระวังอยู่ตลอด ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในการดูแล
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดการณ์ว่าการรื้อถอนจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ เพราะเราไม่ได้เร่ง แต่สามารถทำควบคู่กันได้ เมื่อเรารื้อถอนไปถึงจุดหนึ่งที่น้ำหนักตัวอาคารไม่เป็นอันตรายแล้ว การทำงานในหลุมยุบก็สามารถดำเนินการคู่ขนานได้ต่อ สำหรับอุปสรรค ด้านผลกระทบจากฝนตก ก็มีผลกระทบได้เพราะฝนจะชะล้างหน้าดินทำให้มีการสไลด์มากขึ้น และต้องดูระดับน้ำในหลุม ซึ่งต้องให้ทาง รฟม. และผู้รับเหมา เป็นผู้ควบคุมว่าให้สูบน้ำตอนไหนและแจ้งให้ทาง กทม. ดำเนินการ แต่ก็ไม่เป็นปัญหากับการรื้อถอน อีกด้านคือ มีท่อประปาที่อยู่ถัดไปไม่ไกลบริเวณสี่แยกฝั่งวชิรพยาบาล ซึ่งได้แจ้งผู้รับเหมาแล้วให้ระวัง
ส่วนห้องแถวบริเวณหัวมุมถนน ประเมินแล้วยังไม่มีอะไร ปัจจุบันยังไม่ให้กลับเข้ามาอาศัยและได้ให้ที่พักชั่วคราวอยู่ รวมถึงบ้านเรือนใกล้เคียงได้ทำการเฝ้าระวังตลอด หลังไหนที่มีความเสี่ยงก็ให้ย้ายออกไปหมดแล้ว และได้ขยายเวลาการกลับเข้ามาในพื้นที่ไปก่อน เช่นเดียวกับ สน.สามเสน ที่ต้องเช่าที่ทำการชั่วคราว โดย รฟม. และผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบดูแลผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้ ทำให้การเปิดถนนสามเสน อาจมีความล่าช้าขึ้นเป็นหลังวันที่ 9 ต.ค. 68 แต่ปัจจุบันการจราจรบริเวณนี้ยังไม่วิกฤต เพราะโรงเรียนยังปิดเทอมอยู่ วชิรพยาบาลเปิดให้บริการตามปกติ การเปิดถนนเร็วหรือช้ายังไม่มีผลกระทบมาก สุดท้ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการทำงานและความมั่นคงในระยะยาวเป็นหลัก ไม่อยากให้ทำไม่ดีเร่งเปิดถนนแล้วต้องกลับมารื้อทำใหม่ โดยขณะนี้ ถมหลุมยุบได้ประมาณ 2,000 ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งตอนนี้ขาดอีกประมาณ 5,000 ลบ.ม. หากกำจัดอุปสรรคได้ก็ใช้เวลาถมไม่เกิน 3 วัน
“จากที่เคยคาดการณ์ว่าอาคาร สน.สามเสน จะไม่พังและอยู่ได้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของดินต่อเนื่อง ทำให้เสาเข็มไม่มีดินรองรับ จึงส่งผลต่อเนื่องกับอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากดินยุบช่วงแรกซึ่งไม่มีใครคาดคิด ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ส่วนเรื่องอาคาร เราคิดไว้แล้วว่าถึงแม้เรากู้อาคารได้และซ่อมแซมถนนเสร็จ สุดท้ายแล้วโอกาสรื้อถอนก็มีสูงอยู่ดี” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ด้านนายกิตติกร กล่าวว่า สำหรับการสืบสวนหาสาเหตุถนนทรุดตัวครั้งนี้ คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น กำลังเตรียมการรวบรวมข้อมูลและหาข้อสรุป ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงควบคุมความเสียหายไม่ให้ขยายวงกว้างก่อน และคืนพื้นที่ให้กับประชาชนโดยเร็ว และเนื่องจากพื้นที่ที่ต้องหาข้อเท็จจริงถึงเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ใต้ดิน ทุกอย่างจึงต้องนิ่งก่อน จากนั้นการลงไปกู้สถานการณ์ข้างล่างก็จะได้ข้อมูลมาประกอบว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ข้อสรุปของสาเหตุถนนทรุดตัวครั้งนี้ เราอย่าเพิ่งเร่งสรุป เพราะสรุปแล้วเปลี่ยนแปลงยาก เก็บข้อมูลให้ละเอียดและรอบคอบ เพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นบทเรียนในอนาคตด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี