‘เกษตรกรปากพนัง’พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ใช้‘ปลาหมอคางดำ’เลี้ยงปูขาว ลดต้นทุน-สร้างรายได้ชุมชน
เกษตรกรในอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มอง “ปลาหมอคางดำ” ซึ่งถูกมองว่าเป็นปลาต่างถิ่นชนิดพันธุ์รุกรานในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็น “ทรัพยากที่มีมูลค่า” ของชุมชน โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในลุ่มน้ำปากพนังมากกว่า 30 ราย ได้นำปลาหมอคางดำที่จับได้ใช้เป็นอาหารเลี้ยงปูขาว แทนการใช้ปลาทะเลสด ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรจากการเลี้ยงปู พร้อมทั้ง สร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในพื้นที่จับปลามาขายเกษตรกร เป็นอีกแนวทางที่เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมและลดจำนวนปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างเป็นระบบ สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจชุมชนและสิ่งแวดล้อม
นายณัฏฐชัย นาคเกษม หรือ “พี่โชค” เกษตรกรผู้เลี้ยงปูขาว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในลุ่มน้ำปากพนัง เปิดเผยว่า ศูนย์เรียนรู้เชิงประยุกต์น้ำเค็มเพื่อการผลิตปูขาว บ้านเนินหนองหงส์ ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแหล่งเรียนรู้และทดลองเลี้ยงปูขาวในบ่อกุ้งเดิมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยได้ดำเนินการศึกษาและทดลองใช้ “ปลาหมอคางดำ” เป็นอาหารเลี้ยงปูขาวมานานกว่า 2 ปี
แนวทางนี้เกิดจากความต้องการแก้ปัญหา ต้นทุนการใช้ปลาทะเลสดเป็นอาหารปูขาวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน “ปลาหมอคางดำ” กลับมีจำนวนมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงเป็นโอกาสในการนำทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งช่วย ลดต้นทุนการผลิต และ หาแนวทางควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในบ่อเพาะเลี้ยงปู ควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ
ปัจจุบัน ฟาร์มปูขาวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปูขาวที่มีสมาชิกกว่า 30 ราย เลี้ยงปูขาวครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ไร่ ต้องการใช้ปลาหมอคางดำรวมกันวันละไม่ต่ำกว่า 600-900 กิโลกรัม สามารถลดต้นทุนค่าอาหารจากเดิมที่ต้องซื้อปลาทะเลกิโลกรัมละ 14 บาท เหลือเพียง 10 บาทต่อกิโลกรัม จากการรับซื้อปลาหมอคางดำจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งยังช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านที่จับปลามาขายให้กับเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง
“การใช้ปลาหมอคางดำเป็นอาหารเลี้ยงปู ถือเป็นแนวทางที่ช่วยลดจำนวนปลาหมอคางดำในธรรมชาติได้รวดเร็ว โดยกลุ่มเกษตรกรจะนำปลามาแช่แข็งก่อนบดละเอียดเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ในบ่อเพาะเลี้ยง” นายณัฏฐชัย กล่าว พร้อมอธิบายว่า แนวทางนี้สอดคล้องกับผลงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) ซึ่งพบว่า การแช่ปลาหมอคางดำในอุณหภูมิ –20 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สามารถทำลายไข่ปลาได้ทั้งหมด ป้องกันการแพร่พันธุ์ในระบบฟาร์ม หากไม่มีตู้แช่แข็ง สามารถใช้การแช่น้ำแข็งหรือแช่ในตู้เย็นนาน 3 วันแทนได้
วันนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยง “ปูขาว” ที่หัวไทรได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ปลาหมอคางดำ” มีคุณค่า เป็น “โอกาสใหม่” ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะ “ปูขาว” ที่เติบโตได้ดีเมื่อใช้ปลาหมอคางดำเป็นอาหาร ผลการทดลองพบว่า อัตราแลกเนื้ออยู่ที่ 4 กิโลกรัมของปลาหมอคางดำต่อเนื้อปู 1 กิโลกรัม
การเปลี่ยนมุมมองจาก “ปัญหา” สู่ “โอกาส” พร้อมกับการวิจัยเชิงวิชาการและการจัดการปลาหมอคางดำอย่างเป็นระบบ เป็นต้นแบบของการพัฒนาเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ที่ช่วยควบคุมปลาหมอคางดำและฟื้นฟูสมดุลระบบนิเวศ ผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี