สธ.เอาจริง!! บุกตรวจ ‘คลินิกฟอกไต’ ย่านภาษีเจริญ หลังถูกร้องเรียนเก็บเงินผู้ป่วย เลขาฯ รมว.สธ.ย้ำ ผู้ป่วยต้องได้รับฟอกไตฟรีทุกกรณี แม้ผู้ป่วยปฏิเสธสิทธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข นำโดย นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์สเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกฟอกไตแห่งหนึ่งในเขตภาษีเจริญ หลังมีผู้ร้องเรียนเรื่องการเรียกเก็บเงินค่าฟอกไต ซึ่งขัดต่อนโยบายล่าสุดของรัฐบาล

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคลินิกฟอกไตแห่งนี้เปิดกิจการมา 6-7 ปี มีการดูแลผู้สูงอายุ และศูนย์ฟอกไตมีใบอนุญาตถูกต้อง ทั้งตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และการขอเปิดคลินิกเวชกรรม โดยผ่านการรับรองมาตรฐานและเป็นคู่สัญญากับทั้งหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และสำนักงานประกันสังคม ในส่วนของการฟอกไตมีทั้งหมด 12 เตียง และมีการจัดพยาบาลดูแลผู้ป่วยแต่ละช่วงเวลา 6 คน ประกอบด้วยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ 2 คน และพยาบาลทั่วไป 4 คน

เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีร้องเรียน 2 เคสที่เกิดขึ้น โดยคลินิกได้มีการชี้แจงดังนี้ เคสที่ 1 ผู้ป่วยมาเข้ารับการรักษาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม โดยแจ้งว่าไม่สะดวกรับบริการโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์ และปฏิเสธการเข้าระบบขอชำระเงินด้วยตนเองครั้งละ 1,500 บาท และเคสที่ 2 ผู้ป่วยเคยรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนมาก่อนและมาขอฟอกไตที่นี่ โดยได้รับสิทธิฟอกไตฟรีมาโดยตลอด จนกระทั่งช่วงรอยต่อนโยบาย (เมษายน-พฤษภาคม) รายชื่อผู้ป่วยไม่สามารถเบิกจ่ายสิทธิได้ เนื่องจากระบบแจ้งว่าต้องไป PA (Pre-Authorization) กับโรงพยาบาลที่มีสิทธิก่อน แต่ผู้ป่วยไม่เคยมีประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น จึงเกิดปัญหาที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ป่วยจึงต้องชำระเงินเอง อย่างไรก็ตามทั้ง 2 กรณีนี้ทางคลินิกได้มีการคืนเงินเต็มจำนวนให้กับผู้ป่วยแล้ว

ด้าน กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำต่อสถานพยาบาลว่า ต้องชี้แจงให้ผู้ป่วยเข้ารับสิทธิรักษาฟรีตามนโยบาย แม้ผู้ป่วยจะปฏิเสธสิทธิ ทางสถานพยาบาลก็ต้องคอยดูแลจัดการให้ผู้ป่วยได้รับสิทธินั้น โดยการขอปฏิเสธหรือคำยินยอมในเรื่องนี้ไม่สามารถทำได้ ผู้ป่วยต้องได้รับเงินคืนตามนโยบายของรัฐบาล หากพบว่าสถานพยาบาลแห่งใดมีการ บังคับให้เซ็นยินยอมหรือเซ็นปฏิเสธการรับสิทธิ จะมีโทษตามกฎหมาย คือ จำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท และผู้ป่วยสามารถขอเงินคืนได้

นอกจากนี้ เลขาธิการ สปสช. ย้ำว่า สปสช. จะต้องทบทวนกระบวนการและขั้นตอนเพื่อเป็นกรณีศึกษา หากปัญหามาจากช่วงเปลี่ยนผ่านระบบ โดยเน้นย้ำหลักการสำคัญว่าผู้ป่วยต้องได้รับการฟอกไตฟรีทุกกรณี ทั้งนี้ในปีนี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินฟอกไตแล้วจำนวน 164 เคส ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำลังตรวจสอบทุกสถานพยาบาลที่ถูกร้องเรียนอยู่ ///-026