ผู้ว่าฯ ‘ชัชชาติ’ เยือนอิตาลี ลงนาม “กรุงเทพฯ–เวนิส” สานสัมพันธ์เมืองพี่-น้องร่วมสร้างอนาคต

ผู้ว่าฯ ‘ชัชชาติ’ เยือนอิตาลี ลงนาม “กรุงเทพฯ–เวนิส” สานสัมพันธ์เมืองพี่-น้องร่วมสร้างอนาคต

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.47 น.

ผู้ว่าฯ ‘ชัชชาติ’ เยือนอิตาลี ลงนาม “กรุงเทพฯ–เวนิส” สานสัมพันธ์เมืองพี่-น้องร่วมสร้างอนาคต

เมื่อวันที่ 15 ต.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ เดินทางเยือนเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายหลุยจี บรุญญาโร (H.E. Mr. Luigi Brugnaro) นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส ณ ศาลาว่าการเมืองเวนิส


ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ที่สามารถจะดำเนินการร่วมกันระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองเวนิสในอนาคต ได้แก่ การจัดการน้ำ การจัดการขยะ เรือโดยสารไฮโดรเจน การท่องเที่ยว การส่งเสริมการค้าการลงทุน และการส่งเสริมเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯกับเมืองเวนิส

หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเทศมนตรีเมืองเวนิสได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิส และกรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจากนายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐอิตาลี และนายอันเดรอา มาร์กอน กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเวนิส ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิสและกรุงเทพมหานคร นับเป็นก้าวแรกของการสถาปนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเทพมหานครและเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีในด้านต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครในอนาคตต่อไป

ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอิตาลี ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ลงเรือเยื่ยมชมบรรยากาศคลองเมืองเวนิส โดยกล่าวในระหว่างนั้นว่า ได้มาราชการที่ประเทศอิตาลี โดยเยือนเมืองมิลานและเมืองเวนิส เพื่อร่วม 2 งานหลัก วานนี้ (14 ต.ค. 68) ร่วมงานประชุม The Milan Urban Food Policy Pact (MUFPP) Global Forum 2025 เป็นการประชุมเรื่องอาหารของเมือง ซึ่งกรุงเทพมหานครได้รับรางวัลเรื่องการจัดการอาหารโรงเรียน และร่วมการประชุมระดับนายกเทศมนตรีและระดับภูมิภาค ณ University of Milan เมืองมิลาน และวันนี้ มาเยือนเมืองเวนิส ซึ่งกรุงเทพมหานครยังไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเมืองอย่างเป็นทางการมาก่อน เราอยากพัฒนาความสัมพันธ์เป็น Sister City เมืองพี่เมืองน้องกับเวนิส เพราะลักษณะหลายอย่างคล้ายคลึงกัน เวนิสมีประชากรประมาณ 250,000 คน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีคลองเยอะและมีสะพานข้ามคลองเชื่อมระหว่างเกาะต่าง ๆ ในเมืองประมาณ 400 สะพาน เวนิสไม่มีถนน แต่ใช้คลองแทนถนนและใช้เรือเป็นแท็กซี่ จะเห็นว่าหน้าบ้านก็เป็นคลองเลย คล้ายกับกรุงเทพฯ สมัยก่อน เช่น แถบฝั่งธนที่หน้าบ้านเป็นคลองและใช้เรือเป็นพาหนะหลัก

เมืองเวนิสมีปัญหาคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ คือ ประสบกับน้ำทะเลหนุน เมืองมีวิกฤตจมน้ำและมีน้ำท่วมหนัก โดยเวนิสมีการทำเขื่อนขนาดยาวริมทะเลเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน เน้นแก้ปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุน และ Storm Surge จากทะเลที่ส่งผลให้เมืองเวนิสน้ำท่วม อีกปัญหาหนึ่งที่คล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ คือการจัดการขยะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว ไม่ได้ค้างในเวนิส แต่ซื้ออาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ มาจากนอกเมือง ก่อให้เกิดขยะแต่ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเมือง จึงมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จะเข้าดูการทำงานของ Smart Control Room และสถานีตำรวจในเมืองเวนิส

“การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิสและกรุงเทพมหานคร เป็นความตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันเพราะเราเชื่อว่ามีหลายอย่างที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ และเชื่อว่าการมาเยือนครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานครต่อไป” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

-037-

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top