วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
'พิพัฒน์'หัวโต๊ะถกราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า หาแนวทางลดค่าครองชีพปชช. ไม่ชัดทำทัน 31 ม.ค.69 หรือไม่ เหตุมีขั้นตอนอัยการด้วย ย้ำนโยบายรบ.ใช้ระบบตั๋วร่วม คำนึงเพดานหนี้สาธารณะ
เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 29 ต.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน ถึงกรณีมีเสียงสะท้อนจากประชาชน กรณีจะมีการขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในวันที่ 1 พ.ย. ว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการหารือ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ กรณีโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสำหรับสายสีแดงและสีม่วง จะสิ้นสุดแล้วตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2568 ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลังว่า หลังจากครบกำหนด 30 พ.ย.2568 แล้ว กระทรวงคมนาคมจะมีแนวทางอย่างไร โดยให้หารือกับกระทรวงการคลัง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนที่สองคือ ส่วนต่อขยายที่มีราคาสูงอยู่ในขณะนี้ จะมีการหารือในที่ประชุมวันนี้ เพื่อหาแนวทางและข้อสรุปให้ได้ว่า การขึ้นรถไฟฟ้าและรถโดยสารทั้งระบบใน กทม. และชานเมือง เราจะมีแนวทางอย่างไรเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้โดยสารทั้งใน กทม.และรอบ กทม.ซึ่งจะหาแนวทางที่เหมาะว่าจะทำอย่างไรได้และทำทันหรือไม่ในช่วงที่นายกฯประกาศไว้ว่า จะยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค.2569 โดยกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังจะไปหารือกัน และจะพยายามทำให้ทัน อย่างไรก็ตาม จะทันหรือไม่ทัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง ยังมีส่วนที่เกี่ยวเนื่องไปยังอัยการสูงสุด ซึ่งจะต้องไปดูสัญญา หากอัยการสูงสุดให้คำตอบที่เร็ว เราก็สามารถดำเนินการทันได้ แต่หากดูสัญญาไม่ทัน กระทรวงการคมนาคมก็จะไปหาวิธีว่า ในช่วงรักษาการจะสามารถทำอะไรได้หรือไม่ หรือจะมีเรื่องอะไรนำเข้าในที่ประชุม ครม. ช่วงรักษาการได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติ ครม.จะอนุมัติในหัวข้อนี้ ตนเองยังไม่สามารถให้คำตอบในตอนนี้ได้
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะใช้งบประมาณอุดหนุนราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นโยบายของเราคือ จะใช้ระบบตั๋วร่วม แต่ระบบดังกล่าวมีขั้นตอน ซึ่งตอนนี้ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีเฉพาะสายสีแดงและสีม่วง เราจะมีสายสีอื่น เช่น ของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM หรือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เราก็ต้องไปเจรจากับเจ้าของบริษัทสัมปทานว่าจะทำอย่างไร ซึ่งต้องขอหารือกับกระทรวงการคลังด้วยว่า หากรัฐบาลจะทำอะไรลงไป จะทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับหนี้สาธารณะ ปัญหาของรัฐบาลคือ มีความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งมันใกล้เคียงกับเพดาน 70%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี