ซุบซิบกทม.

ฝนตกหนักทั่วประเทศ 10จังหวัด ตั้งแต่วันที่31ตุลาคม-2พฤศจิกายน2568อันเนื่องมาจากอากาศเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนแปลงเพราะ“สัตว์มนุษย์”เป็นต้นเหตุ นครสวรรค์ ,อุทัยธานีชัยนาท ,สระบุรี ,ลบบุรี ,เพชรบุรี ,ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ,ระนอง, ภูเก็ต ,  ในส่วนของ กทม.ก็สุดระทมมาตั้งแต่วันที่31ตุลาคม ถึงวันที่2พฤศจิกายน2568 ซึ่งก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ออกมาเตือนไว้ก่อนหน้านี้...สำหรับ กทม.นั้นตั้งแต่เข้าช่วงฤดูฝนมาจนถึงช่วงต้นฤดูหนาวที่เพิ่งประกาศออกไปไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายคนคิดกันว่า พื้นที่เมืองหลวงจะไม่มีฝนตกหนักอีกต่อไป ที่จริงเรื่องนี้สำนักการระบายน้ำ(สนน.)เองก็เคยอธิบายว่า อากาศฝนฟ้าวางใจไม่ได้ เพราะจะเกิดพายุมรสุมเมื่อไหร่ขึ้นมาได้ตลอดเวลา การเตรียมการเอาไว้รองรับเหตุจึงเป็นหัวใจสำคัญ ...อย่างไรก็ตามดูเหมือนพื้นที่ที่ฝนตกมากและหนาแน่นที่สุด คือ โซลกรุงเทพเหนือ (จตุจักร ,ดอนเมือง ,บางเขน ,หลักสี่ สายไหม ,ลาดพร้าว ,บางซื่อ ) เขตหลักสี่กับดอนเมือง สาหัสหนักสุด ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาวัดได้ถึง117มิลลิเมตรต่อวินาที ถือว่าสุดๆ ส่งผลคู-คลอง น้ำเน่าเปลี่ยนสีได้น่าดูขึ้นมาบ้าง และบางจุดเช่นถนนแจ้งวัฒนะ ตลอดตรอกซอย รวมถึงพื้นที่ในเขตดอนเมือง นับได้ว่า2เขตนี้กระอักเลือดอย่างหนัก เพราะเล่นเอา ผอ.เขต หลับกันไม่ลงทีเดียว ดังนั้นการเป็น ผอ.เขต ถ้าเขตไหนไม่เจอปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” ลักษณะนี้ถือว่าโชคดีอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันการที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องเช่นนี้แล้วเกิดน้ำท่วม ผู้ว่าฯกทม.ก็สามารถจะได้รู้ชัดว่า ผอ.เขต เขา“ซีดเซียว”กับการทำงานแค่ไหน ...อีกมุมหนึ่งเมื่อเกิดฝนตกหนักสิ่งที่ปรากฎประจานออกมา คือ บรรดาขยะน้อยใหญ่จะลอยเกลื่อนคลอง  ไม่ต่างจากเมือง“แว้”ของเวียดนาม สืบเนื่องจากคนขาดความรู้และมักง่ายชอบทิ้งขยะลง คู-คลอง โดยเฉพาะบริเวณหน้าประตูส่งน้ำเช้าอุโมงค์ยักษ์ ตรงนั้นพูดไม่ต้องอ้อมค้อม“สุดวิบัติ” รู้ทั้งรู้ขยะเป็นปัญหาใหญ่ให้น้ำลงอุโมค์เพื่อส่งต่อเจ้าพระยามันล่าช้า ดูเหมือนทุกจุดที่จะนำน้ำลงอุโมงค์ล้วนมีขยะเป็นปัญหาทั้งหมด ...แน่นอนเมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้นไม่ว่าจุดใดของ กทม.ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ คือ ผู้ว่าฯกทม. ถ้าเข้าใจก็จะทราบว่าขณะฝนตกหนักรวมทั้งคู-คลอง ต่างๆเต็มไปด้วยน้ำ การระบายน้ำออกย่อมเจออุปสรรคของความล่าช้า เช่นดังที่เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง...

ไผ่ฎำ

036