เกิดเหตุสลดที่อำเภอบ้านด่าน บุรีรัมย์ ชายชราวัย 73 ปีขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางอย่างรุนแรง เสียชีวิตคาที่ ญาติตั้งข้อสังเกตว่าผู้ตายเพิ่งตรวจพบโรคความดัน และกำลังจะออกไปใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก้อนใหม่ที่รัฐบาลโอนเงินเพิ่มให้ 850 บาท แต่กลับมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 พ.ย. 68 ร.ต.อ.ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พ่วงข้างชนเสาไฟฟ้าข้างทาง บนถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ก่อนเข้าตัวอำเภอบ้านด่าน คาดว่ามีผู้เสียชีวิต จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านด่าน

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณข้างทางพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน-ดำ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง

ภายในรถพ่วงข้างพบศพ นายบุญเลิศ (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ชาวบ้านบ้านโนนสว่าง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนรถ บริเวณศีรษะด้านซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์และมีเลือดไหลจำนวนมาก

นางสาวสมจิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก เล่าว่า มีพลเมืองดีขับรถมาบอกว่ามีรถชนเสาไฟฟ้า จึงออกมาดูและพบว่าคนขับมีอาการชักกระตุกก่อนจะแน่นิ่งไป เมื่อลองจับชีพจรก็พบว่าไม่มีแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

นายนิกร จุมเกตุ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ผู้ตายอาศัยอยู่เพียงลำพัง และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้วซึ่งปกติจะมีเงินเข้า 300 บาทต่อเดือน แต่ เพิ่งได้รับเงินเพิ่มจากโครงการของรัฐบาลมาอีก 850 บาท รวมเป็น 1,150 บาท จึงคาดว่าผู้ตายน่าจะกำลังจะออกมาหาซื้อของในตัวอำเภอเพื่อใช้สิทธิ์ดังกล่าว ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุ

ผู้ใหญ่บ้านตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุว่า อาจเกิดจากอาการ "วูบ" เนื่องจากไม่นานมานี้ อสม.ประจำหมู่บ้านเพิ่งตรวจพบว่านายบุญเลิศมีโรคประจำตัวคือ โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องทำการสอบสวนและชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป