กทม. MOU โครงการ Bangkok, City for Better Health สนับสนุนรับมือโรคอ้วนและส่งเสริมสุขภาวะในกรุงเทพ พร้อมเปิดตัว “หลักสูตรอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” เริ่มเทอม2 ปีการศึกษา68 จัดอาหารกลางวัน สุขภาพดีในโรงเรียนกทม.

วันที่ 5 พ.ย.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการความร่วมมือ Bangkok, City for Better Health ระหว่างกรุงเทพมหานคร สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย และบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จํากัด ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย พร้อมการเปิดตัว “หลักสูตรอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” เป็นความสำเร็จที่จับต้องได้ของโครงการ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า “วันนี้เป็นก้าวสำคัญในการให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนกรุงเทพฯ อัตราความชุกของโรคอ้วนในพื้นที่เมืองเพิ่มสูงในระดับที่น่าเป็นห่วง การดำเนินโครงการ Bangkok, City for Better Health ไม่เพียงสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่น ๆ เท่านั้น แต่เรายังทำให้คนรุ่นใหม่มีองค์ความรู้และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตในแบบที่ดีต่อสุขภาพ โครงการนี้คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสุขภาพดี”

ฯพณฯ นายแดนนี่ แอนนัน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงหุ้นส่วนที่ยั่งยืนระหว่างเดนมาร์กและไทย เนื่องจากทั้งสองประเทศมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพในพื้นที่เมือง ผ่านโครงการ Bangkok, City for Better Health เราไม่เพียงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติ แต่ยังแบ่งปันแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนมากขึ้นของทั้งสองประเทศ”

นายจิฮาน เซอร์ดาร์ คิซิลจิก ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ที่โนโว นอร์ดิสค์ เราเชื่อในการใช้พลังของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-private partnership) เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทางบวกเพื่อการดูแลสุขภาพ โครงการ Bangkok, City for Better Health เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของโนโว นอร์ดิสค์ในการสร้างผลลัพธ์ด้านสุขภาวะที่ดีและส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในสภาพแวดล้อมในเมือง ซึ่งโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก รวมถึงโรคอ้วน กำลังส่งผลกระทบต่อประชากรในเมืองอย่างมีนัยสำคัญ”

ในประเทศไทย โรคอ้วนถือเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ โดยมีประชากรมากกว่าร้อยละ 40 ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ตัวเลขยิ่งสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีอัตราความชุกของโรคอ้วนอยู่ที่ราวร้อยละ 58 โรคอ้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก อาทิ เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง โดยเกือบหนึ่งในสามของผู้ที่เป็นโรคอ้วนประสบกับภาวะเรื้อรังเหล่านี้ โครงการ Cities for Better Health (“CBH”) ของโนโว นอร์ดิสค์ เป็นหนึ่งในความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กเพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งป้องกันและรับมือกับโรคอ้วน โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก และโรคไม่ติดต่อเรื้องรังอื่น ๆ (NCDs) โดยเฉพาะในเด็กในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีอัตราความชุกของโรคอ้วนสูงที่สุด

โครงการ “Bangkok, City for Better Health” มีเสาหลักสำคัญ 3 ประการคือ 1. หลักสูตรลดโรคอ้วนในเด็ก: มีการเปิดตัว “หลักสูตรอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” จะเริ่มนำไปประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ในช่วงภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2568 เป็นความร่วมมือของสำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)และองค์กร Nudge Thailand โดยหลักสูตรนี้มีเป้าหมายเพื่อลดอัตราความชุกของโรคอ้วนในเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งความชุกของโรคอ้วนในปัจจุบันคิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของเด็กนักเรียนทั้งหมด

2. พื้นที่สันทนาการ: โครงการนี้เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจที่คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้เดินทางไปเยือน Spor 10 อันเป็นพื้นที่ของโครงการ CBH ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โครงการในกรุงเทพฯ มุ่งหวังที่จะพัฒนาพื้นที่ในสวนลุมพินีและสวนเบญจกิตติ เพื่อเป็นสนามสำหรับกีฬา pickleball ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากในกรุงเทพฯ รวมถึงพื้นที่ฝึกซ้อมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเสริมสร้างความเท่าเทียมทางสุขภาพและส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีในพื้นที่ที่ทุกคนเข้าถึงได้ 3. อาหารกลางวันสุขภาพดีของโรงเรียน: โครงการมุ่งเป้าออกแบบระบบรับประกันความปลอดภัยและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารกลางวันที่โรงเรียนเพื่อช่วยลดโรคอ้วนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร

036

สำหรับโครงการ Cities for Better Health (CBH ) ของโนโว นอร์ดิสค์ ในปัจจุบันได้ขยายตัวไปมากกว่า 50 เมืองทั่วโลก เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังผ่านการใช้แนวทางแบบองค์รวม (holistic approach) และมีความยั่งยืนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพในเขตเมือง ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-private partnership) ทั้งนี้ กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วมโครงการ CBH ต่อจากกรุงจาร์กาตาของอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ งานพิธี MOU ยังมีการอภิปรายโดย พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองปลัดกรุงเทพมหานคร นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ ประธานสมาคมโรคไม่ติดต่อไทย ในประเด็นว่าด้วยสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดโรคทางหัวใจและเมตาบอลิก เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่นอกเมือง รวมทั้งสรุปความท้าทายในมิติด้านสุขภาพที่กรุงเทพฯ และประเทศไทยกำลังเผชิญ ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย