‘เขื่อนเจ้าพระยา’เร่งระบายน้ำเพิ่ม 4จว.ภาคกลางอ่วม รับมือน้ำเอ่อทะลักท่วม

‘เขื่อนเจ้าพระยา’เร่งระบายน้ำเพิ่ม 4จว.ภาคกลางอ่วม รับมือน้ำเอ่อทะลักท่วม

วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘เขื่อนเจ้าพระยา’เร่งระบายน้ำเพิ่ม

4จว.ภาคกลางอ่วม

รับมือน้ำเอ่อทะลักท่วม

เขื่อนภูมิพลเต็มความจุ

จ่อปล่อยน้ำเพิ่ม2-3วัน

ลุ้นกทม.เท่าปี’54หรือไม่

ปภ.แจ้งพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม กรมชลฯเร่งจัดจราจรน้ำหวั่นกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ส่วน 4 จังหวัดภาคกลางระทม ปริมาณน้ำเพิ่มสูงยังท่วมหนัก พนังกั้นน้ำพังหลายจุด กรุงเก่ากระทบ 11 อำเภอ ดับ 14 ส่วนนนทบุรี ซ่อมแล้ว 3 คันกั้นน้ำ โรงเรียนดังปิดเรียน 3 วัน นายกฯถก กรมชลฯ ลดผลกระทบน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนสาธารณภัย ดังนี้ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย อุทัยธานี และนครศรีธรรมราช , น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง จ.สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี และนนทบุรี , น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กทม.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล


ปภ.แจ้งน้ำทะเลหนุนถึง14พ.ย.

นอกจากนี้ ปภ.ได้ส่งข้อความเตือน Cell Broadcast อ.เมือง อ.พระสมุทรเจดีย์ อ.พระประแดง และ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำที่ 2,800 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุนสูงถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้อยู่ริมน้ำได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยขอให้เตรียมการป้องกันผลกระทบที่เกิดจากระดับน้ำเพิ่มสูง

กรมชลฯคุมปล่อยน้ำจากเขื่อน

ด้านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน แจ้งว่าขณะนี้ได้บริหารการจราจรน้ำในลุ่มเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลจากภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนล่าง หลังจากพบว่าระดับน้ำในหลายพื้นที่ยังคงสูงต่อเนื่อง โดย จ.นครสวรรค์ พบว่าแม่น้ำสายหลัก ทั้ง 3 สาย มีปริมาณน้ำไหลมาก โดยแม่น้ำปิงมีอัตราการไหลผ่าน 1,329 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำยม 501 ลบ.ม./วินาที และแม่น้ำน่าน 1,225 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลมารวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยรับน้ำเข้าระบบชลประทานเต็มศักยภาพทั้งสองฝั่ง รวม 600 ลบ.ม./วินาที และระบายน้ำท้ายเขื่อนในอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง จึงจำเป็นต้องลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จาก 350 เหลือ 300 ลบ.ม./วินาที เพื่อชะลอน้ำจากตอนบน ที่จะไหลมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างมากเกินไป

กทม.-ปริมณฑลระบายน้ำได้ช้า

ขณะที่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง และ กทม.รวมทั้งปริมณฑล ยังคงได้รับอิทธิพลน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยช้ากว่าปกติ จึงเร่งระบายน้ำผ่านคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ ให้สอดคล้องกับจังหวะน้ำทะเลขึ้นลง เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและลดภาวะน้ำล้นตลิ่ง

เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ว่าจากการตรวจสอบน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนฯ ที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำวัดได้ 2,971 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้น 10 เซนติเมตรในรอบ 24 ชั่วโมง วัดได้ 17.70 ม.รทก.โดยเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำขึ้นแบบขั้นบันได ไปที่เกณฑ์ 2,800 ลบ.ม./วินาที และตรึงไว้เป็นวันที่ 2 เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมือกับฝนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 9 เซนติเมตรในรอบ 24 ชั่วโมง วัดได้ 16.49 ม.รทก.และจะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา ไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 10-15 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนให้ยกของขึ้นที่สูง และติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิด

พนังกั้นน้ำพังทะลักท่วมอ่างทอง

อย่างไรก็ตาม จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำต่อเนื่องของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้พนังกั้นน้ำพื้นที่หมู่ 5 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา พังทลายลง มวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1-5 อย่างรวดเร็ว บ้านเรือน 294 หลัง จมน้ำ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของอพยพไปอาศัยบนถนนสรรพยา-อินทร์บุรี ชั่วคราว ส่วนชาวบ้านที่ยังอาศัยในบ้าน ต้องใช้เรือในการสัญจรเข้า-ออก โดยทางเทศบาล ต.โพนางดำตก ได้เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยแล้ว โดยนำอาหารและเครื่องดื่มออกแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ชาวบ้านนับพันอาศัยพักบนถนน

สำหรับจุดอพยพบนทางหลวงชนบทชัยนาท 3018 คันคลองมหาราช มีชาวบ้านาก 3 ตำบล ได้แก่ ต.ตะหลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำตก มาสร้างเพิกพักเพื่ออาศัยชั่วคราว รวมแล้วกว่า 1,600 ครอบครัว ซึ่ง จ.ชัยนาท ขณะนี้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.เมือง และ อ.สรรพยา

ป่าโมกท่วมขยายวงสูงกว่า1เมตร

ขณะเดียวกันที่ อ.ป่าโมก เกิดพนังกั้นน้ำพังที่เชิงสะพานป่าโมก จนน้ำทะลักท่วมตลาดป่าโมก ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และขยายวงกว้างไปตามถนน ส่วนอีกจุดที่คันดินกั้นน้ำพัง คือ บริเวณหมู่ 1 น้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง ส่วน จ.สิงห์บุรี เกิดเหตุพนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 2 ต.พระงาม อ.พรหมบุรี ถูกน้ำกัดเซาะจนมวลน้ำไหลเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำถุงบิ๊กแบ็ก มากั้นเพื่อชะลอการไหลของน้ำ ส่วนชาวบ้าน รวมถึงพระสงฆ์ ต่งต้องเร่งขนข้ายข้าวของและพาหนะ ไปจอดไว้ริมถนนสิงห์บุรี-อ่างทอง

อีกด้านหนึ่ง ที่แขวงทางหลวงอ่างทอง ต.เอกราช อ.ป่าโมก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนทางหลวง 33 ป่าโมก-สุพรรณบุรี ได้ถูกน้ำเอ่อล้นท่วมสูงกว่า 1 เมตร ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร จนต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกหน้าโคก อ.ผักไห่ ถึงเชิงสะพานป่าโมก ซึ่งตำรวจต้องเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งหลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม โดยน้ำยังท่วมขยายวงกว้าง ทำให้น้ำที่ลงสู่คลองชลประทาน ได้หลากเข้าทุ่งนาและบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนใน ต.นรสิงห์ และ ต.เอกราช

กรุงเก่าน้ำเพิ่มท่วมแล้ว11อำเภอ

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ว่าแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และลำคลองสาขาต่างๆ ได้รับผลกระทบ โดยมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 11 อำเภอ 143 ตำบล 945 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 58,477 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย ใน อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางไทร และ อ.พระนครศรีอยุธยา

นนทบุรีซ่อมแล้ว3คันกั้นน้ำพัง

ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ที่เข้าท่วมพื้นที่ จ.นนทบุรี ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา C.13 ปล่อยน้ำไหลผ่าน 2,800 ลบ.ม./วินาที และสถานี C29B วัดกร่าง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,426 ลบ.ม.ทางนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแนวคันกั้นน้ำริมเขื่อนทั้งหมดที่ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำแรง ซึ่งพัดแนวกระสอบทรายพัง 3 จุด คือหน้าสโมสรจังหวัดนนทบุรี หน้าไปรษณีย์ไทย สาขาสวนใหญ่ และทางเข้าวัดบางขวาง โดยมีการซ่อมแซมทั้ง 3 จุดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ได้เพิ่มแนวกระสอบทรายให้มีระดับสูงจากเดิม 50 เซนติเมตรขึ้นไปอีก 20 เซนติเมตร รวมความสูงเป็น 70 เซนติเมตร

โรงเรียนปิด3วัน-เรียนออนไลน์

นอกจากนี้ในส่วนของโรงเรียนศรีบุณยานนท์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ประกาศจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เนื่องจากน้ำท่วมพื้นที่อาคารเรียน โรงอาหาร และสาธารณูปโภคจนไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา จึงขอปรับรูปแบบการเรียนการสอน รวม 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568 และจะเปิดเรียนตามปกติอีกครั้งในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568

อุตุฯเตือนระวังอันตรายจากฝน

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือและประเทศเมียนมา ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฟงวอง” (Fung-wong) บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นไปทางทะเลจีนใต้ตอนบนและช่องแคบไต้หวัน ช่วงวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2568 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางช่วงวันดังกล่าว

นายกฯถกกรมชลฯปมระบายน้ำ

ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะเรียกตนและกรมชลประทานหารือแนวทางการระบายน้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่เต็มทั้งหมด จำเป็นต้องระบายออก เช่น เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำขาเข้า-ออกไม่เท่ากัน ขาออกน้อยกว่า หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้คาดการณ์ว่าอีกไม่กี่วันปริมาณน้ำจะเกินความจุ จึงต้องมีการระบายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการเติมน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น อย่างที่เห็นชัดคือ จ.นนทบุรี และปทุมธานี

วางแนวทางผันน้ำลดผลกระทบ

นายภราดร กล่าวอีกว่า จากที่มีการประชุมก่อนหน้านี้ที่เสนอไปว่ายังมีทุ่งทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกในระบบชลประทาน ที่สามารถรับน้ำได้ จึงควรนำน้ำเข้าไปเก็บเพื่อหน่วงน้ำ ไม่ใช่ปล่อยลงมาในระบบระบายทั้งหมด ซึ่งยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร ส่วนจะเป็นเพราะสาเหตุใดยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่าแนวทางการผันน้ำไปทางทิศตะวันตกไปยังแม่น้ำท่าจีน เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยานั้น นายภราดร กล่าวว่า การระบายน้ำต้องไปทั้งทางตะวันตก และตะวันออก

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top