วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วุฒิสภาเปิดเวทีถก! ‘วิทยุท้องถิ่น’ ยกระดับสู่สื่อที่ยั่งยืน-เป็นปากเสียง ปชช.ยุคดิจิทัล
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม จัดสัมมนาเรื่อง ‘20 ปี ที่รอดอย...การเปลี่ยนผ่านวิทยุท้องถิ่นสู่ระบบใบอนุญาต’ ณ ห้องประชุม 402-403 อาคารรัฐสภา โดยมีหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ ผู้ประกอบการสถานีวิทยุระดับท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรภาคประชาชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมสัมมนาอย่างคึกคัก มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและบทเรียนจากการพัฒนากิจการวิทยุท้องถิ่นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางการปรับตัวให้สอดคล้องกับระบบใบอนุญาตในยุคดิจิทัล เพื่อให้กิจการวิทยุยังคงเป็นสื่อที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยต่อไป
นายชิบ จิตนิยม โฆษกคณะกรรมาธิการไอซีที กล่าวรายงานว่า การสัมมนาครั้งนี้เพื่อสร้างกระบวนการเปลี่ยนผ่านของสถานีวิทยุท้องถิ่นสู่ระบบใบอนุญาตได้ดำเนินมายาวนานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนดให้คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติ แต่การดำเนินการกลับล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายและกลไกกำกับดูแล ส่งผลให้สถานีวิทยุจำนวนมากยังอยู่ในสถานะ ‘ผู้ทดลองออกอากาศ’ ภายใต้การอนุญาตชั่วคราวของ กสทช. อีกทั้งสถานีวิทยุท้องถิ่นจำนวนมากยังประสบปัญหาขาดความชัดเจนทางกฎหมาย การรบกวนคลื่น ความไม่เป็นระบบทางเทคนิค และข้อจำกัดในการพัฒนาเนื้อหา ซึ่งสะท้อนภาวะ ‘รอยต่อ’ ของการเปลี่ยนผ่านที่ยังไม่สมบูรณ์ จำเป็นต้องเร่งเข้าสู่ระบบใบอนุญาตถาวรเพื่อสร้างความมั่นคงทั้งในด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ และความน่าเชื่อถือของสื่อ
นายชิบ กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนผ่านวิทยุท้องถิ่นสู่ระบบใบอนุญาต คือการคืนความชอบธรรมให้กับผู้ประกอบการ และสร้างหลักประกันให้ประชาชนได้รับบริการสื่อสารที่เท่าเทียม โปร่งใส และยั่งยืน การสัมมนาครั้งนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้ภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และสถาบันการศึกษา ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางกำหนดทิศทางอนาคตของกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย โดยข้อเสนอที่ได้จะนำไปประกอบการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อจัดทำนโยบายที่ชัดเจนต่อไป ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการปฏิรูปสื่อท้องถิ่นไทย เพื่อยกระดับระบบกำกับดูแลกิจการวิทยุให้มีมาตรฐานและตอบสนองต่อประโยชน์ของประชาชนในยุคดิจิทัล
ด้าน นายสุทนต์ กล้าการขาย รองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม กล่าวเปิดการสัมมนาว่า ตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา วิทยุท้องถิ่นทำหน้าที่เป็นปากเสียงของประชาชน แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในสถานะ ‘ทดลองออกอากาศ’ ภายใต้ระบบใบอนุญาตชั่วคราว ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางกฎหมายและการกำกับดูแล ในขณะที่สื่อยุคดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นายสุทนต์ กล่าวอีกว่า การสัมมนาครั้งนี้เปิดเวทีให้ ภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อกำหนดแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบใบอนุญาตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งไม่เพียงเกี่ยวกับการจัดระเบียบคลื่นความถี่และออกใบอนุญาตเท่านั้น แต่ยังมุ่งยกระดับคุณภาพและความรับผิดชอบของสื่อวิทยุท้องถิ่น ให้มีความมั่นคง ยั่งยืน และเป็นเครื่องมือส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน การเรียนรู้ และประชาธิปไตยระดับฐานราก
‘คณะกรรมาธิการฯจะรวบรวมข้อเสนอจากทุกฝ่าย เพื่อนำไปจัดทำนโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมและกำกับดูแลที่ ชัดเจน เป็นธรรม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมสร้างเวทีให้วิทยุท้องถิ่นเป็น พลังของประชาชน การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของวงการสื่อไทย ที่มุ่งสร้างอนาคตใหม่ให้วิทยุท้องถิ่นไทยเข้าสู่ระบบใบอนุญาตที่ถูกต้อง โปร่งใส และยั่งยืน’ ประธานอนุฯไอซีที กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กำหนดจัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่วิทยุ FM ประเภทธุรกิจระดับท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายน 2568 โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e‑Auction)
////-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี