วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘มหาดไทย’เพิกถอนสัญชาติไทยลูก 3 คน‘ก๊กอาน’สว.กัมพูชา โยงฟอกเงิน สแกมเมอร์
13 พฤศจิกายน 2568 กรมการปกครอง เผยแพร่รายงานผลการดำเนินการทางทะเบียนกรณีนายก๊อกอัน หรือก๊กอาน สว.กัมพูชา และบุตร ความว่า กรมการปกครองถอนสัญชาติ ลูก 3 คน ของนายก๊กอาน เนื่องจากได้แอบอ้างนำคนสัญชาติไทยซึ่งไม่ใช่พ่อแม่แท้จริง มาเป็นพ่อและแม่ของตัวเอง ดังนั้น จึงถือว่าบุตรของนายก๊กอาน “เป็นคนต่างด้าว ที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทย” จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย มีเนื้อหาระบุว่า
กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบข้อมูลในทางลับจากหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานทางการข่าว พบว่า นายก๊กอาน (KOK AN) บุคคลสัญชาติกัมพูชา มีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศกัมพูชา ประกอบธุรกิจหลายประเทซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มกาสิโน ค้ามนุษย์ การฟอกเงิน สแกมเมอร์ และถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายไทย และได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ทั้งยังมีบุตรจำนวน 3 ราย ซึ่งได้สัญชาติไทยโดยระบุว่ามีบิดามารดา เป็นบุคคลสัญชาติไทย จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
กรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลางซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลสำนักทะเบียนทุกแห่ง ได้เร่งรัดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมีถิ่นที่อยู่ และการได้สัญชาติไทยดังกล่าวแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักทะเบียนกรุงเทพมหานคร สำนักทะเบียนอำเภอ และส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ผลปรากฏว่า
1. นายก๊กอาน (KOK AN) บุคคลสัญชาติกัมพูชา ได้รับให้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้อง จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจริง แต่ด้วยบุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้ดำเนินการแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ทำให้ใบถิ่นที่อยู่นั้นไม่สามามารถใช้ได้อีกต่อไป จึงได้แจ้งให้สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพฯ ดำเนินการจำหน่ายชื่อของบุคคลดังกล่าวออกจากทะเบียนบ้านด้วยแล้ว (นายก๊กอาน มีเลขประจำตัว xxxx และมีทะเบียนบ้านอยู่ในอยู่ในเขตประเวศ กรุงทพฯ) โดยคาดว่าจะจำหน่ายชื่อในทะเบียนบ้านได้ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 และจะทำให้บุคคลดังกล่าวมีสถานะ “เป็นคนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิอาศัยในประเทศไทย”
2. บุตรของนายก๊กอาน (KOK AN) บุคคลสัญชาติกัมพูชา จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.น.ส.จรี คล่องกิจกล 2.น.ส.ภูเฌอหลิน คล่องกิจกล (ยูไล่) และ 3.นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล ได้ตรวจสอบพบว่าได้สัญชาติไทยโดยทุจริต เนื่องจากได้แอบอ้างนำคนสัญชาติไทยซึ่งไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริงมาระบุว่าเป็นบิดามารดาของตนในขณะที่ได้มีการแจ้งการเกิดเกินกำหนด ณ สำนักทะเบียนอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
จึงถือว่าบุคคลดังกล่าว ทั้ง 3 ราย นั้น ไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่แรก โดยมีการยกเลิกสูติบัตรที่ได้มีการแจ้งการเกิดโดยทุจริต และสำนักทะเบียนกลางได้แจ้งให้สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพฯ ดำเนินการจำหน่ายชื่อของบุคคลดังกล่าวออกจากทะเบียนบ้านด้วยแล้ว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 โดยทั้ง 3 คนมีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตประเวศ กรุงเทพฯ) โดยปัจจุบันบุคคลทั้ง 3 ราย ถือว่า “เป็นคนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทย” และจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายจากผลที่ได้มีการแจ้งการเกิดโดยทุจริตต่อไป
กรมการปกครอง ขอเรียนต่อพี่น้องประชาชนว่าการได้สัญชาติไทยและการได้ใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นการก่อให้เกิดสิทธิความเป็นพลเมืองไทย หากมีบุคคลต่างด้าวแฝงตัวเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย และได้รับสิทธิดังกล่าวแล้วจะทำให้ประชาชนคนไทยเกิดความเดือดร้อนได้
โดยนโยบายของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้มุ่งเน้นปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามเกล่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติทกรูปแบบ หากมีบุคคลได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติหรือได้สัญชาติไทยภายหลังการเกิด พบว่ามีพฤติกรรมที่มีการกระทำควานผิดในเงื่อนไขที่สามารถถอนสัญชาติไทยได้ ถือว่าเป็นบุคคลที่ทำร้ายคนไทยไม่ควรมีสัญชาติไทยต่อไป และจะพิจารณาถอนสัญชาติโดยเด็ดขาดทุกกรณี
กรมการปกครอง
สำนักบริหารการทะเบียน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี