กรุงเก่าอ่วมหนัก 6หมื่นครัวยังจมบาดาล ชุมชนอุทัยธานีน้ำเริ่มเน่า

กรุงเก่าอ่วมหนัก 6หมื่นครัวยังจมบาดาล ชุมชนอุทัยธานีน้ำเริ่มเน่า

วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กรุงเก่าอ่วมหนัก
6หมื่นครัวยังจมบาดาล
ชุมชนอุทัยธานีน้ำเริ่มเน่า

อุตุฯเผย มวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุม ทั่วไทยส่งผลให้ภาคเหนืออีสาน-อุณหภูมิลดฮวบ ส่วนภาคใต้ฝนยังตกหนัก 40% ของพื้นที่ ด้านกรมชลประทานลดการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาภายหลังแนวโน้มฝนตกลดลง ในขณะที่กรุงเก่า น้ำยังไม่ลด 6 หมื่นครัวเรือนยังบักโกรก ส่วนชุมชนอุทัยธานี น้ำเริ่มเน่า

15 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย


สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และห่างฝั่งของทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

กรมชลฯลดการระบายน้ำ

ด้าน กรมชลประทานอัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา (15 พ.ย.68) เวลา 06.00 น. ลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาจาก 2,900 ลบ.ม./วินาที ที่เริ่มปล่อยมาตั้งแต่ 10 พ.ย. โดยระบุสถานการณ์ฝนในพื้นที่ตอนบนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักต่างๆ มีแนวโน้มลดลง

สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,971 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 2,976 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำ 24.80 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 0.90 ซ.ม.) แนวโน้มลดลง สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,880 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 2,900 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.43 ม. ระดับน้ำท้ายเขื่อน 16.63 ม. แนวโน้มลดลง สถานี C.29B อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,263 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 2,320 ลบ.ม./วินาที)

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในระยะนี้ กรมชลประทานจะหน่วงน้ำไว้ที่เหนือเขื่อนตามความจำเป็นไม่เกิน +17.70 ม.รทก. พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด หากปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง จะปรับลดการระบายท้ายเขื่อนให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือในระยะต่อไป

เคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง พบว่ามีจังหวัดได้รับผลกระทบจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี รวม 12 อำเภอ 105 ตำบล 611 หมู่บ้าน มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้รับผลกระทบจำนวน 4,722 ราย และสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ รวม 3,689,272 ตัว แบ่งเป็น โค 4,332 ตัว กระบือ 690 ตัว สุกร 1,665 ตัว แพะ/แกะ 2,929 ตัว และสัตว์ปีก 3,679,656 ตัว นอกจากนี้ยังมีแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหาย 291 ไร่

ทั้งนี้ในระยะเผชิญเหตุ กรมปศุสัตว์ได้เร่งดำเนินการแจกจ่ายเสบียงพืชอาหารสัตว์ฉุกเฉิน 71,000 กิโลกรัม ระดมเจ้าหน้าที่อพยพสัตว์ออกจากพื้นที่เสี่ยง 1,175 ตัว สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ พร้อมให้บริการรักษาสัตว์ป่วย และแจกถุงยังชีพสัตว์ภารกิจดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ควบคู่กับมาตรการป้องกันและฟื้นฟู โดยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที

นักท่องเที่ยวเยือนภูกระดึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สัมผัสอากาศหนาว พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น-ทะเลหมอกสวยงามยอดภูแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเลย อากาศเย็นถึงหนาว โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เช้านี้มีนักท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาคของประเทศจำนวน 750 คน เดินทางมาชมธรรมชาติความสวยงามของสองข้างทางขึ้นยอดภู พักแรมกางเต็นท์ ตื่นเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ชมทะเลหมอกที่ขาวโพลน สัมผัสอากาศที่หนาวเย็น 13 องศาฯ โดยมีนักท่องเที่ยวสะสมพักยอดภูกระดึง 1,200 คน

ส่วนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อากาศเริ่มหนาวเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด เช้านี้ 14 องศาฯ แนะนำนักท่องเที่ยวเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวให้เพียงพอ

กรุงเก่าฯอ่วมน้ำยังไม่ลด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่หมู่ 4 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมยาวนานกว่า 3 เดือนเต็ม ชาวบ้านต้องใช้เรือพายฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเสี่ยงอันตรายเข้าออกบ้าน และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากจมน้ำเสียชีวิตแล้วถึง 2 คน ทั้งบอกว่า ยังขาดแคลนน้ำดื่ม นอกจากนี้ ห้องน้ำในบ้านยังใช้การไม่ได้ ต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าที่ปั๊มน้ำมัน หลายครอบครัว ไม่มีรายได้ เพราะบ้านจมน้ำ บางคนต้องออกจากบ้านมาทำงานริมถนน แม้จะมีถุงยังชีพจากหน่วยงานมาแจกจ่ายช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการเร่งด่วนที่สุดคือ น้ำดื่มสะอาด ซึ่งเริ่มขาดแคลนแล้ว

อุทัยธานีน้ำเริ่มเน่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำท่วมชุมชนในเมืองอุทัยธานี เริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องใช้เรือพายเข้า-ออกบ้าน หลังน้ำในแม่น้ำสะแกกรังเอ่อเข้าท่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ด้านเทศบาลใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งระบายลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง

น้ำท่วมชุมชนในเมืองอุทัยธานี เริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องใช้เรือพายเข้า-ออกบ้านหรือไปทำธุระ ซื้อหาอาหาร ส่งลูกหลานไปโรงเรียน หลังน้ำในแม่น้ำสะแกกรังเอ่อเข้าท่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ทำให้น้ำท่วมขังชุมชน โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เช่น ชุมชนย่านวัดธรรมโสภิต ชุมชนคลองลึก ชุมชนท่าแร่ ระดับสูง 50-100 เซนติเมตร และยังทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย แต่เริ่มขุ่นดำ ส่งกลิ่นเหม็น ซ้ำเติมการใช้ชีวิตของชาวบ้าน ด้านเทศบาลใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หลายเครื่อง เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังระบายลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง.-สำนักข่าวไทย

กรุงเก่า 6หมื่นครัวยังจมน้ำ

จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 3 เดือน พุ่งไปถึง 18 ศพ ส่วนชาวบ้านกว่า 6 หมื่นครัวเรือน 11 อำเภอ ยังคงได้รับผลกระทบ บ้านจมน้ำ การสัญจรเข้า-ออกนอกจากต้องใช้เรือ ชาวบ้านหลายคนถึงกับบ่น น้ำเยอะไม่เท่าไร แต่ท่วมนานแล้วไม่ลด เกือบเหมือนน้องๆ ปี 54 ทำให้ทำใจลำบาก ยิ่งช่วงนี้มีโครงการคนละครึ่งพลัส แม้ได้รับสิทธิแต่แทบไม่ได้ใช้ เพราะทุกที่น้ำท่วมหมด อย่างแรกๆ พายเรือไปได้ แต่ตอนนี้น้ำท่วมสูงขนาดสั่งข้าวสารให้มาส่งยังต้องยกเลิก เพราะคนส่งก็มาส่งไม่ได้ ส่วนคนรับก็ออกมารับไม่ได้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top