‘ตรัง’ท่วมหนัก! บางจุดลึกกว่า 1 เมตร 500 หลังคาเรือนเดือดร้อน ดับแล้ว 2 ราย

ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง รายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย.68 ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในตลาดสดอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น หลังยังคงมีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด และน้ำจากลำคลองสาขาไหลลงมาสมทบ ประกอบกับยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้ปริมาณน้ำล้อมรอบเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยระดับน้ำในวันนี้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นจากเมื่อวันที่ 22 พ.ย.68 อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร(ซม.) ถึง 3 เมตร แต่ช่วงเย็นระดับน้ำเริ่มลดลงเล็กน้อย

ที่บริเวณหัวสะพานเก่า เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว มีระดับน้ำลึกประมาณ 1-2 เมตร ชาวบ้านกว่า 100 คนต้องอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนคนที่มีบ้านชั้นเดียวต้องออกไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราว เนื่องจากระดับน้ำยังไม่ลดลง และพบรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน 1 คันไม่ทราบเจ้าของ ถูกกระแสน้ำซัดลอยมาติดอยู่บริเวณกลางสามแยกที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ระดับน้ำสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร แต่ไม่พบตัวคนขับ คาดน่าจะมีคนช่วยเหลือออกมาจากรถได้

ขณะที่ตลอดทั้งวันนี้มีเรือท้องแบนจากหลายหน่วยงานได้ออกบริการรับ-ส่งผู้ป่วย เด็กและคนชรา เพื่อออกจากบ้านไปหาหมอหรือไปหาซื้ออาหารมากักตุนไว้ แต่จำนวนเรือก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้านในชุมชนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 500 หลังคาเรือน หรือกว่า 3,000 คน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินลุยน้ำที่ลึกกว่า 1 เมตรเข้า-ออกหมู่บ้านเพื่อไปทำธุระข้างนอก โดยน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 15 ปี เพราะมีฝนตกติดต่อกันถึง 5 วัน ทำชาวบ้านตั้งตัวไม่ทันเพราะเป็นน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมั่นใจในระบบขุดคลองระบายน้ำแห่งใหม่ ทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนกลางคืนก็ต้องอยู่ท่ามกลางความมืดเนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้า

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตรัง มี 9 อำเภอจากทั้งหมด 10 อำเภอรวม 52 ตำบล 7 เทศบาล 236 หมู่บ้าน 12,117 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 50,000 คน มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำเป็นชาย 2 รายในอำเภอวังวิเศษ 1 รายและอำเภอย่านตาขาว 1 ราย  โดยหนักที่สุดคือที่เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

ด้านคุณลุงวัย 61 ปี ผู้ประสบภัย บอกว่า อาศัยอยู่ในบ้านกับหลานสาววัย 10 ขวบ น้ำท่วมตั้งแต่ช่วงย่ำรุ่งเมื่อวันที่ 22 พ.ย.68 ตอนนี้น้ำท่วมชั้น 1 ไปหมดแล้ว เลยต้องอาศัยอยู่ชั้นที่ 2 แต่กังวลว่าน้ำจะท่วมขึ้นชั้น 2 เพราะคาดว่าระดับน้ำเริ่มเพิ่มสูงขึ้น เพราะตอนนี้ยังคงที่ เลยประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้ามารับออกไป เพื่อจะออกไปอาศัยอยู่บ้านญาติชั่วคราวก่อน