วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
องคมนตรี ติดตามการดำเนินงาน โรงผลิตสารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง ตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดตาก และจังหวัดพิษณุโลก
27 พ.ย.68 ในช่วงเช้า พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิที่ฝนหลวง/ เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน "โรงผลิตสารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง ตามพระราชดำริ" โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บรรยายสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมรายงานผลการดำเนินงานโรงผลิตสารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง ตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เติมน้ำต้นทุนให้พื้นที่เกษตรกรรม เขื่อน อ่างเก็บน้ำ และลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ทั่วประเทศ
เดิมกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับน้ำแข็งแห้งสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แต่จากข้อมูลภารกิจทั่วประเทศมีความต้องการสูงถึง 5,000 ถึง 6,000 ตันต่อปี จึงได้ดำเนิน “โครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง)”เพื่อประจำศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ 8 แห่ง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน โรงผลิตสารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง สูตร 3 เข้าสู่โครงการตามพระราชดำริ
ปัจจุบัน โรงผลิตที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและติดตั้งพร้อมใช้งานมี จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก / ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก / ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น / ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดบุรีรัมย์ / ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน จังหวัดเพชรบุรี โดยชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงน้ำแข็งแห้ง สูตร 3 มีอัตราการผลิตน้ำแข็งแห้งต่อชุดได้ 1 ตันต่อชั่วโมง และสูงสุด 6 ตันต่อวัน

ซึ่งขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมติดตั้งแล้ว จำนวน
5 แห่ง ณ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ดังนี้
1.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก
2.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก
3.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกฉัยงเหนือ จังหวัดขอนแก่น
4.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดบุรีรัมย์
5.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน จังหวัดเพชรบุรี

ด้าน นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในหลายปีที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักด้านการดัดแปรสภาพอากาศ จึงได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคนิค
การดัดแปรสภาพอากาศเพื่อดูดซับฝุ่นละออง และการลดอุณภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน ทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนด้วยการโปรยน้ำ น้ำเย็น และน้ำแข็งแห้ง ซึ่งเป็นเทคนิคการดัดแปรสภาพอากาศที่ได้ทำการศึกษาและทดลองใช้จริงในการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในปีที่ผ่าน ๆ มา และพบว่า การใช้น้ำแข็งแห้ง ทำให้การระบายฝุ่นละอองใต้ชั้นอุณภูมิผกผันสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีประสิทธิภาพในการเปิดชั้นอากาศมากกว่าการใช้น้ำและน้ำเย็น

ทั้งนี้ โรงผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 (น้ำแข็งแห้ง) ที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 5 แห่ง มีความพร้อมที่จะใช้ในการปฏิบัติภารกิจการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ประจำปี 2569 โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการวางแผนตั้งหน่วยปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ประจำปี 2569 ดังนี้
1. ภารกิจบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้กับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดระยอง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 ถึงเดือนมีนาคม 2569
2. ภารกิจบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้กับพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดตาก และหน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ -พฤษภาคม 2569
3. ภารกิจบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 1 หน่วยฯ คือ หน่วยดัดแปรสภาพอากาศ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2569
สำหรับ แผนการปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ จะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และความรุนแรงของพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน และขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในการตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน อันเป็นการดำเนินงานตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี