เส้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน (สาย 3351) เป็นเส้นทางคลาสสิกอีกเส้นทางหนึ่งของเมืองสุพรรณบุรี สองข้างทางเขียวชอุ่มด้วยทุ่งนาและไร่สวน วัดวาอารามเก่าแก่ เหมาะกับการทำบุญ งดงามด้วยวิถีแห่งผู้คน และบ้านเรือนทรงไทย ที่มีให้พบเห็นตลอดเส้นทาง ตลอดลำน้ำท่าจีน เรียงรายไปด้วยวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญ และมีประวัติยาวนาน นับเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับชาวพุทธ ที่ต้องการทำบุญไหว้พระตามความเชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตน ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศมาไหว้พระทางน้ำ โดยการล่องเรือไปตามลำน้ำท่าจีน ชมบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำที่ยังคงสภาพของอดีต สวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง จังหวัดสุพรรณบุรีจึงได้จัดโปรมแกรมล่องเรือไหว้พระ 9 วัด เพื่อแสริมสิริมงคลแก่ชาวพุทธ
นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว (ททท.)สำนักงานสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าตลอดลำน้ำท่าจีน โดยเฉพาะเขต อ.บางปลาม้า เรียงรายไปด้วยวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญ และมีประวัติยาวนาน นับเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับชาวพุทธ ที่ต้องการทำบุญไหว้พระตามความเชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้ร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอบางปลาม้า รวมทั้งผู้ประกอบการภาคเอกชน ประกอบด้วย รีสอร์ทบ้านสวนแผ่นดิน รีสอร์ทแมกไม้สายน้ำ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระทางน้ำ 9 วัด ซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวในภาคตะวันตก เพราะ อำเภอบางปลาม้า ยังคงอนุรักษ์ประเพณี เป็นเอกลักษณ์ดั่งเดิมที่สืบต่อกันมาโดยเฉพาะประเพณีตักบาตรกลางน้ำ ประเพณีแข่งเรือ และยังเป็นแหล่งอาหารที่ขึ้นชื่อ มีกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ มีปลาม้า และอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้พระ 9 วันทางน้ำนอกจากจะได้อิ่มบุญ แล้วยังจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นที่บ้านอีกด้วย
สำหรับเส้นทางไหว้พระทางน้ำ 9 วัด พร้อมไกด์บรรยายพิเศษ ประวัติวัดต่างๆที่มีน่าสนใจศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วย วัดบางใหญ่ สักการะหลวงพ่อหยกขาวทั้งองค์ ที่นำมาจากประเทศพม่า สร้างขึ้นสมัยหลวงพ่อจวบ พระพี่ชายของหลวงพ่อทองเหมาะ แห่งวัดชีปะขาว ศิษย์หลวงพ่อเนียมวัดน้อย และบูชารูปหล่อจำลองหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ พระคู่เมืองสุพรรณบุรี วัดศุขเกษม สักการะหลวงพ่อใหญ่ ภายในอุโบสถ ซึ่งเป็นพระที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอบางปลาม้า พร้อมบูชาหลวงพ่อโตจำลองแบบพระสังขจาย ที่ชาวบ้านนับถือ ขออะไร มักจะได้ผล วัดดารา สักการะหลวงพ่อผ่อง พระเกจิอาจารย์ดังประจำวัด แวะทานอาหารกลางวันที่บ้านสวนแผ่นดินแม่ อาหารพื้นบ้านเมืองสุพรรณบุรี
ออกเดินทางล่องเรือไปวัดป่าพฤกษ์ สักการะหลวงพ่อสีแสง ที่สร้างสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา วัดต้นกำเนิดหลวงพ่อเนียมวัดน้อย และชมระฆังอายุ 100 กว่าปี และแวะชมหรือซื้อของที่ระลึก ที่ บ้านขนมไทยโบราณน้านิด วัดเจ้าขาว สักการะหลวงพ่อมั่น หลวงพ่อขาว เจ้าแม่กวนอิม ที่สูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมเยี่ยมชมวิหารอายุมากกว่า 250 ปี และนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำสุพรรณ ให้อาหารปลาหน้าวัด ชมตลาดโบราณคอวัง วัดแก้วตะเคียนทอง สักการะหลวงพ่อแสง เกจิอาจารย์ดังพระสหายหลวงพ่อเนียมวัดน้อย และแวะชมสิ่งของโบราณที่รัชกาลที่ 5 ถวายให้ไว้เช่น เรือ - บาตร –ปิ่นโต และทรงปลูกตันตะเตียนทองไว้ด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อวัดแก้วตะเคียนทอง วัดใหญ่พิณสุวรรณ สักการะหลวงพ่อปิ่น และหลวงพ่อเรื่อง ผู้โด่งดังด้านการรักษาโรคต่างๆ วัดบางยี่หน สักการะหลวงพ่อหยัด พระสหายหลวงพ่อเนียมวัดน้อย ชมกรุพระโบราณอายุ 100กว่าปี ชมตลาดร้อยปีเก้าห้อง พร้อมซื้อของที่ระลึก และวัดสวนหงส์ สักการะร่างไม่เน่าเปื่อยหลวงพ่อปลื้ม เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะได้อิ่มบุญกลับไปอย่างแน่นอน
นายวิศรุต กล่าวต่อว่าโครงการล่องเรือไหว้พระทางน้ำ จะเป็นการเปิดมุมมองอีกมิติหนึ่งให้กับคนทั่วๆไป ในการรู้จักอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะโครงการนี้จะทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่สองริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณ ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือผ่าน ว่ายังคงมีสภาพเดิมๆอดีตสมัยกาลก่อน โดยเฉพาะการสร้างวัดอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ วิถีการใช้ชีวิตทางน้ำ สมกับที่ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นแหล่งอารยธรรมยาวนานมามากกว่า 3,000 ปี ซึ่งโครงการนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานในท้องถิ่นทุกภาคส่วน พร้อมวัดต่างๆ ที่ร่วมโครงการเป็นอย่างดี
ด้านนายโสภณ พันธุ เจ้าของรีสอร์ทบ้านสวนแผ่นดินแม่ อ.บางปลาม้า กล่าวว่าโครงการนี้จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วีถีชีวิตและขนบธรรมเนียมท้องถิ่น เพราะคนในพื้นที่จะมีส่วนร่วมในโครงการนี้ จะทำให้คนในพื้นที่รักและภาคภูมิใจในถิ่นฐานบ้านเกิดตนเอง เพราะทุกคนจะร่วมกันเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับผู้มาเยือนในแต่ละวัน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างอาชีพ และรายได้เพิ่มเติมให้แก่ท้องถิ่น เช่นการจำหน่ายของที่ระลึก หรือจำหน่ายสินค้าประจำท้องถิ่นตนเอง เป็นต้น
เป็นการล่องเรือ ตามรอยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเคยประพาสต้นตามลำน้ำเมื่อปี พ.ศ. 2449 หรือเมื่อร้อยกว่าปี และทรงแวะสักการะบูชาวัดต่างๆ ริมสองฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะวัดแก้วตะเคียนทอง ที่พระองค์ได้ถวายเรือ / บาตร / ปิ่นโต ปัจจุบันก็คงเก็บรักษาไว้อย่างที่ อีกอย่างทรงปลูกต้นตะเตียนไว้ที่วัด จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดแก้วตะเคียนทอง นับจากนั้นมา และพวกเราพร้อมที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
มัจฉา ท่าจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี