วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แม่เลี้ยงโวยใส่ พม.นครพนม ลั่นยันไม่เคยทำร้ายเด็กหญิงวัย 12 ปีหลังคนเลี้ยงควายเจอกลางนาสภาพเปลือยเปล่า
กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sirawat Wim Porsing โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ว่า “บ้านหนองโพธิ์ มีแม่เลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยง เหตุการณ์คือเมื่อวานแม่ไปเลี้ยงควายที่ทุ่งนา แถวๆ ห้วยบ้านหนองโพธิ์ ได้พบเจอเด็กอายุประมาณ 12 ปีแอบอยู่ตามป่าหญ้าข้างคันนา แม่เลยเข้าไปดู เจอเด็กไม่ใส่เสื้อผ้า แม่ได้สอบถามเด็ก เด็กเล่าว่าโดนแม่เลี้ยงทำร้าย ถอดเสื้อผ้าเด็กจนหมด ด้วยความความกลัวจึงวิ่งหนีมาตามทุ่งนา ข้าวก็ยังไม่กิน เด็กทั้งเล่าทั้งกลัว แม่ผมได้หาเสื้อผ้าให้ใส่ และข้าวให้กิน จากนั้นแม่บอกว่าจะส่ง แต่เด็กไม่ยอมกลับบอกกลัวแม่ตี ตอนเดินกลับยังไม่อยากเดินไปใกล้บ้านตัวเอง แม่เลยพาเดินไปส่งบ้านลุงที่ใกล้แถวนั้น (ลุงเภา) เพื่อขอความช่วยเหลือ อยู่ในที่ปลอดภัย แม่ได้สอบถามคนแถวนั้น ว่ามีเหตุการณ์ทำร้ายเด็กหลายครั้งแล้ว คนบ้านใกล้เคียงก็รู้ ใครที่ติดต่อหรือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยตัวเด็กได้ ขอความกรุณานะครับ หรือให้เจ้าหน้าสอบถามเหตุการณ์เชิญที่บ้านแม่ผมได้”
ต่อมาในวันเดียวกัน เพจที่ทำการปกครองอำเภอวังยาง โพสต์ข้อความว่า “วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ตามที่ได้ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ กรณี เด็กหญิงถูกแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย เวลา 18.30 น. นางสาวภิรมย์ ก้อนแพง นายอำเภอวังยาง พร้อมด้วยคุณครูประจำชั้นจากโรงเรียนหนองโพธิ์วังโน กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ตำบลหนองโพธิ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเด็กหญิง อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านหมู่ 4 ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม โดยอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงคนใหม่ ส่วนพ่อบุญธรรม ไม่ทราบชื่อ ปัจจุบันไปรับจ้างกรีดยางที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประมาณ 4 ปีแล้ว สอบถามจากชาวบ้านข้างเคียงทราบว่าไม่กลับมาบ้านกว่า 3 ปีแล้ว จากข้อมูลของครูประจำชั้น เด็กมีภาวะพฤติกรรมทางอารมณ์ บางครั้งนั่งเฉย ๆ ไม่รับรู้อะไร บางครั้งก็ร้องไห้บางครั้งก็ตีเพื่อน เคยขโมยของเพื่อน และทราบว่ามีการทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้งจากแม่เลี้ยงและจะให้หยุดพักการเรียนร่วมสัปดาห์ อำเภอ ได้ประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนมนัดหมายร่วมลงพื้นที่ 10.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นางสุภาลักษณ์ ใครบุตร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสาวภิรมย์ ก้อนแพง นายอำเภอวังยาง เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พม.) ตำรวจ สภ.วังยาง ครูโรงเรียน และนายบุญเลิม ชมภูทอง อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองโพธิ์ หมู่ 4 เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ที่ปลูกอยู่ห่างไกลชุมชนพอสมควร ประตูรั้วบ้านมีป้ายไวนิลมีข้อความเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตฯพบกับนางขวัญ (นามสมมติ) อายุ 60 ปี แม่เลี้ยง และเด็กหญิงจอย (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกเลี้ยง เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและกล่าวถึงเจตจำนงในการเดินทางมาครั้งนี้
นางขวัญยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายลูกเลี้ยงตามโพสต์ดังกล่าว ตนดูแลน้องจอยเป็นอย่างดี ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ พม. ได้แยกตัวน้องจอยไปสอบถามเบื้องต้น และถามว่าอยากไปอยู่ที่ใหม่ไหม เด็กพยักหน้าแล้วตอบว่าอยากไป จึงนำตัวไปนั่งในรถตู้ ทางด้านนางขวัญได้โทรไลน์คุยกับคนปลายสายชื่อนายเป (นามสมมติ) ยืนยันว่าเป็นพ่อของน้องจอย ไม่ยินยอมให้นำตัวลูกสาวไปอยู่ที่อื่น ดังนั้น เจ้าหน้าที่ พม.จึงใช้อำนาจที่มีอยู่ขอนำตัวเด็กไปตรวจร่างกาย และตรวจสภาวะจิตใจ หลังทราบว่าน้องจอยเป็นเด็กสมาธิสั้น นางขวัญพยายามขัดขวางจะเข้าไปดึงน้องจอยลงจากรถตู้ พร้อมส่งเสียงโวยวาย ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่า ใช้กฎหมายอะไรมาทำกับตนเช่นนี้ แม้เจ้าหน้าที่จะอธิบายก็ไม่ยอมรับฟัง

โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากนายพันธ์ อายุ 64 ปีมีศักดิ์เป็นลุงของน้องจอย เปิดเผยว่าหลานสาวเป็นเด็กพิเศษ บางครั้งก็พูดคนเดียว หรือคุยกับต้นไม้ ยอมรับว่าเขามีจิตไม่ปกติ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดูแลรักษา ไม่อยากให้อยู่ในชุมชนที่ห่างไกลผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
ส่วนกรณีที่มีคนเลี้ยงควาย พบน้องจอยในสภาพเปลือยเปล่ากลางทุ่งนา นายพันธ์บอกว่าอยู่ห่างบ้านนางขวัญประมาณ 300 เมตร หลังมีการนำตัวไปมอบให้นายบุญเลิมผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตนยังไปสอบถามว่าทำไมถึงแก้ผ้าล่อนจ้อนแบบนั้น น้องจอยอ้างมีคนแก่ขี่คอสั่งให้ออกไปกลางทุ่งนา และไม่ยอมให้กลับเข้าบ้าน กระทั่งมีคนเลี้ยงควายมาเจอในสภาพซุกหน้าอยู่กับพื้น เหมือนกำลังแอบคน คนเลี้ยงควายจึงหาผ้ามาปกปิด แล้วนำตัวไปให้นางห้อม ชาวบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านน้องจอยนัก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนางห้อม อายุ 74 ปี เล่าว่าหลังรับตัวเด็กไว้แล้ว ก็ถามว่าจะกลับบ้านไหมเด็กส่ายหน้า ตนจึงพาไปมอบให้ผู้ใหญ่บ้านดำเนินการต่อ ส่วนจะมีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ ตนไม่ทันสังเกตร่องรอยตามร่างกาย นอกจากนี้คุณครูโรงเรียนหนองโพธิ์วังโน กล่าวเพียงสั้นๆว่าเคยเห็นตามแขนเด็กมีรอยเขียวช้ำ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
จากการตรวจสอบข้อมูลเด็กหญิงจอย พบว่าในใบเกิดระบุชื่อแม่ที่เป็นคนในหมู่บ้านหนองโพธิ์ แต่ไม่ได้ระบุชื่อพ่อ โดยมีนายเปอดีต อบต.หนองโพธิ์ ไปขอเป็นพ่อบุญธรรมจากบ้านพักแม่และเด็ก จ.เลย นำมาเลี้ยงดู ต่อมาภรรยาของนายเปเสียชีวิต ก็มาได้นางขวัญพื้นเพเป็นคน จ.ปราจีนบุรี เป็นภรรยาตั้งแต่ปี 2560 โดยน้องจอยเติบโตก็มีลักษณะเป็นเด็กพิเศษ แต่ขาดการดูแลรักษาให้ถูกวิธี ในขณะที่นายเปพ่อบุญธรรมหลังพ้นสภาพจากเป็น ส.อบต.หนองโพธิ์ ก็ไปรับจ้างกรีดยางที่ อ.เบตง จ.ยะลา มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยส่งเงินให้นางขวัญเป็นประจำทุกเดือน
ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง อ้างว่ามักได้ยินเสียงดุด่าน้องจอย รวมถึงการทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และอยากให้เจ้าหน้าที่แยกตัวเด็กออกจากบ้านไปอยู่ที่ที่เหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี