วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วัดใจเขมร 72 ชม.ถ้าไม่นิ่ง กองทัพพร้อมโต้กลับมาตรการสูงสุด ชาวบ้านอพยพ รอสัญญาณความปลอดภัย

วัดใจเขมร 72 ชม.ถ้าไม่นิ่ง กองทัพพร้อมโต้กลับมาตรการสูงสุด ชาวบ้านอพยพ รอสัญญาณความปลอดภัย

วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.40 น.

ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ย้ำชัด ถ้า 72 ชม.นี้ ยังไม่นิ่ง ไทยจะใช้มาตรการเดิมคือปกป้องตนเอง ยอมรับคนอาจไม่แฮปปี้ที่ต้องรอเวลา แต่ขอให้มั่นใจกองทัพเตรียมพร้อม 100% สแตนด์บายตลอดเวลา ไม่มีวันหยุดปีใหม่ ส่วนประชาชนที่ต้องการกลับเข้าบ้าน รอหน่วยทหารในพื้นที่ประเมิน

ที่โรงแรมชาเทรียม จ.จันทบุรี พลโทเอก ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า ใน Joint Statement จะมีกลไกที่พยายามจะลดการยั่วยุ ซึ่งศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ จะประสานใกล้ชิดกับทางกัมพูชา ผ่านทางสถานทูตและผู้ช่วยทูตทหาร หากมีประเด็นใดที่ขยายผลความขัดแย้ง เราจะพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่แน่นอนว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย อาจมีมุมมองหลากหลาย และเป็นความห่วงใย ดังนั้นถ้าประเด็นใดที่กระทบต่อการสร้างสภาพแวดล้อมในขณะนี้ เราพยายามจะติดต่อและให้ข้อมูลข้อเท็จจริงมากที่สุด ในส่วนของกัมพูชาเช่นกัน ก็ได้ให้ผู้ช่วยทูตทหารขอข้อมูลบางอย่างที่ไม่ทำให้เกิดการขยายผลความขัดแย้งต่อ และจาก Joint Statement ครั้งนี้ ก็จะนำไปสู่เวทีของนานาชาติ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศ และผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการชี้แจงในองค์กรที่มีความรับผิดชอบระดับประเทศ ซึ่งประชาคม นานาชาติก็จะเห็นข้อเท็จจริงเหล่านี้ต่อไป


เมื่อถามว่า มีความคาดหวังว่าการหยุดดินครั้งนี้อย่างไร พลอากาศเอก ประภาส กล่าวว่า อย่างที่บอกมี 3 ข้อ การหยุดยิงต้องจริงใจ ต่อเนื่อง ก็จะจะรอดู ถึงได้มีเพิ่มเติมว่าเมื่อหยุดยิงตอนเที่ยงแล้ว ยังบวกไปอีก 72 ชั่วโมง ถ้า 72 ชั่วโมงนี้ ยังไม่นิ่ง ไม่มีอะไรต่างๆ เราก็ยังคงใช้มาตรการเดิม ที่เรามีศักยภาพที่จะต่อสู้ป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่าถ้ามีความจริงใจต่อกันตาม 3 ข้อนี้ใน 72 ชั่วโมง แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเรามีกลไกในการพบปะพูดคุยเทั้ง AOT และ ฮอตไลน์ระหว่างรัฐมนตรีกลาโหม และผู้บัญชาการ ทหารสูงสุดก็จะพยายามเจรจาพูดคุยกัน

พร้อมกันนี้ อยากจะสื่อสารไปยังประชาคมโลกว่า ประเทศไทยไม่ได้เริ่มต้นความขัดแย้ง หรือยิงก่อน ถ้าต้องการดูหลักฐาน ประเทศไทยมีหลักฐานยืนยัน ทั้งหมดเป็นไปมาตรฐานสากล ตามกฏหมายระหว่างประเทศ นี่คือความเป็นทหารอาชีพและเป็นประเทศที่มีอารยธรรม และพร้อมที่จะแสดงให้นานาชาติเห็นว่า เรามีความจริงใจ ไม่ต้องการขยายความขัดแย้ง

พลอากาศเอก ประภาส กล่าวต่อว่า เมื่อถามว่า มั่นใจอย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นรูปธรรม พลอากาศเอก ประภาส กล่าวว่า หลัง 72 ชั่วโมง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องคุยกัน แต่หลัง 72 ชั่วโมงนั้นถ้าดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามJoint Statement เราก็จะคืนทหาร 18 นายแต่ถ้าหลังจากนั้นถ้าเกิดขึ้นอีก ก็เป็นความชอบธรรมของประเทศไทยที่จะป้องกันตัวเองตามมาตรา 51 ทุกรูปแบบที่มากระทบ ตราบใดที่คนไทยได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเสียหาย เราจะดำเนินการ ส่วนการเดินทางกลับของคนไทย ก็น่าจะเป็นการประสานงานตามมาหลังจากนี้ ทั้งนี้ประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งทั้งสองประเทศไม่ได้ทำให้ประชาชนมีความสุข ซึ่งคนไทยและคนเขมรไม่ได้มีความขัดแย้งกัน มันเกิดจากการตัดสินใจในระดับผู้บริหาร ก็หวังว่าฝั่งกัมพูชาจะผ่อนคลายให้พี่น้องคนไทยที่ประสงค์กลับประเทศ 

พร้อมยืนยันว่า ทุกประเทศในทั่วโลกมีบทบาททั้งหมด เราแคร์ความรู้สึกและบทบาทของประชาคมโลก ไม่ว่าประเทศใดให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ เรารับทั้งหมด เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น จนนำมาสู่การทำ Joint Statemant และทำให้ประเทศไทยมีหนทางปฏิบัติต่อไป ในทิศทางที่เป็นสันติภาพ ลดความขัดแย้งมุ่ง ไปที่มนุษยธรรม ปกป้องชีวิตพลเรือนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่

เมื่อถามว่า Joint Stateman วันนี้ กับข้อตกลงที่กัวลาลัมเปอร์ ไม่ได้ต่างกัน เรากำลังวนกลับที่เดิม ครั้งก่อนสายด่วนทำอะไรได้บ้าง แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าครั้งนี้จะไม่ถูกฉีกทิ้ง พลอากาศเอก ประภาส กล่าวว่า มันมีหลายประเด็นใน Joint Stateman ครั้งนี้ เราพยายามลดระดับ แต่ถ้าไม่จริงใจแล้วฉีกอีก กองทัพไทยก็ปฏิบัติตามนั้นอย่างเข้มข้น ไม่ต้องกังวลมัน มีกลไกอยู่แล้ว เรามีบทเรียนครั้งที่แล้ว เรามีมาตรการรองรับชัดเจน 

“วันนี้ถือเป็นอีกเวทีหนึ่ง ถ้าเป็นเวทีต่างประเทศเขาไม่สามารถรองรับ ไม่ดำเนินการให้เรียบร้อย เวทีของการสื่อสารก็จะพยายามควบคุม และเวทีสนามรบของกองทัพไทยก็ยังปกป้องประชาชนอยู่ ถ้าไม่จริงใจรับรองว่า ทุกอย่างจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง”

พลอากาศเอก ประภาส ยังย้ำว่า การประชุมมีการคุยกันคู่ขนานทั้งหมด จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าในช่วง 72 ชั่วโมง มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างก็หยุด แล้วก็จะไป self defese แต่ถ้าไม่มีอะไรก็ดำเนินการต่อเนื่อง ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะพื้นที่จำนวนมาก พร้อมขอคนไทยให้เข้าใจและมั่นใจในกองทัพไทย ว่าเราจำเป็นต้องมีกระบวนการตรงนี้เพื่อความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งเราเป็นอารยประเทศก็ต้องดำเนินตามมาตรการนี้ การยืนบนเวทีโลกเราต้องเคารพกฎกติกา แม้เราสู้กับคนที่ไม่เคารพกฎกติกา แต่ถ้าเราสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับเวทีโลกได้ ประเทศไทยไม่ได้สู้ด้วยดรามา การยั่วยุ แต่เราสู้ด้วยความจริง ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลา คนอาจไม่แฮปปี้ แต่ขอให้มั่นใจว่าไม่ว่าการทูตคู่ขนานจะไปอย่างไร แต่กองทัพเตรียมพร้อม 100% พวกเราบอกแล้วไม่มีวันหยุดปีใหม่ สแตนด์บายตลอดเวลา

เมื่อถามว่า ประชาชนที่อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการหยุดยิงมันจะเกิดขึ้น พลอากาศเอก ประภาส กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องมนุษยธรรม เรามีแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ทั้งของมหาดไทย สาธารณสุข แลพเกษตร เราจะดูแลทุกอย่าง ประเทศไทยให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง แม้ต้องรักษาประเทศด้วยชีวิต และรัฐบาลก็มีการมีมาตรการเยียวยาต่างๆ ความขัดแย้งเกิดขึ้นแค่แนวชายแดนประมาณ 700 ถึง 800 กิโลเมตรเท่านั้น ประเทศไทยยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะที่เชียงใหม่ ภูเก็ต ทุกอย่างยังปกติ ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาประเทศไทยได้อย่างมีความสุข ขอให้มั่นใจในความปลอดภัย แค่อย่าเข้าพื้นที่เสี่ยง และเชื่อฟังเจ้าหน้าที่

ส่วนประชาชนที่ต้องการกลับบ้านนั้น อยู่ที่การประเมินของหน่วยทหารในพื้นที่ ถ้าจุดใดปลอดภัย ดูแล้วสามารถเข้าพื้นที่ได้ ไม่มีภัยคุกคาม หรือมีความเสี่ยง ก็จะดำเนินการตั้งแต่ในห้วง นี้ซึ่งตอนนี้บางส่วนก็เริ่มทยอยกลับแล้ว ยืนยันว่าทหารจะยังดูแลพิทักษ์พื้นที่อย่างต่อเนื่อง
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top