17 ธ.ค. 59 หลังจาก ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี 7 ตำแหน่ง และแต่งตั้งรัฐมนตรี 12 ตำแหน่ง โดยประกาศ ณ วันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบันผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น
แนวหน้าออนไลน์ จึงได้รวบรวมประวัติ 12 คณะรัฐมนตรี ไว้ดังนี้
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2494 เป็นบุตรของนายสุทัศน์ ชีวะพฤกษ์ กับนางจินดา ชีวะพฤกษ์ สมรสกับนางนิตษา ชีวะพฤกษ์ มีบุตร 1 คน
สำเร็จการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหลักสูตรการบริหารชั้นสูง (Advanced Management Program) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
เคยทำงานในสังกัดการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ดำรงตำแหน่งสูงสุดเป็นรองผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทย ต่อมาเมื่อมีการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เขาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน และจนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ในระหว่างปี พ.ศ. 2550 ถึงปี พ.ศ. 2554 ซึ่งนับเป็นผู้บริหารที่สามารถสร้างผลกำไรให้บริษัทได้จำนวนมาก
ต่อมาหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 ออมสิน ชีวะพฤกษ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเภสัชศาสตร์ จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระดับปริญญาโทด้านการตลาด จากคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ประเทศสหรัฐอเมริกา
เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และเป็นผู้อำนวยการ SIGA เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และเคยเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์)
หลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ.2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เกิดวันที่ 23 ธันวาคม 2494 คู่สมรส นางอุมาพร ฟูตระกูล
การศึกษา
- B.A. (Political Science), University of Washington, สหรัฐอเมริกา
- M.A. (Foreign Affairs), University of Virginia, สหรัฐอเมริกา
- วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)
ประวัติการรับราชการ
พ.ศ. 2517 ทำงานกระทรวงการต่างประเทศ ในตำแหน่งเลขานุการตรี กองเอเชียตะวันตกและใต้ กรมการเมือง
พ.ศ. 2520 เลขานุการโท กองยุโรป กรมการเมือง
พ.ศ. 2521 เลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์
พ.ศ. 2525 เลขานุการเอก กองนโยบายและวางแผน สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2527 เลขานุการเอก คณะผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
พ.ศ. 2529 ที่ปรึกษา (เศรษฐกิจ) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน
พ.ศ. 2530 ผู้อำนวยการกองอเมริกา กรมการเมือง
พ.ศ. 2532 รองอธิบดี กรมการเมือง
พ.ศ. 2533 ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2534 เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง พม่า
พ.ศ. 2537 เอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา แคนาดา
พ.ศ. 2540 อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก
พ.ศ. 2543 เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา
พ.ศ. 2545 รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2547 - เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส
- ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)
- ผู้แทนไทยใน Governing Board ของศูนย์พัฒนา องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)
พ.ศ. 2549 เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2550 ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2550 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
พ.ศ. 2550 กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์
เกิด 19 พฤษภาคม 2499 การศึกษา รัฐศาสตรบัณฑิต (การคลัง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท MA (Econs.) Western Michigan University. U.S.A. ศึกษาอบรม อาทิ นักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 36 ก.พ. หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรปี 2550 โครงการอบรมผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ชีวิตราชการ เริ่มจากตำแหน่ง เศรษฐกร 3 กองนโยบายการพาณิชย์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ เมื่อปี 2525 ปี 2528 เศรษฐกร 6 ประจำ สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ ณ นครเจนีวา ปี 2536 ผอ.กองการค้าพหุภาคี กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์, ปี 2539 อัครราชทูตที่ปรึกษา สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์, ปี 2541 นักวิชาการพาณิชย์ 9 ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการค้าพหุภาคี, ปี 2544 รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ปี 2548 ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์, ปี 2550 อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, เมษายน 2552-กันยายน 2552 อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, ตุลาคม 2552-เมษายน 2553 อธิบดีกรมการค้าภายใน, พฤษภาคม 2553-มิถุนายน 2557 ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
นายพิชิต อัคราทิตย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
การศึกษา
- ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ University of Texas at Austin
– ประธานกรรมการและกรรมการในการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด
-เคยเป็นนักวิจัยคณะทำงานของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (บุญชู โรจนเสถียร)
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
เกิดวันที่ 19 มีนาคม 2503
การศึกษา
- วิทยาศาสตรบัณฑิต (วัสดุศาสตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ข้าราชการการเมือง เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ประสบการณ์
สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
เลขานุการกรรมาธิการปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส สภาปฏิรูปแห่งชาติ
ที่ปรึกษาคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2496 จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนดรุณาราชบุรี ปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้านครอบครัว สมรสกับนางรุ่งนภา ตันยุวรรธนะ (สกุลเดิม วงษ์ขันธ์) มีบุตร 2 คน
เข้ารับราชการในสังกัดสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ และเป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2552 เคยเป็นคณะกรรมการในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยังคงทำงานต่อเนื่องมาในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา จนครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งควบคู่ทั้งตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ และตำแหน่งทางการเมือง
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ จากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2520 ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จาก Sussex University ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ.2522 และ พ.ศ.2527 ตามลำดับ
เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2520 ถึงปี พ.ศ. 2521 จากนั้น จึงไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ที่ประเทศอังกฤษ และกลับมารับราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในปี พ.ศ2527 จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโบายและแผน ระดับ 10 ชช) ในปี พ.ศ. 2547
ในปี พ.ศ.2548 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และเป็นเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในปี พ.ศ.2551 เป็นรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ.2555 และเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในปีถัดมา ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2557 ซึ่งนับเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว
ดร.อรรชกา ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2558 ในขณะเดียวกัน จึงได้ลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ดร.อรรชกา ยังเป็นอาจารย์พิเศษคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อีกด้วย
นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยลอนดอน แผนกจิตเวชศาสตร์และจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น
เคยเป็นรองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเป็นอาจารย์กิตติมศักดิ์อาวุโส มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเป็นคนไทยที่เป็นสมาชิกของราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร
ต่อมาได้ร่วมกับ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา จัดตั้งโรงเรียนสัตยาไสขึ้น เป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการพัฒนาจริยธรรมในวัยเรียน และ น.พ.ธีระเกียรติ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์จิตวิทยาการศึกษา ซึ่งจัดตั้งโดยมูลนิธิยุวสถิรคุณ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม) เมื่อปี พ.ศ. 2535 ต่อมาหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย) และต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เกิดวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2499 เป็นบุตรชายคนเดียวของ พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล อดีตเสรีไทย และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำหลายประเทศ กับมัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา และเป็นปนัดดา (เหลน) ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เกิดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสมรสกับนางอัมพร ดิศกุล ณ อยุธยา และมีบุตรชายคนเดียว คือ วรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา
การศึกษา
ในระดับประถม(รุ่นที่ 10)และมัธยมที่โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร จากนั้นจึงติดตามครอบครัวไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ณ โรงเรียนเตรียมทหารคิงส์ ประเทศออสเตรเลีย โดยสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโททางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จาก Brigham Young University สหรัฐอเมริกา และได้เข้าศึกษาหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น เปรียบเทียบ ณ Sophia University ประเทศญี่ปุ่น
หม่อมหลวงปนัดดา ผ่านการศึกษาหลักสูตร"นักปกครองชั้นสูง " จากวิทยาลัยมหาดไทย และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 2550
เริ่มต้นเข้ารับราชการในกองทัพบก ตำแหน่ง อาจารย์ สังกัดส่วนการศึกษา กองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ชั้นยศร้อยเอก และเข้าศึกษาหลักสูตรกระโดดร่ม (ส่งทางอากาศ) รุ่นที่ 144 และหลักสูตรชั้นนายร้อยเหล่าทหารม้า จากนั้นได้โอนย้ายมารับราชการ สังกัดกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ ปี พ.ศ. 2541 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนนโยบายการเมืองการปกครองและการบริหาร สำนักนโยบายและแผน และหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2542
ในปี พ.ศ. 2546 ได้รับแต่งตั้งเป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2547) และรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ (พ.ศ. 2550) ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 10 (ชช.) ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในปี พ.ศ. 2552 ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อีกหน้าที่หนึ่ง
นอกจากดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2557 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกหน้าที่หนึ่ง
แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2558 หม่อมหลวงปนัดดา ได้ขอลาออกจากราชการเพื่อทำหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพียงหน้าที่เดียว
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยบราวน์ สหรัฐอเมริกา ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ (การเงินและธุรกิจระหว่างประเทศ) Kellogg School of Management, มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา ปริญญาเอก สาขาบริหารการเงิน School of Management, University of Massachusetts-Amherst สหรัฐอเมริกา สมรสกับนางอิชยา สาวนายน
การทำงาน
เป็นผู้บริหารสถาบันการเงินเอกชน ต่อมาทำงานเป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา เคยเป็นรองคณบดี ฝ่ายวิชาการและอาจารย์ประจำสาขาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และได้รับแต่งตั้งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558
ดร.อุตตม เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ได้ยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559 เพื่อให้มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมซึ่งเป็นกระทรวงที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ภายหลังจากการยื่นลาออกได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี