สมาคมคลองไทยฯเดินหน้าจี้รัฐบาลตั้งกรรมการศึกษาขุดคลองแนว 9A เชื่อมอันดามัน-แปซิฟิกผ่าน 5 จังหวัดในภาคใต้ ในขณะที่”ไก่อู” ย้ำไม่ใช่นโยบายรัฐ เพียงแต่อยู่ในระหว่างการศึกษาผลดีผลเสีย
พลเอกพงษ์เทพ เทศประทีปนายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนากับคณะประชาชน 5 จังหวัดภาคใต้ ให้สัมภาษณ์”แนวหน้า”โดยเรียกร้องไปรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้จัดตั้งคณะทำงานแห่งชาติศึกษาเรื่องคลองไทย เชื่อมทะเลอันดามันกับแปซิฟิคในพื้นที่ภาคใต้
โดยอธิบายว่า ประเด็นดังกล่าวจะนำไทยให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเป็นประเทศพัฒนา ขณะเดียวกัน การทำโครงการพัฒนาภาคตะวันออกอีอีซีนั้นทำให้ประชาชนคนไทยกลุ่มใหญ่ในนามของสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา 5 จังหวัดภาคใต้คือกระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลาร่วมมือกับสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยและสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมมือกับมูลนิธิรัฐบุรุษและสมาคมการค้าอุตสาหกรรมไทย – จีนเป็น 5 ประสานผนึกกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการภาครัฐขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้โดยด่วนเพื่ออนาคตของลูกหลานไทย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา 5 สมาคมได้ร่วมมือกันจัดประชุมเสวนาภาคประชาชนและภาคราชการของจังหวัดกระบี่ ที่หอประชุมอำเภอคลองท่อมจังหวัดกระบี่คณะจาก5สมาคมข้างต้นนำโดยพลเอกพงศ์เทพ เทศประทีปนายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนาและเลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษนายกกิติมศักดิ์ของสมาคมอุตสาหกรรมไทย – จีน นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ นายวิรวัฒน์ แก้วนพ วิศวกรนักวิชาการของสมาคมคลองไทยฯได้ร่วมเสวนากับหอการค้าจังหวัดกระบี่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่และสมาคมการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระบี่
โดยได้เสวนาในหัวข้อการขุดคลองไทยจะได้ประโยชน์อะไรกับคนไทยและคนใต้เพื่อให้สมาชิกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านกระบี่ทราบข้อมูลที่ทั้ง 5 สมาคมได้เรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสนใจการขุดคลองไทยมาตั้งแต่กลางปี2559 มาจนถึงปี 2561 เป็นปีที่ 3 สมาชิกกำนันและผู้ใหญ่บ้านได้ร่วมกันสนับสนุนให้รัฐอนุญาตให้ขุดคลองไทยเส้นทาง9เอระยะทาง135กม.ผ่าน 5 จังหวัด 8 อำเภอ 24 ตำบล 95 หมู่บ้านมีประชาชนในเขตคลอง120,000 คนคลองไทย 9 เอซึ่งตามโครงการที่ศึกษาไว้นั้นคลองจะมีความลึก30 เมตรรวม 2 คลองกว้างคลองละ 400 เมตรโดยผู้ดำเนินการจะจัดตั้งบริษัทจำกัดมหาชนมีภาครัฐบาลไทยถือหุ้นร่วมกับบรรษัทวิสาหกิจนานาชาติเป็นเจ้าของร่วมกับภาคประชาชนชาวไทย
ช่วงบ่ายนั้นคณะกรรมการจาก 5 สมาคมนำโดยพลเอกพงศ์เทพ เทศประทีป พลตำรวจเอกสุนทร ซ้ายขวัญ พลเอกประดิษฐ์ บุญเกิด พลเอกธวัชชัย สมุทรสาคร พลตรีสรชัย แก้วนพ ดร.ชุมพล สุขเกษม ดร.สุเมต สุวรรณพรหม นายวิรวัฒน์ แก้วนพ นายยศไกร รัตนบันเทิง น.ส.ศศิณา สุภาพันธ์ นายยงยศ แก้วเขียว นายณรงค์ ขุ้มทอง นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ นายอุทัย ชนะบางแก้ว ว่าที่ร้อยตรีประพันธ์ เพ็งเจริญ นายศุภชัย ชนะสงคราม นายชวน ภูเก้าล้วน นายสฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ว่าที่ร้อยตรีไกรธนู แกล้วทนงค์ นายสำคัญ เพชรทอง นายนิยม คำแหง นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายวิมล นับทอง รศ.ดร.ธีรวุฒิ โศภิษฐิกุล นายพิชัย มานะสุทธิ์ นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายบุญส่ง นับทองร่วมกันเสวนาในหัวข้อคลองไทยแนตว 9 เอคนภาคใต้และประเทศไทยได้ประโยชน์จริงหรือ และยุทธศาสตร์เศรษฐกิจประเทศไทยที่ภาคใต้ถึงเวลาที่คนไทยต้องตัดสินใจร่วมกันเสนอต่อรัฐบาลที่ห้องประชุม โรงแรมมาริไทม์ปาร์คแอนด์สปารีสอร์ทอำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ โดยมีพันตำรวจโทหม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่มาร่วมแสดงคงวามคิดเห็นและรับฟังข้อคิดเห็นด้วยท่ามกลางตัวแทนภาคประชาชนจังหวัดกระบี่และตรังมากกว่า100คน
ผลการเสวนาในภาคบ่ายรวม 4 ชั่วโมงเต็มนั้นสรุปได้ว่าภาคใต้ซึ่งประชาชนเคยมีรายได้จากเหมืองแร่ดีบุก วูลแฟรม สวนผลไม้ มะพร้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมันนั้นจะไม่สามารถเลี้ยงประชาชนภาคใต้ได้เหมือนในอดีตแล้วคงเหลือแต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการประมงทันสมัยเท่านั้น การขุดคลองไทย 9 Aจะพลิกฟื้นผินแผ่นดิน14จังหวัดภาคใต้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองนำประเทศไปสู่ชาติที่พัฒนาแล้ว ผืนดิน 2 ฝั่งคลองและเกาะเทียม 2 เกาะที่ชายทะเลระโนดสงขลาจะทำให้ประเทศมีรายได้ต่อปีประมาณ 5 – 6 แสนล้านบาท โครงการนี้แม้จะใช้วงเงินลงทุนมหาศาลถึง 2 ล้านล้านบาทจะทำให้ประชาชนมีงานทำที่มั่นคงยืนยาวไปอีกเป็นศตวรรษถึง 2 ล้านตำแหน่ง
ที่ประชุมเสวนาได้เรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์รับผลการเสวนานี้ไปตั้งเป็นคณะทำงานแห่งชาติขึ้นมาเพื่อศึกษา
ในประเด็นดังกล่าว พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ กำชับว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่นโยบายของนายกฯ และรัฐบาลในเวลานี้ โดยเน้นย้ำว่าโครงการขุดคลองไทยอยู่ระหว่างศึกษาผลดีผลเสียทุกด้าน เช่น ความมั่นคง และงบประมาณที่ต้องใช้จำนวนมาก ซึ่งในพื้นที่ยังคงมีปัญหาอื่นอยู่อีก จึงต้องจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง
ทั้งนี้ การกล่าวอ้างเหตุผลที่ว่า การขุดคลองไทยจะทำให้เรือเดินสมุทรสัญจรผ่านทะเลได้ และเศรษฐกิจภาคใต้จะดีขึ้นหากมีเส้นทางเดินเรือระหว่างอ่าวไทยกับทะเลอันดามันนั้น เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงขอให้ผู้ที่ได้รับข้อความจากการส่งต่อกัน โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร ไม่สร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม หรือรวมตัวกันจนเกิดเป็นเรื่องบานปลายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี