ปชป.-พท.เมินถก7ธค.
มาร์คฉุนข่าวบิ๊กป้อมต่อรอง
ประวิตรปัดไม่เคยโทรล็อบบี้
บิ๊กตู่ยังรอพรรคส่งเทียบเชิญ
“บิ๊กตู่” เผยเลือกตั้งก่อนมีพระราชพิธีสำคัญ วอนทุกฝ่ายทำบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ยังไม่มีใครมาเทียบเชิญให้ลุยการเมือง ในขณะที่บิ๊กป้อมปัดข่าวโทรคุยอดีตเลขาฯปชป.ขอหนุนประยุทธ์เป็นนายกฯอีกรอบจับมือ“พปชร.”ตั้งรัฐบาล
ด้าน”มาร์ค”เดือดขอยึดหลักการไม่แลกผลประโยชน์ ส่งโฆษกฯแจงไม่ร่วมประชุมคสช.7ธค.ถ้าประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะ ด้าน”เฉลิม” เผยตั้งวอร์รูมจับโกง จัดทีมปราศรัยหาเสียง ยินดี‘โอ๊ค’ร่วมเดินสาย เย้ย’พปชร.-ปชป.’จะเอาอะไรมาชนะ เพื่อไทย
ที่ทำเนียบรัฐบาลเย็นวันที่ 4 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังการประชุมครม. ถึงพระราชพิธีสำคัญที่นายกรัฐมนตรีระบุว่ากำลังจะมีขึ้น ว่า งานสำคัญของประเทศชาติเรานั้น วันนี้เรามีสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รัฐบาลทำงานมากันตลอด ช่วงเวลาที่ผ่านมา ประชาชนอยู่ในช่วงการเปลี่ยนรัชกาล ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงราชย์แล้ว ขณะนี้เหลือเพียงการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมี 2 ช่วง โดยช่วงแรกเป็นการทำงานของรัฐบาลในการเตรียมงานเข้าสู่พระราชพิธีซึ่งกำหนดการนั้น รัฐบาลจะต้องรอให้มีพระราชโองการโปรดกเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา รัฐบาลกำหนดเองไม่ได้
ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดูว่าจะทำอย่างไรในการเดินหน้าประเทศ การจัดการเลือกตั้งให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาเอง ตนคิดว่ายังเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเราต้องเข้าใจว่ามีอีกหลายกลไก นายกรัฐมนตรีคนเดียวสั่งการทุกอย่างไม่ได้ บางอย่างไม่ควรจะสั่งหรือเข้าไปยุ่ง แม้จะมีอำนาจก็ตาม แต่ไม่ควรไปยุ่ง ถ้ายุ่งไปเสียทั้งหมด นายกฯก็ตายคนเดียว
ยึดในจารีตประเพณี
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ช่วงที่ 2 คือการที่รัฐบาลต้องเตรียมน้ำจากแหล่งน้ำที่สำคัญของประเทศ รวมถึงดินและสิ่งต่างๆที่นำมาจากแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นไปตามจารีตประเพณี ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยมีพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ซึ่งสำนักพระราชวังเผยแพร่จะหมายกำหนดการหลังจากมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา ซึ่งพระราชพิธีเหล่านั้นจะใช้เวลาหลายวัน ขณะที่ขั้นตอนการเตรียมการดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะเรื่องนี้คือความสงบร่มเย็นของประเทศไทย เมื่อถามว่าเริ่มเตรียมการในส่วนนี้แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องรอห้วงเวลาที่จะทรงโปรดเกล้าฯลงมาก่อน ก็คิดว่าคงไม่นานนัก เดียวท่านก็จะทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯลงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลต้องจัดเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าเวลามันเกิดพอดีกัน จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย แล้วจะช่วยกันได้หรือไม่ ตนเองก็ไม่อาจไปสั่งอะไรได้ พิธีสำคัญนี้เป็นเรื่องของเหนือหัว ขอให้จำไว้ ถือว่าวันนี้ผมไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่อยากจะเตือนทุกคน ลืมกันไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่พูดๆ ยังไงก็ต้องเลือกตั้งก่อนอยู่แล้ว”
ยังไม่มีใครมาเทียบเชิญ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความชัดเจนกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประกาศพร้อมส่งเทียบเชิญลงบัญชีผู้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรค ว่า เป็นความชัดเจนของพรรคทำไมตนต้องไปชัดเจนกับเขาด้วย ทำไมอยากจะรู้กันเหลือเกิน ซึ่งทุกพรรคบอกจะเสนอ”ประยุทธ์”ทั้งนั้น แต่ก็ไม่เห็นใครมาเชิญตนเลย ซึ่งหากจะพูดก็พูดไปตนยังไม่ตัดสินใจและจะเลือกตั้งพรุ่งนี้กันหรืออย่างไร อยากรู้กันหรือ ก็รู้อยู่แล้วหรือเปล่า ซึ่งแม้อยากรู้ก็ยังไม่ให้รู้ แต่ถ้าไม่อยากรู้ตนก็จะพูดเอง
ปลดล็อคเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า นายกฯ จะให้เวลาตัวเองจนถึงเมื่อไหร่ ถึงสามารถให้คำตอบและความชัดเจนกับประชาชนได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปลดล็อคเมื่อไหร่ก็ว่ากันตอนนั้น เพราะเมื่อมีการปลดล็อคทุกคนก็จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ ตนก็จะฟังว่าพรรคนี้เสนออะไรมา มีประโยชน์ตรงไหน ถ้าเสนอเหมือนหาเสียงครั้งก่อนๆมา เช่น จะทำให้ราคายางสูงขึ้น 3-4 เท่า ถามว่าทำได้หรือไม่ จึงต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้
‘บิ๊กป้อม’ปัดโทรคุยเฉลิมชัย
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวโทรประสานนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อชวนเป็นพันธมิตรทางการเมืองสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอีกหน พร้อมเสนอกระทรวงเกรดเอให้ปชป.ร่วมรัฐบาล ว่า “ไม่จริง และไม่ได้เจอกับนายเฉลิมชัยเลย ไม่ได้พูดอะไรกันเลย”
เมื่อถามว่าหากไม่ใช่นายเฉลิมชัย แล้วได้พูดคุยกับใครบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้พูดกับใครเลยในพรรค ปชป.พูดเรื่องอะไร ตนไม่ได้อยู่พรรคการเมือง และไม่ใช่มือประสาน ข่าวที่เกี่ยวกับนายเฉลิมชัยตนก็เพิ่งทราบ และการพูดคุยเป็นของพรรคการเมือง พรรคเขาจะพูดกับใครก็ว่าไป ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง
เมื่อถามว่า หากมีคนขอให้ช่วยประสานในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ประสาน ตนจะเกี่ยวอะไร จะไปประสานกับใคร ตนไม่รู้จักใครเลย เมื่อถามว่า การปล่อยข่าวออกมาลักษณะนี้ มองว่าผู้ปล่อยมีความต้องการอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ เขาจะดิสเครดิตตนหรือไม่ ยืนยันตนไม่ได้พูด และไม่ได้เจอหน้านายเฉลิมชัยเลย ที่ผ่านมาตนเคยเป็นรัฐบาลร่วมกับ ปชป. 3 ปี ก็รู้จักกัน นายเฉลิมชัยตนก็รู้จัก แต่วันนี้ไม่มีเบอร์โทรกันแล้ว
“มาร์ค”ปฎิเสธทันควัน
ในประเด็นเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.ก็ร่วมปฎิเสธด้วยและย้อนถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าจะได้สส. 350 คน ก็ไม่จำเป็นอะไรต้องคุยกัน
“ผมเป็นหัวหน้า ปชป.ก็พูดชัดเจนว่าอย่ามาพูดเรื่องตำแหน่ง เพราะจุดประสงค์ของพรรคคือการนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง “นายอภสิทธิ์ ระบุ
ทั้งว่า ขณะนี้การเมืองมี 3 ขั้วคือ พปชร.,ปชป.และ เพื่อไทย(พท.) ซึ่งเป็น 3 แนวทางที่แตกต่างกันชัดเจน ต้องให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา
ชี้จุบจบสืบทอดอำนาจไม่สวย
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพปชร.จะทาบทามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ไปเป็นหนึ่งในบัญชีนายกฯของพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับก็แปลว่ามีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งครั้งนี้
“ในอดีตพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจมักมีจุดจบที่ไม่ดี หากทำอะไรแบบเดิม ๆ ก็คงยากที่จะคาดหวังให้ผลเปลี่ยนแปลง พร้อมกับฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่า ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง โดยเรื่องธรรมาภิบาลจะหยุดแค่เรื่องกฎหมายไม่ได้ ผมอยากให้ท่านพิจารณาเอง และทุกคนต้องจับตาว่าเวลาที่พูดเรื่องธรรมาภิบาลตลอดเกือบ 5 ปี จะปฏิบัติหรือไม่ สิ่งที่ผมพูดไม่ได้เล่นแง่ ทั้งหมดเป็นดุลพินิจของท่านที่จะพิจารณา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ปชป.ไม่ร่วมถกคสช.7ธค.
ขณะเดียวกัน นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคปชป. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจะเข้าร่วมการประชุมกับคสช.ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้หรือไม่ว่า คสช.เขามีธงอยู่แล้ว และ ต้องดูพล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอย่างไร หากตัดสินไม่นั่งเป็นประธานการประชุม เราจะพิจารณาอีกครั้ง แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นประธานประชุม เราก็จะไม่ไปร่วม เพราะเห็นว่าการจัดเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของกกต. ไม่ใช่หน้าที่ของคสช. อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ก็มีแนวโน้มถูก พปชร.เสนอเชื่อเป็นนายกฯ
“ผมเห็นว่าการที่พรรคถูกเชิญไปครั้งนี้เหมือนเป็นไม้ประดับเท่านั้น เพราะแผนและขั้นตอนการเลือกตั้งเขาทำทำเสร็จแล้ว เพียงแต่พรรคให้ไปรับทราบคำชี้แจงเท่านั้น แต่การที่พรรคจะเข้าร่วมหรือไม่ ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการตีรวน เพราะที่ผ่านมาพรรคให้ความร่วมมือตั้งแต่ปี 57 ให้ประเทศกลับมาสู่ความสงบเรียบร้อย ถ้าวันนี้คสช.อ้างว่ายังมีปัญหาความสงบเรียบร้อย แสดงว่า 4ปีกว่าของคสช.ไม่ประสบความสำเร็จ และหากไม่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ คสช.จะนำไปเป็นข้ออ้างในการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ เราก็ไม่กลัว เพราะพรรคจำเป็นต้องรักษาหลักการ และรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก”นายธนา ระบุ
พรรคเพื่อชาติชี้ไร้ประโยชน์
ด้านนายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าวว่า ทางพรรคมีมติไม่ร่วมประชุมกับคสช.ในวันที่ 7 ธันวาคม เพราะแค่เชิญพรรคการเมืองไปรับฟังในรายละเอียดและขั้นตอน ตลอดจนการดำเนินการของ คสช.และ กกต. เท่านั้น ไม่ได้ให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วม และเสนอแนะแนวทางในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามแนวทางประชาธิปไตย อีกทั้งขั้นตอนการดำเนินการของ คสช.และแม่น้ำ 5 สาย มีลักษณะเตรียมการไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว และไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดำเนินการของ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งเลย การประชุมดังกล่าวจึงถือได้ว่าไม่เกิดประโยชน์อันใด อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ก็มีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้ง เพราะเป็นผู้ถูกเสนอชื่อ เป็นแคนดิเดต 1 ใน 3 นายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง คสช.มิได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งอีกด้วย
พท.ย้ำชัดไม่ไปร่วมถกแน่นอน
วันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้ตอบโต้หัวหน้าคสช.ที่ตำหนิพรรคการเมืองที่ประกาศไม่ร่วมประชุมกับคสช.ในวันที่7 ธค.เป็นพวกไม่เคารพกติกา ว่า ต้องไปทบทวนดูว่าการใช้กำลังทำการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญถือเป็นการไม่เคารพกติกาอย่างเห็นได้ชัดและใช้อำนาจส่วนตนแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ใช้อำนาจแบบไม่มีการถ่วงดุลตรวจสอบ ใช้อำนาจเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงองค์กรอื่นๆ อย่างที่ผ่านมา
“หากเทียบกับการไม่เข้าร่วมฟังคำชี้แจงอะไรจากพวกท่านต้องถามว่าใครกันแน่ที่ไม่เคารพกติกา ไม่เคารพกฎหมาย ที่พรรคการเมืองหลายพรรคเขาประกาศจะไม่ไปฟังคำชี้แจงของท่าน เพราะเขาเห็นว่าปัญหาอุปสรรคต่างๆของพรรคการเมืองเกิดมาจากคำสั่งของท่าน ดังนั้นท่านก็ต้องแก้ปัญหาเอาเอง ไม่ใช่มาโยนว่าพวกที่ไม่ไปไม่เคารพกฎหมาย” นายชูศักดิ์ กล่าว ทั้งยืนยันพท.ไม่ร่วมประชุมกับคสช.แน่นอน
ตั้ง‘เหลิม’หัวหน้าทีมปราศรัย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำ พท. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพรรคให้เป็นหัวหน้าทีมปราศรัยหาเสียงทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นจัดทีมปราศรัยมีตน นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุทิน คลังแสง และผู้สมัครในพื้นที่ กำหนดแนวทางปราศรัยใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อเวที ส่วนเรื่องที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมาช่วยปราศรัยหาเสียง ก็คงน่าจะมา ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะนายพานทองแท้ก็เป็นคนวัยหนุ่ม
ขณะเดียวกันทางพรรคมอบหมายให้ตนตั้งทีมวอร์รูม มีคณะทำงานของตน หากผู้สมัครมีปัญหา ไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาในกรุงเทพฯ ให้ติดต่อผ่านวอร์รูม มีโทรศัพท์ 15 เครื่อง มีนักกฎหมายคอยให้คำปรึกษา พร้อมทั้งเตรียมยกร่างแบบฟอร์มให้ผู้สมัครติดตัว หากถูกโกงให้ไปร้องทุกข์แจ้งความได้ทันที
ร.ต.อ.เฉลิม ยังปรามาส พปชร.ว่าไม่มีวันชนะ พท. และพท.จะได้ สส.มากกว่าเดิม
ขณะที่ ปชป.ได้ ส.ส.น้อยลง เพราะได้แสดงวีรกรรมเป็นที่ชัดเจน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. เคยไปเป่านกหวีด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งก็มาอยู่ ปชป. ดังนั้นพรรคพท.จะปราศรัยง่ายในกรุงเทพฯ เอาเป็นว่าพรรคปชป.จะได้ ส.ส.ไม่เท่าเดิมก็แล้วกัน เราอยู่เฉยๆ อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าให้เขาโกง ก็ชนะแน่นอน
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำ พท. ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะลงส.ส.เขตบางแค ส่วนที่มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ จะลงเขตดอนเมืองนั้น ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับท่าน เลยไม่กล้าจะยืนยัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี