“ประชาธิปัตย์”ประกาศนโยบายแรก ยกเครื่องการศึกษาไทย ชู 10 นโยบายด้านการศึกษา “เกิดปั๊บ รับสิทธิ์เงินแสน”-เบี้ยเด็กเข้มแข็ง 8 ปี 1,000 บาทต่อเดือน
15 ธ.ค.61 เวลา 09.00น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้า พรรคฯประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ประกาศ“นโยบายการศึกษา”ประเดิมนโยบาย แรกเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งโดยมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กตาม 7 เป้าหมายหลักคือ สุขภาพดี มีทักษะการ คิดวิเคราะห์มีทักษะ 2ภาษามีทักษะในการใช้เทคโนโลยี มีคุณธรรม และจิตสาธารณะเข้าใจสิทธิและหน้าที่และมีทักษะชีวิต
นอกจากนี้พร้อมแก้ปัญหาหลักการศึกษาไทย ได้แก่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำปัญหาคุณภาพเด็ก ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอน ปัญหาความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทั้งระบบย้ำจุดยืนเดิมของพรรคที่ให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้วยการกระจาย อำนาจจากกระทรวงมุ่งตรงสู่โรงเรียนยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยทำงาน
“คุณภาพการศึกษาไทยมีปัญหาในทุกช่วงชั้นโดยเฉพาะช่วงเด็กปฐมวัยซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมาก ที่สุดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปัญหาหลักด้านการศึกษาในปัจจุบันมีหลายเรื่อง ได้แก่ปัญหาความ เหลื่อมล้ำปัญหาคุณภาพเด็ก ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอน ปัญหาความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเริ่มจากการกระจายอำนาจไปที่ระดับโรงเรียน เพิ่มอำนาจการ บริหารจัดการตัวเอง ให้เป็นโรงเรียนที่ประชาชนเป็นเจ้าของโดยแท้จริง ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหาร มี การพัฒนาบุคลากรครูและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนรวมถึงการสร้างความพร้อมของเด็กใน7 เป้าหมายคือ 1.สุขภาพดี 2.มีทักษะการคิดวิเคราะห์ 3.มีทักษะ 2ภาษา 4.มีทักษะในการใช้เทคโนโลยี 5. มีคุณธรรมและจิตสาธารณะ 6. เข้าใจสิทธิและหน้าที่ และ 7. มีทักษะชีวิต” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
พรรคประชาธิปัตย์จึงได้กำหนด10นโยบายหลักด้านการศึกษาเพื่อยกระดับ คุณภาพเด็กไทย ไว้ดั้งนี้1.เกิดปั๊บ รับสิทธิ์เงินแสน เบี้ยเด็กเข้มแข็ง 0-8 ปี 1,000 บาทต่อเดือน แบบถ้วนหน้า เพื่อ สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของเด็กตั้งแต่แรกเกิด
2.ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพดีทั่วไทย จัดการศึกษาปฐมวัยให้มีคุณภาพ พัฒนาหลักสูตรที่เน้น กระบวนการคิดเพิ่มครูปฐมวัยทั่วประเทศเพื่อให้เด็กมีการพัฒนาเติบโตอย่างมีคุณภาพในทุกด้านทั้งทาง สมอง ร่างกาย จิตใจและอารมณ์
3. อาหารเช้า-กลางวันฟรี มีคุณภาพ สนับสนุนค่าอาหารเช้าและอาหารกลางวันฟรี ให้กับ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสถานศึกษา โดยคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการที่นักเรียนควรได้รับ
4.เด็กทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้(ด้วยEnglishforAll)จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดย เจ้าของภาษาเน้นทักษะการสื่อสารตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลโดยเฉพาะการพูดและการฟังพร้อมส่งเสริมให้มี การสร้างบรรยากาศที่เอื้อ ต่อการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปสู่การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ของ สังคมไทย 5.ปรับหลักสูตรเพื่อโลกอนาคต ตั้งแต่ระดับชั้นประถมที่เน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าการ ท่องจา ระดับมัธยมต้นเน้นการค้นพบตัวเอง ระดับมัธยมปลายเน้นการเลือกเรียนวิชาที่ถนัด และตรงตาม เป้าหมายและระดับมหาวิทยาลัยเน้นลดภาระและขั้นตอนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย 6. เรียนฟรีถึงปวส. จบแล้วมีงานทำ สนับสนุนเรียนฟรี ปวช. และ ปวส. ในอาชีวศึกษาภาครัฐ และเอกชน ทั้งสายช่างและสายพาณิชย์ พัฒนาระดับฝีมือ ทักษะการทำงานจริง เพื่อผลิตบุคลากรให้ตรง ตามความต้องการของตลาดแรงงานโดยเพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนตั้งแต่ต้นจนจบ
7.การศึกษาตลอดชีวิตคูปองเพิ่มทักษะสำหรับผู้ใหญ่แจกคูปองเพิ่มทักษะและส่งเสริมการ เรียนรู้เพิ่มเติมทักษะในด้านต่าง ๆ สำหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้ทันสมัยและทันต่อความเปลี่ยนแปลง เพิ่มโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ 8. คืนครูให้นักเรียน ลดภาระงานของครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เช่น งานธุรการ และ ปรับวิธีการประเมินครูโดยใช้คุณภาพของนักเรียนเป็นตัวชี้วัดผลงานของครู 9. จัดตั้งกองทุน Smart Education เพื่อสนับสนุน Social Enterprise และ Startup ทางด้านการศึกษารวมถึงการนาเทคโนโลยีEdTech(EducationTechnology)มาใช้เพื่อการพัฒนาการเรียนการ สอน และการสอบ ให้มีประสิทธิภาพ และ10. กระจายอำนาจจากกระทรวงสู่โรงเรียน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี