รัฐบาลกราบบังคมทูลเชิญ"สมเด็จพระเทพฯ"เสด็จเป็นองค์ประธานประชุมอำนวยการเตรียมงาน"พระราชพิธีบรมราชาภิเษก"ที่ทำเนียบรัฐบาล "วิษณุ"เผยตั้งคกก.7ชุดเตรียมงาน เดือนเม.ย.เริ่มพิธี"พลีกรรม"ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่วันที่4พ.ค.63เป็นวัน"ฉัตรมงคล"
10 ม.ค.62 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อรับทราบหมายกำหนดการพระราชพิธี วันที่ 4 - 6 พ.ค.โดยมีรองนายกรัฐมนตรี , รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้แทนสำนักพระราชวัง เข้าร่วม
ภายหลังการประชุม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การแถลงรายละเอียดขอเป็นหลังวันที่ 26 ม.ค.เนื่องด้วยวันดังกล่าว เวลา 17.30 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงพระกรุณาเสด็จเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ จะเสด็จมาเป็นประธานในที่ประชุม โดยจะมีประธานองคมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดยแบ่งเป็นคณะกรรมการต่างๆ 7 คณะ ประกอบด้วย 1.ฝ่ายพิธีการ มีตนเป็นประธาน 2.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัย มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการฝ่ายโครงการต่างๆ มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม เป็นประธาน 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ เป็นประธาน 5.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการเสนองบประมาณ มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นประธาน 6.คณะกรรมการในส่วนของการทำจดหมายเหตุ และ 7.กรรมการในส่วนประสานงานต่างๆซึ่งเป็นชุดย่อยลงไป
อย่างไรก็ตาม หลายเรื่องในที่ประชุมวันนี้ต้องนำความกราบบังคมทูล ในวันที่ 26 ม.ค.ก่อน และบางเรื่องต้องขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงบางเรื่องต้องนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วย จึงไม่สามารถแถลงได้
นายวิษณุ กล่าวว่า โดยเบื้องต้นให้เป็นความรู้ก่อนว่า ขณะนี้หมายกำหนดการออกมาแล้วว่า พระราชพิธีจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.การเตรียมการเบื้องต้น 2.พระราชพิธีเบื้องกลาง และ 3.ส่วนที่เป็นกิจกรรมต่อเนื่องเบื้องปลาย โดยพระราชพิธีเบื้องกลาง คือ ตัวพระราชพิธีที่มี 3 วัน คือ วันเสาร์ที่ 4 พ.ค. , วันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.และวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.แต่พิธีเบื้องต้นที่นำหน้ามาก่อนนั้นมีเกือบเต็มทั้งเดือน เม.ย.โดยจะเริ่มจากพิธี "พลีกรรม" คือ พิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.กระทั่งสิ้นเดือน เม.ย.และต่อด้วยเดือน พ.ค.ในวันที่ 2 - 3 พ.ค.ต่อจากนั้นจะเข้าสู่พิธีเบื้องกลาง ซึ่งเป็นพระราชพิธีบรมราชภิเษก ในวันที่ 4 - 6 พ.ค.โดยวันสำคัญที่สุด คือ วันที่ 4 พ.ค.ที่ในปีนี้เป็นวันบรมราชาภิเษก แต่ในปีหน้าวันที่ 4 พ.ค.63 จะไม่ใช่วันบรมราชภิเษก เพราะบรมราชาภิเษกไปแล้ว จึงเป็นวันที่ระลึกถึงการบรมราชาภิเษก ซึ่งปีหน้าวันที่ 4 พ.ค.63 จะเรียกว่า "วันฉัตรมงคล" และจะเรียกตลอดไปในรัชกาลนี้
ส่วนกิจกรรมเบื้องปลายต่อเนื่องหลังวันที่ 6 พ.ค.คือ ในวันที่ 8 - 9 พ.ค.ซึ่งเป็นพระราชพิธีพืชมงคล และหลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรมของรัฐบาลและประชาชน ที่จะจัดน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ตรงนี้หลายๆ อย่างต้องรอให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องประชุมกันอีกที
เมื่อถามว่า หลังประชุมวันที่ 26 ม.ค.จะได้ข้อสรุปกระบวนการงานพระราชพิธีครบถ้วนใช่เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ครบทุกอย่าง และวันนี้เท่าที่มีการรายงานในที่ประชุมได้มีการเตรียมงานกันไปเองก่อนแล้ว ถือว่าลุล่วง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่า สำหรับงานพระราชพิธีน่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า น่าจะคงยาวไปตลอด แต่จะไม่กระทบต่อเหตุการณ์บ้านเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี