รับมือ‘น้ำท่วม-ภัยแล้ง’
‘นายกฯ’สั่งทุกฝ่ายผนึกกำลัง
ร่วมบริหารจัดการให้ดี
กทม.กำชับระดมสูบน้ำ
เร่งระบายในทุกจุดเสี่ยง
“นายกฯ” ประกาศรัฐบาลมีความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งป้องกัน “น้ำท่วม-แก้ภัยแล้ง” ขอขอบคุณทุกส่วนราชการที่ให้ความร่วมมือมาตลอด 5 ปี
ขณะกทม.อัพเกรดระบบเตือนภัยฝนตกน้ำท่วมให้ทันสถานการณ์ ชี้ฝนถล่มน้ำท่วมหนัก ศุกร์ 7 มิถุนายนเพราะอุโมงค์ยักษ์บางซื่อขัดข้อง ลั่นแก้ไขแล้วพร้อมส่งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเพื่อมั่นใจ หากฝนถล่มซ้ำรอยอีก สามารถเอาอยู่ เร่งระบายจุดเสี่ยง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างรู้ สื่อสาร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูฝนปี 2562” ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีเมื่อเช้าวันที่ 12 มิถุนายนโดยมีหน่วยงานด้านน้ำกว่า 40 หน่วยงานเข้าร่วมงาน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าทรัพยากรน้ำมีความสำคัญต่อประเทศและประชาชน การเพิ่มขึ้นของประชากร ทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาการบุกรุกป่า ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆการเพิ่มขึ้นของชุมชนเมือง อุตสาหกรรม ส่งผลต่อคุณภาพน้ำ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันดูแล โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบูรณการในการแก้ปัญหาการจัดการน้ำตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั้งน้ำอุปโภค-บริโภค ที่ให้เข้าถึงทุกหมู่บ้านในประเทศไทย การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การพัฒนาแหล่งน้ำรองรับอุตสาหกรรมใหม่
จากการเดินหน้าแก้ปัญหาต่างๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน4.35 ล้านครัวเรือนพื้นที่ได้รับประโยชน์ 3.15ล้านไร่ ขณะที่ตั้งแต่ปี 2551มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งทุกปี และตั้งแต่ปี2557-2561 มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งลดลง เช่น ในปี 2561ไม่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งและในปี 2562 มีการประกาศภัยแล้งในพื้นที่ 3 จังหวัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาน้ำมี3เสาหลัก ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบด้วย พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561,แผนแม่บทการบริหารทรัพยากรน้ำ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่เป็นกำลังหลักในการกำหนดแผนปฏิบัติ เชื่อมโยงข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด รวมถึงวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายประชากร เช่น การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากนี้ เห็นควรให้เพิ่มเสาที่4คือด้านนวัตกรรม และต้องแจ้งให้ประชาชนทราบและเข้าใจในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อความร่วมมือในการป้องกันภัยด้วยตนเองและสามารถปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์เพื่อลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทย มีปัญหา 2 อย่างคือภัยแล้ง และอุทกภัย แต่บางคนไม่ท่วมก็ท่วมไปด้วยก็คือน้ำท่วมใจ ด่าโขมงโฉงเฉงไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องที่วางแผนเพื่ออนาคต ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกระแส แต่ยอมรับว่า เรื่องนี้ก็ถูกมอง เป็นเรื่องการเมืองเหมือนกัน อย่าทำให้เป็นกระแสการเมืองขึ้นไปอีกเพราะหากทุกเรื่องเป็นกระแสทางการเมือง ก็จะแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ หวังว่านายกรัฐมนตรีท่านใหม่จะรับทำต่อไป
“ยอมรับว่าการทำงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อาจจะมีใจร้อนไปบ้าง อยากทำงานแก้ไขให้เสร็จโดยเร็วแต่เข้าใจดีว่าไม่สามารถใช้วิธีการแบบทหารมาแก้ไขปัญหาได้ แต่ก็จำเป็นต้องมีการสั่งการ หรือจ้ำจี้จ้ำไชบ้างถือว่าทุกคนให้เกียรติผม ให้สามารถทำงานมาถึงตรงนี้ได้ ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าได้วางกลไกการบริหารงานของทุกกระทรวงไว้มากพอสมควร และขอขอบคุณทุกส่วนราชการที่ให้ความร่วมมือมาตลอด 5 ปี อาจจะมีชอบ หรือไม่ชอบผมบ้าง ก็ไม่เป็นไรซึ่งผมได้ยึดตามหลักศาสนาพุทธว่าจงไม่ยินดี ยินร้ายกับคำชมและคำตำหนิ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าที่ตนทำหน้าที่จนถึงทุกวันนี้ได้ ก็ด้วยใจ ความศรัทธาและความเชื่อมั่น แต่การทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะทำเพื่อประชาชนได้ทั้งหมด ซึ่งการทำงาน พบหลายปัญหา ทั้งปัญหาความขัดแย้ง กฎหมาย ถ้าตนสนใจทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่อ่านเลย ก็จะถูกมองว่าโง่ แต่ถ้าเชื่อทุกอย่างก็อาจถูกมองว่าบ้า เหมือนโลกโซเชียลฯ ทุกวันนี้ ต้องพิจารณาว่าถูกต้องและเชื่อถือได้หรือไม่ และขอทุกคนอย่าสร้างความขัดแย้งขึ้นอีกเพราะไม่อยากบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้นอีก
วันเดียวกัน นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวว่าจะปรับปรุงระบบการแจ้งเตือน การก่อตัวของกลุ่มฝนในพื้นที่ใกล้เคียง หรือในกรุงเทพ ให้ประชาชนได้รับทราบ และสามารถแจ้งล่วงหน้าได้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามในส่วน ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตก ทิศทางลม หรือกลุ่มฝนเคลื่อนไปจุดไหน กทม.จะแจ้งเตือนแบบ Real Time ทุกๆ 15 นาทีอยู่แล้ว ผ่านทาง เว็บไซต์ของสำนักการระบายนํ้า http://dds.bangkok.go.th และ ตรวจสอบข้อมูลจากเรดาร์ตรวจฝนของกรุงเทพมหานครได้ทางhttp://weather.bangkok.go.th/Radar หรือเว็บไซต์ใดที่เชื่อมต่อสัญญาณกับสำนักการระบายน้ำก็สามารถติดตามข้อมูลของฝนที่จะตกลงมาในกรุงเทพได้
แต่ปัญหาในเวลานี้ของกทม.คือแม้จะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้สามารถรายงานแบบ Real Time ทุก 15 นาทีแล้ว แต่ข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปก็ยังไม่สามารถทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รับทราบได้ จึงจะได้มีการเรียกประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีช่องทาง หรือวิธีการใดให้ประชาชนรับทราบได้บ้าง
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตก รองปลัด กทม.กล่าวว่าเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นที่อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ก็ได้แก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าหากเกิดฝนถล่มลงมาในปริมาณใกล้เคียงกับวันที่ 7 มิ.ย. กทม.จะสามารถรับมือได้ เพราะได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำสำรอง อุปกรณ์เสริมต่างๆ เตรียม พร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อลงพื้นที่แก้ไขปัญหาต่างๆ
ขณะที่ฝนตก เมื่อเรดาร์ตรวจวัดสภาพอากาศตรวจพบกลุ่มเมฆฝนเคลื่อนเข้าพื้นที่ใด ศูนย์จะแจ้งให้เขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำจุดระบายน้ำและจุดอ่อนน้ำท่วมทันที เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงประสานการไฟฟ้านครหลวงส่งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำ หรืออุโมงค์ ระบายน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีไฟฟ้าขัดข้องฉุกเฉิน
นอกจากนี้ จะบูรณการทำงานเพื่อ แก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังร่วมกับหน่วยงานอื่นๆอาทิเจ้าหน้าที่ทหาร จิตอาสาโดยตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา เมื่อได้รับแจ้งจากศูนย์ฯว่าฝนจะตกพื้นที่ใด จะมีการเตรียมความพร้อม และลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือ
“หากปริมาณฝนที่ตกลงมามีปริมาณสะสมไม่เกิน 60 มิลลิเมตร จะไม่มีปัญหาการระบายน้ำ แต่หากเกินอาจมีน้ำขังบ้าง กทม.จะเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน”
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯอัศวิน” ถึงสภาพอากาศประจำวันในกทม. และให้ประชาชนได้วางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้า
สำหรับพยากรณ์อากาศ 7วัน ล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2562 กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 12 มิถุนายน 2562 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายน2562 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และช่วงวันที่ 15-18 มิถุนายน 2562 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี