ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนมติ “กสทช.”สั่งถอนใบอนุญาต“ Peace TV” เหตุมติไม่ชอบ เพราะไม่เปิดโอกาสให้แสดงหลักฐานโต้แย้งของ “คสช.” ที่กล่าวหาว่า รายการมีเนื้อหาปลุกปั่นสร้างความแตกแยก
21 มิ.ย. 62 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ( กสทช.) ที่ให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ฯ ช่องรายการพีซ ทีวี (PEACE TV) ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก คณะทำงานติดตามสื่อของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้มีหนังสือแจ้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท) ว่าเนื้อหา“รายการมองไกล” ที่ออกอากาศ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2558 ทางสถานี โทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี ช่องรายการพีซทีวี ที่บริษัทพีซ เทเลวิชั่น จำกัด เป็นผู้ประกอบกิจการมีลักษณะให้เกิดความสับสนยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งสร้างความแตกแยกในราชอาณาจักร
ต่อมา กสทช.จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการพีซ ทีวี ของบริษัทพีซ เทเลวิชั่น จำกัด และให้บริษัทวีซายน์ เทเลคอม จำกัด ระงับการให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์แก่ช่องพีซทีวี ทำให้ บริษัทพีซ เทเลวิชั่นจำกัด ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติดังกล่าว และชดใช้ค่าเสียหาย โดยระหว่างพิจารณาคดีศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับมติการเพิกถอนใบอนุญาต ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติกสทช.ระบุว่าพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในกระบวนการพิจารณาทางปกครองก่อนมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตฯของกสทช. นั้น กสท.และสำนักงานกสทช.ไม่ได้แจ้งให้พีซทีวี ทราบถึงคำร้องเรียน และไม่ได้ให้โอกาส ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ในชั้นการรวบรวมข้อเท็จจริงของสำนักงานกสทช. ก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการแจ้งสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาทางปกครอง ตลอดจนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกกล่าวหาและพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาให้กสทช. ทราบตามความจำเป็น อันจะทำให้พีซทีวีมีโอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตน จึงเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ในประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่มีโทษทางปกครอง พ.ศ. 2556
นอกจากนี้ ข้ออ้างของกสทช.กับพวกที่ว่า การนำเสนอเนื้อหารายการมองไกล ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมภายใต้สภาวการณ์ที่รัฐบาลกำลังสร้างความปรองดองสมานฉันท์ จึงอาจเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประโยชน์สาธารณะได้นั้น กรณีก็ไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายอย่างร้ายแรงใดเกิดจากการเสนอรายการดังกล่าวที่เข้าลักษณะมีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ อันจะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 30 วรรคสอง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ที่ไม่ต้องให้โอกาสคู่กรณีโต้แย้งแสดงพยานหลักฐาน ดังนั้น จึงเป็นการพิจารณาทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นผลทำให้มติของกสท.ในการประชุมครั้งที่ 14/2558เมื่อวันที่ 27 เม.ย 2558 ที่ให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการพีซ ทีวี ของพีซทีวี และให้บริษัทวีซายน์ เทเลคอม จำกัด ระงับการให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์แก่พีซทีวีเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่พีซทีวี มีคำขอให้สำนักงานกสทช.ชดใช้ค่าเสียหายนั้น เมื่อศาลยังไม่ได้วินิจฉัยเนื้อหาแห่งการกระทำความผิดตามที่ถูกร้องเรียนว่า พีซทีวีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศของกสทช. โดยออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ ประกอบกับแม้ศาลจะมีคำพิพากษาให้เพิกถอนมติที่ให้ลงโทษทางปกครองในคดีนี้ แต่ก็ไม่เป็นการตัดอำนาจของกสทช. ที่จะดำเนินกระบวนการพิจารณาทางปกครองแก่พีซทีวี ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการที่กฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องกำหนด กรณีนี้จึงยังไม่อาจถือว่ากสทช.และกสท. กระทำละเมิดให้พีซทีวี ได้รับความเสียหาย และไม่อาจพิพากษาให้สำนักงานกสทช. ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่พีซทีวี ได้
จึงพิพากษาให้เพิกถอนมติของกสท. ในการประชุมครั้งที่ 14/2558 เมื่อวันที่ 27 เม.ย 2558 ที่ให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการ พีซ ทีวี และให้บริษัทวีซายน์ เทเลคอม จำกัด ระงับการให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์แก่พีซทีวี โดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่ออกคำสั่ง ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิที่ กสทช. จะดำเนินการสอบสวนใหม่ และให้คำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองมีผลต่อไปจนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี