เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2562 นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์เฟชบุ๊กระบุว่า เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 2562) ผมมีโอกาสสนทนากับเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนหนึ่ง เขาพูดถึงงานสัมมานาที่เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลายเวทีในช่วงนี้

ผมรู้สึกเฉยๆกับเวทีเหล่านี้ นักวิชาการ-นักการเมืองใช้ข้อมูลจากสื่อมวลชนในการสัมมนาเป็นหลัก พวกเขาไม่เคยขอข้อมูลจากผู้ได้รับบาดเจ็บโดยตรง ข้อมูลบนเวทีเหล่านี้จึงถูกๆผิดๆ

สิ่งที่ผมผิดหวังยิ่งกว่าคือ เวทีเหล่านี้จะแสดงความเห็นส่วนตัวของผู้ร่วมสัมมนา เช่น การเรียกร้องให้ คสช. ไล่ล่าคนร้าย และการสืบสาวผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ไม่เคยถามความต้องการ หรือความเห็นของผู้ได้รับบาดเจ็บเลย

ช่วงปี พ.ศ. 2561-2562 ผมเผชิญการคุกคาม 9 ครั้ง ทุกครั้งจะมีสื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น หรือแนวทางการเคลื่อนไหวในอนาคต แต่ไม่เคยมีใครถามถึงสิ่งที่ผมต้องการ

ปีนี้มี NGO ต่างประเทศ 1-2 แห่งติดต่อผม คำถามขององค์กรณ์เหล่านี้ไม่ถามถึงเหตุการณ์ร้ายที่เกิดกับผมขึ้นสักคำ (พวกเขาคงได้ข้อมูลจากสื่อมวลชนแล้ว) พวกเขาถามเฉพาะสิ่งที่ผมต้องการ และแนะแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ร้ายในอนาคต

การชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง ผู้ชุมนุมเผยแพร่แนวทางในการป้องกัน-รับมือการสลายการชุมนุมจากฝ่ายรัฐ เช่น การสวมแว่นตาดำน้ำ การใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำ และการครอบกระป๋องแก๊สน้ำตาเพื่อป้องกันอันตรายจากแก๊สน้ำตา

ขณะที่การชุมนุม พธม., นปช. และ กปปส. ผมไม่เคยเห็นการนำเสนอแนวทางป้องกันการสลายการชุมนุมบนเวทีปราศรัย ผู้ชุมนุมจึงเสียชีวิต-ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมมากกว่าที่ควร

ต่างประเทศให้ความสำคัญกับการป้องกันเหตุการณ์ร้ายเพื่อรักษาชีวิตผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมจึงมีความมั่นใจที่จะเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง

ขณะที่แกนนำการชุมนุมไทยเน้นการปราศรัยเป็นหลัก ละเลยการป้องกันเหตุการณ์ร้าย เมื่อมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิตก็จะนำกรณีเหล่านี้มาดราม่าเพื่อสร้างกระแสทางการเมือง ผมจึงไม่แปลกใจที่ผู้ชุมนุมจะลดลงเรื่อยๆ

หากการคุกคามจากฝ่ายตรงข้ามเป็นสิ่งเลวร้าย การปล่อยปละละเลยจากฝ่ายประชาธิปไตยเพื่อหวังสร้างกระแสดราม่าทางการเมืองก็เลวร้ายไม่ต่างกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้มีผู้เข้ามาคอมเม้นต์สอบถามนายเอกชัยว่า เวลาเคลื่อนไหวเนี่ย เมื่อเกิดปัญหามีหน่วยงานอะไรมาช่วยเหลือมั้ย แบบที่เป็นมาตรฐานจากกลุ่มหรือสมาคมอะไรพวกนี้มีมััยครับ หรือว่านักกิจกรรมต้องดูแลตัวเองกันอย่างเดียว

ทั้งนี้ นายเอกชัย ตอบกลับว่า "กรณีอุ้มเข้าค่ายทหาร หรือถูกฟ้องคดีจะมีองค์กรทนายความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เรียกปุ๊ป ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็มาถึง  กรณีทำร้ายร่างกายมีแต่ตำรวจรับแจ้งความ หน่วยกู้ชีพพาส่ง รพ.ส่วนการรักษาใช้สิทธิบัตรทอง"