"ธนาธร"ชี้การแก้ไขรัฐธรรมนูทำให้มีโอกาสเกิดปฏิวัติซ้ำอีก ประกาศนัดหมายคราวนี้ไม่ต้องไปที่สนามหลวงหรืออนุสาวรีย์ฯ แต่ให้ไปรวมตัวกันที่รัฐสภา ซัดรัฐไทยไม่เคยคิดถึงประชาชนเพราะไม่มีประชาธิปไตยแท้จริงในชาติ
เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 2562 ที่โรงแรม แลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ มีการจัดเสวนา “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ” โดย 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พรรคเพื่อชาติ (พช.) พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศก.) พรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังปวงชนไทย
โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวตอนหนึ่งว่า วิกฤติที่หนักมากและน่าเศร้าที่สุดคือเรากำลังส่งสังคมที่แย่กว่านี้ให้ลูกหลานเราถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างลูกหลานเราจะได้รับมรดกของสังคมที่แย่กว่าปัจจุบันความเหลื่อมล้ำสูงมากขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาจีดีพีโต 15 เปอร์เซ็นต์ แต่รายได้ภาคแรงงานลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ รายได้ภาคการเกษตรติดลบ 3 เปอร์เซ็นต์ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ แต่ 50 อันดับคนที่รวยที่สุดมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 64 เปอร์เซ็นต์ ทุนผูกขาดกับความเหลื่อมล้ำคือเหรียญเดียวกันที่อยู่คนละด้าน ถามว่าการใช้มาตรา 44 ขยายเวลาลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระเงินธุรกิจโทรคมนาคมแล้วจะลดความเหลื่อมล้ำได้หรือไม่
นายธนาธร กล่าวอีกว่า คิดกลับกันชาวนาไม่มีเงินจ่ายหนี้ธกส. เขาจะมีโอกาสรีไฟแนนซ์แบบนี้หรือไม่ ไม่มีดอกเบี้ยจะยิ่งลงโทษชาวนาการปฏิบัติต่อกลุ่มุทนกับชาวบ้านไม่เคยเหมือนกัน ที่เป็นแบบนี้เพราะรัฐไทยไม่เคยคิดถึงประชาชนเพราะประชาธิปไตยไม่เคยลงหลักปักฐานได้ในชาติ เมื่อไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่มีประชาชน ปัญหานี้ทำให้เมืองกับชนบทมันเหลื่อมล้ำกันมหาศาล พรรคที่อยู่กับประยุทธ์จะพูดตลอดว่าไม่ต้องสนใจประชาธิปไตยต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นี่คือเรื่องโกหกเพราะระบอบการเมืองที่ดีนั้นถึงจะสร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจได้
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีวิธีป้องกันการรัฐประหารครั้งหน้าอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ก็มีคนอื่น พล.อ.ประยุทธ์เป็นเพียงตัวแทนของระบอบอภิสิทธิ์ชนที่ควบคุมประชาชนอยู่ ก่อนหน้านี้ก็มี พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ตราบใดที่สังคมไทยสถาปนาความคิดความเชื่อว่า คนเท่ากันไม่ได้ก็ไม่จบ การรัฐประหารจึงยังมีโอกาสเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญคือหัวใจของการครองอำนาจ ถ้าเดินหน้าแก้ไขมีความเสี่ยงจะมีการทำรัฐประหารอีกครั้ง แต่สถานที่ที่จะไปรวมตัวกันต้านรัฐประหารหากมีขึ้น จะไม่ใช่สนามหลวง หรืออนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ขอให้ไปที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อยืนยันว่าอำนาจยังอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร
“สถาปนาฟื้นฟูความศักดิ์สิทธิ์จากอาชีพเดียวที่ประชาชนแต่งตั้ง ดึงความศักดิ์สิทธิ์ของสส.ออกมา แล้วแสดงสัญลักษณ์ใหม่ว่ารัฏฐาธิปัตย์ยังอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเกิดการคัดง้างพรรคฝ่ายค้านที่อยู่ตรงนี้จะร่วมต่อสู้กับประชาชนครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมก็ได้ แต่หวังว่า กลุ่มอนุรักษ์นิยม หรืออภิสิทธิ์ชน จะมีสายตายาวพอฉลาดพอที่จะไม่ทำแบบนั้น ต้องรู้ว่า สังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลง การทำให้พรุ่งนี้ทุกวันเป็นเมื่อวาน ไม่ใช่ทางเลือก หวังว่าเขาจะไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ต้องต่อสู้ ถ้าไม่ปฏิรูปกองทัพเขียนรัฐธรรมนูญกี่ฉบับก็โดนล้มภารกิจของการสร้างประชาธิปไตยต้องรวมถึงการปฏิรูปกองทัพในระยะยาวด้วย” นายธนาธร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี