จุดพลุแก้รธน.! เพื่อชาติปลุกปชช.ชู‘ธงเขียว’บีบส.ว.-รัฐบาล
19 สิงหาคม 2562 นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ช่วงนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนค่อนข้างจะหนักมาก ขนาดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงกับออกมายอมรับเองว่า “เรามีปัญหาพอสมควรในด้านเศรษฐกิจของเรา” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรียอมรับเช่นนี้ แม้ประชาชนทั่วไปจะรับรู้ และสัมผัสกับปัญหาเศรษฐกิจมาก่อนหน้า และมีแนวโน้มหนักขึ้นเรื่อยๆตลอด 5 ปี และอาจจะเลวร้ายที่สุดในช่วงปัจจุบันนี้
นายรยุศด์ กล่าวอีกว่า แม้เราจะมีรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว แต่มาจากประชาธิปไตยที่เจือจาง คณะทำงานส่วนหนึ่งก็เป็นคนเดิม โดยเฉพาะผู้นำ แล้วประชาชนเราจะหวังอะไรได้ นอกจากพยายามช่วยเหลือตัวเอง แม้เราจะมีคณะทำงานฝ่ายค้านที่ขยันขันแข็ง พยายามทำงาน หาทางช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง แต่หน้าที่ในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่ดีที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อน นโยบายต่างๆ
นายรยุศด์ กล่าวด้วยว่า ด้วยกับดักหลายอย่างในรัฐธรรมนูญ ส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลเป็นอย่างมาก ด้วยตอนที่เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป้าหมาย คือ กันพรรคบางพรรคเข้ามามีอำนาจ หรือหากเข้ามาได้ก็ทำงานลำบาก ซึ่งสำเร็จตามเป้าหมาย พวกท่านเองได้กลับเข้ามาทำงานเช่นเดิม เขียนกติกากันคนอื่นอย่างไร ตัวเองเข้ามาทำงานก็ลำบากเท่านั้น แต่ตนขอให้กำลังใจ ขอให้ตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป พร้อมๆกับเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น จากกับดักในรัฐธรรมนูญด้วย ก่อนปัญหาจะลุกลามไปมากกว่านี้
“ผมอยากเสนอแนะทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือประชาชน เรามาร่วมมือกันออกจากกับดักความขัดแย้ง ด้วยการร่วมมือกัน แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง หากเราสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ ประโยชน์ทั้งหมดจะเป็นของทุกคนทุกฝ่าย รวมถึงประเทศชาติ รัฐบาลจะทำงาน แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ง่ายขึ้น วิน วิน ทุกคน เพราะฉะนั้นแล้วข้ออ้างเรื่องแก้ไขปัญหาปากท้องก่อน ค่อยมาดูเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ ผมคิดว่าสามารถทำไปพร้อมๆกันได้ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของ รัฐสภา ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่กระทบอะไรกันเลย” นายรยุศด์ กล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่เอาด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็เป็นเรื่องยากและเป็นไปไม่ได้เลย และอย่าลืมว่าก็ต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ถึง 1 ใน 3 ให้ความเห็นชอบด้วย ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้นหากจะรอความหวังจากฝ่ายการเมืองคงจะปิดประตูไปได้เลย ตนจึงเห็นเพียงโอกาสและความหวังเพียงอย่างเดียว คือ ภาคประชาชน ที่จะต้องเป็นผู้นำในการทำเรื่องนี้ เพื่อสร้างพลังและแรงกดดันไปยังฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะรัฐบาล และ ส.ว. ทั้ง 250 คน ในการชูธงเขียวเพื่อนำพาประเทศออกจากกับดักความขัดแย้งคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี