อยู่ยาว4ปี-อย่ารีบยุบสภา
พท.อ้อน‘บิ๊กตู่’
ยกก๊วนต้อนรับที่สุรินทร์
3สส.ปัดเข้าชื่อยื่นซักฟอก
เหน็บแรงบ้ากันหรือเปล่า
ต้องให้นายกฯทำงานก่อน
3 สส.เพื่อไทย จ.สุรินทร์ ยกคณะ โผล่ต้อนรับ นายกฯ ลงพื้นที่แก้ปัญหาภัยแล้ง “ครูมานิตย์-ตี๋ใหญ่”ขอให้อยู่ยาว 4 ปี อย่ารีบยุบสภา ยกมือให้นายกฯ ล้านเปอร์เซ็นต์ จวกฝ่ายค้าน เพื่อนร่วมพรรค ลงชื่ออภิปรายทำบ้าอะไร ต้องให้ลุงตู่ทำงานก่อน ด้าน“ประยุทธ์” ยาหอมยังไม่ได้ทำงาน จะยุบสภาได้อย่างไร ที่มาเพราะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปโครงการชลประทานสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง โดยมีประชาชนนำผ้าโสร่งมาผูกเอวให้กับนายกฯและคณะ รวมถึงนายกฯได้แวะเยี่ยมชมกลุ่มผู้เลี้ยงโคสุรินทร์วากิว พร้อมกับชิมสเต็กเนื้อวากิว ท่ามกลาง สส.ในพื้นที่ที่มารอต้อนรับ ประกอบด้วย นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา สส.บุรีรัมย์ พรรค ภท.นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายมานิตย์ สังข์พุ่ม นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) มารอให้การต้อนรับด้วย
พท.ต้อนรับนายกฯไปสุรินทร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง นายตี๋ใหญ่ กล่าวว่า สส.พรรคเพื่อไทย มาต้อนรับนายกฯ ซึ่งนายกฯตอบกลับว่า ผมไม่มีพรรค ต้องช่วยกัน ทุกอย่างจะเดินไปได้ จะทะเลาะกันทำไม ผมไม่อยากจะสู้กับใคร ทำให้บรรดา สส.ที่มาต้อนรับต่างพากันหัวเราะชอบใจ
ลั่นเป็นรบ.ของคนทั้งประเทศ
จากนั้นนายกฯได้ฟังบรรยายสรุปพร้อมกล่าวทักทายประชาชนบนเวทีเป็นภาษาอีสานว่า “ฮักคักๆฮักแท้ๆลูกหลานอีสานเก่าเหมือนกัน วันนี้มาดูแลชาวอีสาน เพราะเห็นถึงความเดือดร้อนหลายอย่าง ที่ติดตามมาตลอดและจะหาวิธีการบริหารให้ได้โดยเร็ว จากนั้นนายกฯได้แนะนำครม.และคณะทั้งหมดที่เดินทางมาด้วยให้ยืนขึ้น พร้อมกล่าวว่า ที่มาเพราะเราต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าใครก็ตาม จะรัฐมนตรีหรือใครคือรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ของคนทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดไหนไม่ดีกับตน แล้วตนไม่มา ยิ่งต้องมาใหญ่เลย วันนี้เราร่วมมือกันทำงานทุกคน วันนี้เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ทุกจังหวัด ไม่ใช่จังหวัดไหนไม่ดีตนจะไม่มา ให้เกียรติตนบ้าง เรื่องอะไรที่ขัดแย้ง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมไม่ไปขัดแย้งกับพวกท่าน ผมเป็นสุภาพบุรุษพอ เป็นลูกผู้ชาย นี่พูดไปการเมืองจนได้’
สส.แห่เสนอปัญหาให้ช่วยแก้ไข
พล.อ.ประยุทธ์ ยังถามว่า “สส.มาบ้างเปล่า เอะมีพรรคใครบ้างนะเนี่ย เขามารวมกันทำงานให้พวกเราทุกพรรค พลังประชารัฐก็มา เพื่อไทยก็มา ภูมิใจไทยก็มา’ช่วงหนึ่งนายกฯเปิดโอกาสให้สส.ในพื้นที่ได้เสนอโครงการและพูดถึงปัญหาในพื้นที่ โดย นายมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท.เสนอให้พักหนี้เกษตรกรและขอให้ยก จ.สุรินทร์ เป็นโมเดลแก้ปัญหาภัยแล้งของประเทศไทยและฝากทางจังหวัดเมื่อคิดแผนงานก็ขอให้เชิญสส.เข้าร่วมด้วย
ขณะที่ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรค ภท.กล่าวว่า หวังว่าที่นายกฯมาวันนี้จะไม่เป็นไฟไหม้ฟาง ถ้ามีอะไรตนก็จะกราบเรียนนายกฯผ่านสภาและตนของบประมาณสร้างอ่างเก็บน้ำ 1,000ล้านบาท โดยนายกฯ ได้กล่าวว่า รับในหลักการแล้ว
‘ตี๋ใหญ่’ชี้ปชช.ไม่ได้ให้เป็นฝ่ายค้าน
ด้าน นายตี๋ใหญ่ กล่าวว่า “ขอให้ฝ่ายค้านได้พูดบ้าง ผมขอขอบคุณนายกฯ โดยเฉพาะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ที่แถลงว่า บัตรทอง 30บาท ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ ไม่ต้องสมทบเงินเวลารักษา เมื่อวานผมไปรับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งรมว.คมนาคมได้บอกกับผมว่า มาพูดครั้งนี้อย่าพูดแบบที่พูดในสภา ผมก็เลยไม่พูดเหมือนในสภา ถ้ามีดีผมสนับสนุน ซึ่งงบประมาณปี63 จ.สุรินทร์ ได้ไม่น้อยกว่า 1,500ล้านบาท ผมยกมือไม่สวนนายกฯ ผมสนับสนุน เพราะประชาชนไม่ได้เลือกผมมาเป็นฝ่ายค้าน แต่เลือกผมมาเป็นผู้แทนราษฎร สิ่งไหนดีผมก็สนับสนุน สิ่งไหนไม่ดีก็ว่ากันไปในสภา” ขณะที่ นายกฯ กล่าวว่า ดีแล้ว อันไหนไม่ดีก็บอกกัน
ผ่านพรบ.งบถึงช่วยแก้ปัญหาได้
นายกฯ กล่าวต่อว่า “วันนี้ผมมาเรื่องน้ำ เรื่องอื่นก็รับอยู่แล้ว ขับเคลื่อนงบประมาณปี63 ซึ่งจะช่วยกันต้องสนับสนุน ให้ผ่านเพราะถ้าไม่ได้งบประมาณไม่ออก พวกคุณเดือดร้อน อันที่ขอมาก็จะไม่ได้กันหมดและล่าช้าออกไปอีก เวลานี้ทุกอย่างมันล่าช้าออกไป ส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพราะผมดึงไว้ ผมจะไปดึงทำไม เดี๋ยวก็ไปดึงกันในสภาอีก ว่าไงพรรคเพื่อไทย ไม่ไล่นายกฯออกนะ แค่อยากบอกให้รู้ว่าอะไรคืออะไรเท่านั้นเอง พี่น้องไม่มีใครมาแบ่งแยกเราได้ เราต้องรักกัน ผมจะอนุมัติให้ทุกเรื่อง การทำงานจะต้องไปด้วยกันทุกกระทรวง อะไรที่ไม่ดี อย่าว่ากัน ส่งมาแล้วก็ต้องตรวจสอบ จากนั้นนายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกับสส.ที่มาต้อนรับ ก่อนบีบแตรปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ก่อนนายกฯขึ้นรถไปยังการประปาส่วนภูมิภาค นายกฯได้กล่าวทักทาย สส.พรรคเพื่อไทยด้วย
พท.หนุน-อยู่ยาว4ปี-อย่ายุบสภา
ขณะที่ นายมานิตย์ กล่าวว่า’ยกมือให้นายกฯล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่มีการลงชื่อขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯผมยังบอกว่า ลงทำบ้าอะไร บ้าหรือเปล่า เขายังไม่ทำอะไร ไปลงชื่อกันแล้ว ไปดูได้เลยไม่มีชื่อผม’จากนั้นนายกฯได้หันมาถาม นายตี๋ใหญ่ ว่า ได้ลงชื่อกับเขาหรือเปล่าและถ้ารัฐบาลนี้ไม่ผ่าน รัฐบาลเก่าได้กลับมา ซึ่งระหว่างนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า คสช.กลับมา ขณะที่ นายตี๋ใหญ่ ตอบว่า นายกฯ อย่ายุบสภานะ อยู่ให้เกิน 4ปีนะ ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า จะยุบได้ยังไง ยังไม่ทันได้ทำงานเลย
หวังเร่งแก้ปัญหา-ยันไม่ย้ายพรรค
ต่อมา นายมานิตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างการลงพื้นที่ที่ จ.สุรินทร์ พร้อมระบุว่า จะยกมือให้นายกฯล้านเปอร์เซ็นต์ ว่า ความหมายของตนคือพร้อมสนับสนุนอะไรที่เป็นประโยชน์ในการที่ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะในภาคอีสานที่มีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ตนสนับสนุนการตั้งงบประมาณแก้ปัญหาเราเป็นผู้แทนประชาชน ต้องการดูแลทุกข์สุขไม่ใช่จะเข้าไปทะเลาะคะคานเอาแต่ชนะกันทุกเรื่อง เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ เมื่อถามว่าหลายคนตั้งข้อสังเกตคำพูดพร้อมสนับสนุนนายกฯเตรียมการย้ายพรรคหรือไม่ ครูมานิตย์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ตนยังไม่มีความคิดจะย้ายพรรค แต่คำว่าสนับสนุน คือสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเฉพาะวิกฤติภัยแล้ง สส.ก็มีหน้าที่สะท้อนปัญหาให้ผู้มีอำนาจทั้งในและนอกสภาฯ รับรู้
ด้าน นายคุณากร ปรีชาชนะชัย สส.สุรินทร์ พรรค พท.กล่าวว่า การไปต้อนรับนายกฯเนื่องจากวิกฤติภัยแล้ง จ.สุรินทร์ ไม่ได้มีแค่ตัวเมืองสุรินทร์ แต่ยังรวมถึงพื้นที่รอบนอก เราจึงมาสะท้อนปัญหาให้นายกฯทราบ เพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ประชาชนโดย ยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
‘วิษณุ’ยันแจงที่มางบไว้หมดแล้ว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรีแบบไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152และกรณีการแถลงนโยบายรัฐบาลไม่มีรายละเอียดที่มางบประมาณ ส่อขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมย้อนถามว่า ทราบได้อย่างไรว่าขัดรัฐธรรมนูญ ในนโยบายของรัฐบาลได้มีการแสดงที่มาที่ไปแล้วในหน้า 34-35 ตอนท้ายของนโยบายหากดูก็จะเจอ หากฝ่ายค้านที่เห็นว่า ยังไม่ครบ ก็มีสิทธิที่จะเห็นเช่นนั้นได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่า ระบุไว้ครบถ้วนแล้ว และไม่เคยมีแบบอย่างในการดำเนินการเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งบัญญติไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี2560 รวมทั้งในทางปฏิบัติคงไม่มีใครที่ทำนโยบายแล้วจะสามารถบอกรายละเอียดของงบประมาณได้ทั้งหมด
‘บิ๊กป้อม’จ่อคุย’สิระ’ลงป่วนภูเก็ต
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายสิระ เจนจาคะ สส.พรรคพลังประชารัฐ ถูกวิจารณ์ถึงการแสดความไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างลงพื้นที่ อ.กะรน จ.ภูเก็ต ว่า ได้เห็นภาพแล้วและถือเป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไปในนาม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำเป็นต้องตักเตือนถึงพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอคุยรายละเอียดกับเจ้าตัวก่อน เมื่อถามว่า ภาพรวมจะกระทบกับพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ขอเวลาพูดคุยกับเจ้าตัวก่อน
ไม่รู้ข่าว’มิ่งขวัญ’ย้ายซบรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะถือโอกาสประชุมหารือที่พรรค พปชร.ในวันที่ 20สิงหาคมหรือไม่ ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเข้าพรรควันแรก หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย เมื่อถามว่าการประชุมนัดแรกฟอร์มทีมยุทธศาสตร์เลยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไมได้ฟอร์มทีมอะไร ขอให้ได้เข้าไปพรรคก่อน ยังไม่รู้ว่าพรรคเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะมาร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกัน ยังไม่ได้คุยกัน
นั่งหัวโต๊ะถกปธ.ยุทธศาสตร์พปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสส.พรรคพปชร.วันที่ 20สิงหาคม พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อเป็นประธานการประชุม หลังจากนี้มีการกำหนดในเบื้องต้นว่า คณะทำงานยุทธศาสตร์พรรคจะประชุมสัปดาห์ละครั้งในทุกวันอังคารก่อนจะตามด้วยการประชุมสส.ของพรรค ทั้งนี้ ภารกิจหลักของคณะทำงานยุทธศาสตร์พรรคมีหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างพรรคกับสมาชิกและประชาชน คอยทำงานเชิงปฏิบัติการเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานเสียงและเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในอนาคต
‘สิระ’ปัดกร่างแค่ไม่มีตำรวจดูแล
ขณะที่ นายสิระ เจนราคะ ส.ส.พรรคพปชร.เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันที่ 18สิงหาคมที่ผ่านมา ตนและคณะสส.รวม 8คน เดินทางมา จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบที่ดินที่มีการสร้างคอนโดโครงการ “The Peaks Residence” โดยศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ถอน นส.3แปลงนี้ไปแล้ว ต่อมานายกเทศมนตรีเทศบาลกะรนเจ้าของพื้นที่ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างให้กับโครงการดังกล่าว ซึ่งประชาชนร้องเรียนมาว่า ไม่สามารถก่อสร้างคอนโดเพื่อขายได้ ตนและคณะสส.จึงเดินทางมาตรวจสอบ โดยก่อนลงพื้นที่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ สภ.กะรน ไว้เรียบร้อยแล้วว่า การลงพื้นที่มีการตั้งเวทีชาวบ้านเพื่อรับฟังความเดือดร้อนมีชาวบ้านประมาณ 200คน จากนั้นลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีแผนที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในการจัดเวทีประชาชน กลุ่ม สส.มาปฎิบัติราชการทวงคืนแผ่นดินให้กับรัฐทำเพื่อประเทศชาติถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตนเองก็เคยถูกขู่ฆ่ามาแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้
คุยกับตำรวจพื้นที่เข้าใจกันแล้ว
จึงควรมีเรื่องของการดูแลความปลอดภัย โดยหลังจากจัดเวทีชาวบ้านเสร็จทางคณะของตนก็ได้ไปตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการและสำนักงานขายพบว่าสำนักงานปิดและมีประกาศของเทศบาลกะรนมาปิดไว้เป็นคำสั่งระงับการก่อสร้าง จากนั้นคณะของตนเดินทางไปพักผ่อน เมื่อกลับมาจุดก่อสร้างอีกครั้งพบว่า มีรถตำรวจจอดอยู่และพบตำรวจ 6นาย นั่งดื่มกาแฟกับผู้บริหารคอนโด หลังจากนั้นตนจึงเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า หัวหน้าชุดคือ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รอง ผกก.สภ.กะรน โดยเจ้าหน้าที่ทราบทุกอย่างว่า พวกตนมาทำอะไรในพื้นที่ก่อนลงมาเคยถูกขู่ฆ่า แต่ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูความความปลอดภัย แต่กลับพบว่าตำรวจไปนั่งทานกาแฟกับผู้บริหารโครงการที่ถูกสั่งระงับการก่อสร้างถามว่าผิดมั้ย แต่อย่างไรก็ตามหลังจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่มีคลิปปรากฏออกไปนั้น ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรนายตำรวจคนดังกล่าวมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว
พท.ถล่มโชว์อำนาจบาตรใหญ่
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรค พปชร.ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อไปตรวจการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ไม่ได้ยื่นคำขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยจำนวนหลายอาคารต่อเทศบาลตำบลกะรน ที่โลกออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมระหว่างการลงพื้นที่ ว่า เข้าใจว่า นายสิระ เป็นสส.การลงพื้นที่ไปทำหน้าที่เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ต้องเข้าใจการทำงานของตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน การจะไปเกณฑ์ตำรวจน้อยใหญ่ยกขบวนมาต้อนรับดูแล นายสิระ ทั้งเมือง การแสดงอำนาจบาตรใหญ่ยกตนข่มท่าน เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ของบุคลากรและการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ถูกตั้งคำถาม จนอาจทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมือง พรรค พท.ขอให้กำลังใจตำรวจทุกระดับ ที่ตั้งใจปฏิบัติงานอย่างมีเกียรติยศศักดิ์ศรีและขอสนับสนุนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติของข้าราชการตำรวจที่ยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ต้องวิตกกังวลต่อการใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่ข้าราชการที่ไม่ถูกต้องแบบนี้
‘เจ๊หน่อย’ต้อนรับ’ฟิลม์’เข้ามุ้งพท.
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ ในฐานะประธานกลุ่มเพื่อไทยพลัสและนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ต้อนรับ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์มและคณะ ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พท.แบบตลอดชีพ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณฟิล์มและคณะที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จะได้ใช้ความรู้ความสามารถเข้ามาพัฒนานโยบายของพรรค ขอบคุณที่เล็งเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เชื่อมต่อโลกปัจจุบันไปสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยี ยินดีต้อนรับทีมคุณภาพที่จะเข้ามาผลักดันให้การทำงานของพรรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอให้เรามาร่วมผนึกกำลังทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่
แสดงจุดยืนรักษาประชาธิปไตย
ด้าน นายรัฐภูมิ กล่าวว่า อุดมการณ์ของตนคือ ต้องการเห็นประเทศพัฒนาขึ้น ที่ผ่านมาจะเห็นว่าคนจน จนเหมือนเดิม ขณะที่คนรวยรวยอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ต้องการร่วมงานกับพรรคการเมืองในการแก้ปัญหาดังกล่าวและได้มาเจอกับพรรคเพื่อไทย ที่เป็นบ้านใหม่ที่อบอุ่นและเป็นมืออาชีพของจริง
“ก่อนหน้านี้ที่ผมได้ลงพื้นที่หาเสียง ผมได้สัญญากับประชาชนไว้หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ การแสดงจุดยืนเรื่องของประชาธิปไตย ผมจึงตัดสินใจออกมาแสดงจุดยืนในสิ่งที่ผมได้สัญญากับประชาชนไว้ แต่ผมก็ยังรักและเคารพพี่ๆในพรรคเก่าเหมือนเดิม’นายรัฐภูมิ กล่าว
เตรียมให้นั่งรองโฆษกพรรคพท.
ส่วนบทบาทหน้าที่ในพรรค พท.นายรัฐภูมิ กล่าวว่า อยู่ที่ว่าผู้ใหญ่จะให้อยู่ตรงไหน แต่ส่วนตัวมีความสนใจในเรื่องของสตาร์ท อัพ และเรื่องของข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่ออี-คอมเมิร์ซ” นายรัฐภูมิ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐภูมิและคณะได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แบบตลอดชีพ โดยนายจิรายุได้ทาบทามนายรัฐภูมิมาเป็นรองโฆษกของพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี