"กสถ."แจงยิบ! ปม"ส.ส.เพื่อไทย"ปูดสอบท้องถิ่นงาบหัวคิว5แสน ชี้ยังไม่พบโกง แนะหาหลักฐานมาเอาผิด
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร ประธานกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กล่าวกรณีที่ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการเปิดสอบเข้ารับราชการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) หลายอัตรา ที่ได้ประกาศผลการสอบข้อเขียนแล้ว และกำลังจะสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ แต่มีการเรียกรับเงินรายละ 500,000 บาท เป็นอย่างต่ำ ว่า การดำเนินการสอบแข่งขันในครั้งนี้ ดำเนินการโดยคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ไม่ใช่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 8/2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ระบบอุปถัมภ์ และการเรียกรับผลประโยชน์ในการสอบแข่งขันตลอดจนเพื่อมิให้เกิดความไม่เป็นธรรม และเกิดความเสียหายต่อระบบการบริหารงานบุคคลของ อปท.อย่างร้ายแรง ในการจัดการสอบแข่งขัน กสถ. นอกจากนี้ ยังได้ให้มหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้จัดการสอบดูแลอย่างเคร่งครัด และได้มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ว่า หากการดำเนินการสอบแข่งขันมหาวิทยาลัยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการจ้าง หรือเกิดความเสียหายจากการบกพร่องในการจัดการสอบแข่งขันมหาวิทยาลัยต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เกิดขึ้นด้วย
"กรณีเกี่ยวกับการเรียกรับเงินผู้สมัครสอบนั้น ในการสอบครั้งที่ผ่านมาหรือการสอบของหน่วยงานต่างๆ ก็จะปรากฏว่ามีการแจ้งเกี่ยวกับการเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบ โดยแอบอ้างว่ารู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองที่สามารถช่วยให้เป็นผู้สอบได้ หรือบางครั้งก็อ้างว่ามีข้อสอบที่จะใช้ในการสอบ เป็นต้น ในเรื่องดังกล่าว กสถ.ได้มีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทุจริตในการสอบ การแอบอ้างหรือหลอกลวงผู้สมัครสอบ เพื่อไม่ให้ผู้สมัครสอบหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้าง โดยให้มีการแจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์ดำรงธรรมกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และได้มีการขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาลตรวจสอบข้อมูลที่มีผู้แจ้งเบาะแสทุกราย ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการสอบข้อเขียน (ภาค ก และภาค ข) ไม่ปรากฏว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต แต่ปรากฏการร้องเรียนของผู้ที่สอบไม่ผ่านว่าข้อสอบมีความคลาดเคลื่อน มีการพิมพ์คำถาม คำตอบไม่ถูกต้อง มีข้อสอบบางข้อซ้ำกับหนังสือที่ใช้อ่านในการเตรียมตัวสอบ หรือขอทราบผลคะแนนการสอบ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว กสถ.ได้มีการแจ้งให้มหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนดังกล่าว และดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทุกคน" ประธาน กสถ.กล่าว
นายอัษฎางค์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้สมัครสอบทุกคนได้ทราบขั้นตอนการขอดูคะแนนผลการสอบว่าการไม่สามารถเปิดเผยคะแนนสอบ ภาค ก และ ภาค ข ได้ เนื่องจากกระบวนการสอบแข่งขันยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องมีการสอบในภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค) ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ เพราะจะมีผลกระทบกับกระบวนการสอบแข่งขันในขั้นตอนการสอบดังกล่าว โดยเมื่อมีการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้แล้ว กสถ.จะได้มีประกาศให้ผู้เข้าสอบแข่งขันสามารถขอทราบข้อมูลคะแนนผลการสอบของตนเองได้ โดยจะอำนวยความสะดวกให้สามารถขอข้อมูลทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการสอบแข่งขันที่ กสถ.ได้ดำเนินการ และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหาการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือการเรียกรับผลประโยชน์จากการสอบแข่งขัน และปฏิรูปการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม ความเสมอภาคในโอกาสเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
"กสถ.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ใช้ความพยายามและความทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้การสอบเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้คนดี มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม อย่างแท้จริงมาปฏิบัติงานใน อปท.จึงขอความร่วมมือจากทุกท่านและทุกฝ่ายได้เชื่อมั่นในกระบวนการสอบที่ผ่านมา และหากมีเบาะแสหรือพบเห็นพฤติการณ์การทุจริตการสอบแข่งขันหรือการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อช่วยให้เป็นผู้สอบแข่งขันได้ ขอให้แจ้ง กสถ.หรือสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดได้ทุกจังหวัด" ประธาน กสถ.ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี