เมินยกร่างพรบ.งบใหม่
‘บิ๊กตู่’ว้ากกลับ
ถามฝ่ายค้านทำได้หรือ
สภาถกงบวันที่สองสุดกร่อย
เพื่อไทยสั่งลดขุนพลลง8คน
ซัด‘กองทัพ-สตช.’ผลาญเงิน
บิ๊กช้างย้ำจำเป็นต้องซื้ออาวุธ
ฝ่ายค้านชำแหละร่างพ.ร.บ.งบฯปี’63 วันที่สองซัดตั้งงบเอาใจทหาร ตัวเลขเลื่อนลอย ไร้รายละเอียด อัดสตช.ได้ 1.2 แสนล้าน ดูแลความมั่นคง แต่ปล่อยเปิดบ่อนย่านสีลมสั่งลดผู้อภิปราย 8 คน “บิ๊กตู่” ไม่เครียดย้อนถาม “สมพงษ์” แกนนำ พท.สั่งยกร่างใหม่ได้หรือสั่งตรวจสอบบ่อนสีลม ขออย่าพูดลอยๆให้แจ้งความเอาผิด ด้าน‘บิ๊กช้าง’แจงงบกองทัพไม่สูง หากเทียบกับ จีดีพี ยันต้องหายุทโธปกรณ์แทนของเก่า ที่ซ่อมไม่ได้ ‘บิ๊กป้อม’อวยนายกฯตอบคำถามได้ดี
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 18ตุลาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 เป็นวันที่2 โดยก่อนเข้าสู่วาระ นายชวน ได้กล่าวเตือนที่ประชุมว่า การประชุมเมื่อวันที่ 17ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการขอร้องเรื่องข้อบังคับการประชุม ไม่นำเครื่องมือสื่อสารใดๆ ซึ่งก่อให้เกิดการรบกวนในที่ประชุมสภาฯซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี ดังนั้นวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ประธานคิดเองหรือออกข้อบังคับเอง คือ สถานที่ประชุมสภาฯตามข้อที่181 สถานประชุมของสภาย่อมเป็นที่เคารพและเป็นเขตหวงห้าม บุคคลซึ่งเข้าไป ต้องประพฤติตนให้เรียบร้อย มีสัมมาคารวะและต้องแต่งกายตามที่ประธานสภาฯกำหนด
“อีกประการได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำความสะอาดในห้องประชุมหลังเลิกประชุมพบว่าในห้องประชุมมีเศษอาหาร เศษภาชนะห่ออาหาร เครื่องดื่ม เต็มไปหมด ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนอาจจะเข้าใจผิด แต่ขอเรียนว่าห้องประชุมไม่ใช่ห้องสัมมนาและตามข้อบังคับที่181 สถานที่ประชุมของสภาฯ ย่อมเป็นที่เคารพ และเป็นเขตหวงห้าม ดังนั้นขอพวกเรา ผมเชื่อว่าไม่ได้เจตนา เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่อาจเข้าใจว่าเหมือนห้องสัมมนาทั่วไปที่อาจจะเอาอะไรมากิน แต่ที่นี่ต้องไม่มี หากจะรับประทานอะไรกรุณาออกนอกห้องเพื่อให้สภาพของท่านและของตน มีความเป็นมาตรฐาน ขอความร่วมมือพวกเราด้วย”นายชวน กล่าว
อนค.จ้องถล่มงบกองทัพ-ภาคใต้
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคอนค.มีจุดยืนสร้างกระบวนการประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง การโหวตแต่ละเรื่องเป็นมติของพรรค ขณะที่การพูดคุยเรื่องลงมติงบประมาณจะหารือกันอีกครั้งว่า มติจะเป็นอย่างไร สำหรับไฮไลท์ของพรรคอวันนี้จะมีผู้อภิปราย 4คน เจาะลึกเรื่องงบกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการน้ำและช่วงเย็นจะอภิปรายเรื่องงบประมาณกองทัพด้านความมั่นคงและงบในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกฯพอใจภาพรวมถกงบฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบฯวันที่สอง โดยนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายในวันแรก ว่า ไม่มีอะไรก็อธิบายและตนให้เกียรติสภาฯ ไม่เครียดอะไรเลย เรื่องงบประมาณจากนี้ก็ไปสู่ระยะที่2 ก็มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จะพิจารณา เป็นไปตามวาระ ส่วนที่ตนชี้แจงเรื่องภาคใต้นั้น เพราะต้องการพูดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนรับรู้ว่าเราก็ห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่เหมือนกัน เพราะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวัน เบี้ยเลี้ยงเงินเดือนก็มีแค่นั้น ไม่ได้มากมายอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็รักษาบ้านเมืองให้สงบปลอดภัย ขณะที่ตัวเองก็อันตรายและบาดเจ็บจำนวนมาก จะพูดให้เสียหาย เสียขวัญกำลังใจไม่ได้
ย้อนถาม’พท.’สั่งร่างใหม่ได้หรือ
เมื่อข่าวถามว่า กังวลกับเสียงโหวตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะยกมือโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ แล้วแต่เขา” เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอให้รัฐบาลไปยกร่าง พรบ.งบประมาณฯมาใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพร้อมมีสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยว่า‘ใครบอก เขาสั่งได้หรือ’เมื่อถามว่า มีการมองว่า นายกฯ ควบคุมอารมณ์และปรับลุคดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ทำให้การประชุมราบรื่น นายกฯ กล่าวย้อนว่า อารมณ์ปกติ เมื่อถามว่าทำให้การประชุมราบรื่นและสร้างเสียงหัวเราะ นายกฯ กล่าวว่า “กลายเป็นผมทำให้ไม่ราบรื่นหรือไง เดี๋ยวเถอะ ผมก็อดทนและฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ หลายอย่างก็ดีขึ้น หลายอย่างก็มีนำไปปฏิบัติได้”ผู้สื่อข่าวจึงถามวันนี้จะเตรียมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะการประชุมวันแรกโดยรวมดูดี นายกฯ หันมาถามว่า“แล้วดีไหม ชอบไหม” ซึ่งนักข่าวกล่าวตอบว่า ดีค่ะ ก่อนที่นายกฯ กล่าวต่อว่า “ก็ต้องเตรียมคำตอบ ความรู้และเตรียมอารมณ์ เพื่อไปตอบ ทุกอย่างจะได้พัฒนา”
‘บิ๊กป้อม’อวยนายกฯตอบได้ทุกเรื่อง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เป็นไปด้วยดี และไม่ขอแสดงความเห็น พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ หากพรรคฝ่ายค้านอภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ในฝ่ายความมั่นคง รวมถึงงบประมาณในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ก็พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีทำทุกเรื่อง ก็เลยตอบได้ทุกเรื่อง ส่วนจะพอใจหรือไม่ ต้องถามประชาชนทั้ง 70 ล้านคนที่นายกรัฐมนตรีดูแลอยู่
วิปฝ่ายค้านลดขุนพลจ้อลง 8 คน
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน พอใจการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบฯวันแรกที่ฝ่ายค้านใช้เวลาไป 7ชั่วโมง ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยดี ทำให้ภาพลักษณ์ของสภาฯดีขึ้น ไม่มีการเล่นเกมของทั้ง 2 ฝ่าย การชี้แจงของนายกฯไม่สร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับสมาชิก เป็นเหมือนการอ่านให้จบและยังคงมีอารมณ์ จนทำให้เกิดความเสียดายว่า ควรจะได้ข้อมูลมากกว่านี้ แต่กลายเป็นนำอารมณ์มาบดบัง ขณะที่การชี้แจงของ รมว.คลัง ไม่มีความชัดเจน มีข้อมูลบางอย่างคลาดเคลื่อน วันที่ 18ตุลาคม ฝ่ายค้านจะอภิปรายแบบเจาะลึกรายกระทรวง พร้อมสรุปครึ่งทาง ซึ่งเป็นวิธีใหม่ของฝ่ายค้าน หลังจากนี้จะเข้มข้นมากขึ้น เมื่ออภิปรายไปถึงเวลา 12.00น.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย จะเป็นสรุปการประชุมหนึ่งครั้ง และตนจะสรุปปิดท้าย พรรคเพื่อไทย จะลดจำนวนผู้อภิปรายลง 8 คน เนื่องจากพบการบริหารเวลาที่คลาดเคลื่อนและจะประชุมวิปฝ่ายค้าน เพื่อตอกย้ำเรื่องการบริหารจัดการเวลาอีกครั้ง
‘เสรีพิศุทธ์’ย้ำคัดค้าน-อ้างผิดกม.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย ถึงการพิจารณาร่างพรบ.งบฯว่า พรรคจะประชุมเพื่อหารือร่วมกับสส.ว่า วันที่ 19ตุลาคม พรรคจะลงมติร่างพรบ.งบฯในรูปแบบใด แต่ส่วนตัวเห็นว่าร่างพรบ.ดังกล่าวผิดกฎหมายและการลงมติก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่สามารถโหวตได้ แต่ตนเคารพและฟังเสียงสส.ในพรรค อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการพิจารณาของพรรคเสรีรวมไทย ไม่เกี่ยวกับภาพรวมของพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด แต่จะเป็นจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย อะไรไม่ถูกต้องตนก็ร่วมดำเนินการไม่ได้ ยืนยันว่า วันนี้จะมีข่าวใหญ่อย่างแน่น
ฝ่ายค้านย้ำไร้ทิศทาง-ไม่กระตุ้นศก.
จากนั้น เวลา 09.00น.นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลใช้งบประมาณส่วนงบลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะระบบชลประทานและสนับสนุนเกษตรอินทรีย์และการลงทุนเพื่อเกิดกระบวนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน เนื่องจากสภาวะสังคมโลกเปลี่ยนไป ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงตกงาน ทั้งนี้ ในร่างพรบ.งบประมาณฯวงเงิน 3.2ล้านล้านบาท ไม่มีทิศทางชัดเจนในการสร้างรายได้ หรือกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ดังนั้นขอให้ปรับปรุงและนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯใหม่
เอื้อคนรวย-มองข้ามเกษตรกร
ขณะที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรค พท.อภิปรายว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณ เหมือนช่วยคนรวย ขณะที่เกษตรกร ไม่ได้รับความช่วยเหลือ รัฐบาลมีนโยบายจะแจกปลาและไก่ให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน ตนขอให้ยุติเพราะไม่เกิดประโยชน์ ควรแจกเงิน 6,000บาท ให้เกษตรกรซื้อข้าวบริโภคดีกว่า นอกจากนั้น ควรส่งเสริมการปลูกพืช ฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร คือปลูกพืชปลอดภัย ปลอดสารเคมี ขายให้ประเทศญี่ปุ่นซึ่งสามารถขายได้ไร่ละ1แสนบาท
‘โจ้’จวกยับงบไม่เหมาะ4ประการ
ต่อมา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สส.มหาสารคาม เพื่อไทย อภิปรายว่าพรบ.งบประมาณฯไม่เหมาะสม ใน 4 ด้าน คือ1.ไม่มีวินัยด้านการเงินการคลัง มีการกู้เงินชดเชยรวมทั้งหมดตั้งแต่ปี2557 รวมเป็นเงิน 2.94 แสนล้านล้านบาท 2.ไม่มีรายละเอียด เลื่อนลอย มีการตั้งงบประมาณแบบเกรงใจกัน เช่น กลาโหม 2563 ได้งบ 1.6หมื่นล้านบาท เกรงใจทหารหรือไม่ อย่างกองทัพบก มีรายการหนึ่งเขียนไว้ว่าโครงการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพบก 19โครงการ ไม่มีรายละเอียด เขียนลอยๆขึ้นมา 3.งบประมาณ ของส่วนราชการไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งงบฯ 122,800ล้านบาท มีนโยบายป้องกันปราบปราม ลดอาชญกรรม แต่ไม่เกิดผล เช่น แถวสีลม เปิดคาสิโนกลางกรุงเทพฯ ซึ่งตนไปเห็นกับตา บริเวณถนนธนิยะ อยากให้นายกฯไปจัดการ เพราะเป็นคนดูแลสตช.และตนพร้อมจะพาไปดูด้วยตัวเอง ขอให้นายกฯปรับปรุงแก้ไขร่างพรบ.งบฯให้เหมาะสมแล้วค่อยนำเข้าเสนอสภาอีกครั้ง
นายกฯจี้แจ้งความ-อย่าแค่ถ่ายรูป
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ปัญหาเรื่องบ่อน ไม่อยากให้มีการถ่ายรูปอย่างเดียว แต่อยากให้มีการแจ้งตำรวจ แจ้งเดี๋ยวนี้ เขาก็จะไปเดี๋ยวนั้นและผมเองจะไปสอบสวนอย่าให้รู้ว่าเป็นใคร ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม การพิจารณางบประมาณครั้งนี้ ตนติดตามตลอด บางช่วงไปปฏิบัติภารกิจข้างนอก แต่ก็นั่งฟังการถ่ายทอดตลอด
‘บิ๊กช้าง’แจงบกองทัพไม่สูงอิงจีดีพี
เวลา 14.00น.พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงการจัดสรรงบฯให้กระทรวงกลาโหม วงเงิน 2.33แสนล้านบาทว่าถือว่าไม่สูงหรือเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ หากพิจารณาตามระดับจีดีพี ในปี 2563 ได้รับงบประมาณเท่ากับ 7.29ต่อจีดีพี ขณะที่ค่าเฉลี่ยต่องบประมาณอยู่ที่ร้อยละ1.3 เมื่อพิจารณาตามอัตราการได้รับงบประมาณเฉลี่ยของกองทัพปี2540 ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ได้รับงบอยู่ที่2.2 ของระดับจีดีพี หรือคิดเป็นร้อยละ12 ของวงเงินงบประมาณ แต่หลังจากที่มีภาวะปัญหาเศรษฐกิจกระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณลดลงตามลำดับและต่ำสุดปี2549 ที่ได้รับเพียง1.1ของจีดีพี เมื่อเปรียบเทียบกับงบทหาร งบความมั่นคงและกลาโหมของกลุ่มประเทศอาเซียนพบว่า มีค่าเฉลี่ยสากลอยู่ที่2.2ของจีดีพี แต่ของไทยอยู่ที่1.3 ต่อจีดีพีเท่านั้นเอง ช่วงที่ผ่านมากระทรวงกลาโหม ไม่ได้รับงบประมาณที่สูงผิดปกติ ส่วนงบประมาณที่เพิ่มขึ้นปีนี้ กว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดูแลสวัสดิการของข้าราชการ ปรับปรุงที่อยู่อาศัยและซ่อมแซม รวมถึงจัดหาเครื่องมือช่วยเหลือประชาชน ขณะที่งบประมาณเพื่อซ่อมปรับปรุงยุทโธปกรณ์มีเฉพาะที่ปรับปรุงส่วนที่ล้าสมัย ขณะที่การซื้อทดแทนยุทโธปกรณ์ที่ไม่สามารถหาชิ้นส่วน หรือซ่อมแซมได้ เป็นไปตามแผนพัฒนากองทัพเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ คิดเป็น 1 ใน 3 กองกำลังที่มีทั้งหมด
ซื้ออาวุธใหม่เพราะซ่อมไม่ได้แล้ว
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวอีกว่า อำนาจหน้าที่หลักของกระทรวงกลาโหม คือ ป้องกันประเทศ รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การรักษาความมั่นคงภายในประเทศ และการพัฒนาประเทศตามรัฐธรรมนูญ กองทัพต้องประเมินภัยคุกคามเพื่อเตรียมกำลังให้พร้อมมากกว่าการใช้กำลัง โดยพิจารณาตามสถานการณ์และขีดความสามารถด้านงบประมาณสำหรับยุทโธปกรณ์ของกองทัพในอดีต ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากมิตรประเทศ และจัดหาบางส่วน เช่น เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ปัจจุบัน อายุประมาณ 50ปีขึ้นไป รถถังบางชนิด อายุการใช้งาน40-50ปี รถเกราะที่ใช้ ปัจจุบันมีอายุการใช้งาน 40ปี เครื่องบินขับไล่เอฟ5 ที่กองทัพอากาศใช้ มีอายุการใช้งาน 41ปี เครื่องบินลำเลียงซี130 มีอายุใช้งาน 40ปี ทั้งนี้ยุทโธปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 30ปี มียอดรวมคิดเป็นร้อยละ58 ดังนั้นในการจัดหาเพื่อทดแทนยุทโธปกรณ์ที่ชำรุด ไม่สามารถซ่อมได้ ส่วนอื่นกองทัพยังเน้นการปรับปรุง และซ่อมแซมยุทโธปกรณ์ให้ใช้งานได้ต่อไป ทั้งที่ประเทศต้นกำเนิดไม่ใช้แล้ว แต่การจัดหาก็ทำเท่าที่จำเป็นเพื่อสอดคลองกับการใช้กำลังเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี