จากกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จะใช้อำนาจเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจง เรื่องการถวายสัตย์ปฎิญาณ และการจัดทำงบประมาณไม่ขอบด้วยกฏหมาย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ในกรณีดังกล่าวมีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ

1.คณะกมธ.มีสิทธิ์จะเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงต่อที่ประชุม กมธ.ได้หรือไม่ แม้จะเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ เพราะ กมธ.มีอำนาจที่จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน เข้าชี้แจงปัญหาใดๆต่อที่ประชุม กมธ.ก็ได้

2.การเชิญ พล.อ.ประยุทธ์  เข้าชี้แจง กรณีถวายสัตย์ และการจัดทำงบประมาณ มีความเหมาะสมหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า บทบาทหน้าที่ของ กมธ.ปปช.ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบเท่านั้น แต่การถวายสัตย์ปฎิญาณ และการจัดทำงบประมาณ ไม่เข้าข่ายการกระทำทุจริตและประพฤติมิชอบแต่ประการใด จึงไม่เห็นด้วยในการเชิญพล.อ.ประยุทธ มาชี้แจง ใน กมธ.ปปช.ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในครั้งนี้

3.การตรวจสอบ กรณีการถวายสัตย์ปฎิญาณไม่ครบถ้วน และการจัดทำ พรบ.งบประมาณที่ไม่ถูกต้องนั้น สามารถตรวจสอบได้ด้วยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ถ้าใช้ช่องทางนี้จะมีความเหมาะสมกว่าการตรวจสอบผ่านที่ประชุมของคณะ กมธ.ปปช.

4.การตรวจสอบเรื่อง การจัดทำ พรบ.งบประมาณที่ไม่ถูกต้อง ควรใช้บทบาทของคณะ กมธ.การเงินการคลัง ตรวจสอบความถูกต้อง จะเหมาะสมกว่าการใช้ กมธ.คณะอื่นดำเนินการ

"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็น ส.ส.สมัยแรก อาจจะทำให้ไม่เข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรดีเท่าที่ควร จึงอยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ใช้บทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ ส.ส.ซึ่งอาจจะทำให้ขาดความชอบธรรมและความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชนได้"นายเทพไท กล่าว