เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าขณะที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากถึง 1,275,146 คน ที่นอกจากเรามีความจำเป็นเร่งด่วนในการหามาตรการป้องกันแล้ว ซึ่งขณะนี้เชื่อว่ารัฐบาลได้ทำอย่างเต็มที่ แต่ก็มีบางเรื่องที่รัฐบาลควรหามาตรการควบคู่กันด้วย การวางแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมพร้อมรับมือกับ “ขยะติดเชื้อ” จากอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดใช้แล้วทิ้งที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการฆ่าเชื้อก่อน และกำจัดด้วยการเผาด้วยเตาเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด 19 แพร่กระจายอีกทาง
“ตัวอย่างเช่นหน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้งเป็นขยะติดเชื้อ หากไม่กำจัดอย่างถูกวิธีจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ปัจจุบันมีเพียงหน่วยงานสังกัด กทม. ได้เริ่มดำเนินการเพิ่มจุดตั้งถังขยะติดเชื้อ แต่เนื่องจากขณะนี้ที่มีการระบาดไปยังต่างจังหวัด จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มจุดตั้งถังขยะชนิดปิดสนิท ทั่งทั้ง กทม. และท้องถิ่น พร้อมรณรงค์เรื่องการคัดแยกขยะติดเชื้อ และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกสุขลักษณะ” รองโฆษก กล่าว
นางสาวศิริภา กล่าวอีกว่า หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งนั้น มีส่วนผสมของ “พอลิโพรไพรีน” (polypropylene) หรือมีส่วนผสมของพลาสติกในการป้องกันเชื้อโรคและกันของเหลว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานมากในการย่อยสลาย อันจะกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะก่อให้เกิดมลพิษอันตรายต่อวัฎจักรชีวิตของทั้งคนและสัตว์อย่างร้ายแรง ดังที่เคยมีข่าวสัตว์ทะเลเสียชีวิต จากการกินขยะที่เป็นชิ้นส่วนพลาสติก และไมโครพลาสติก ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เป็นอาหาร ทำให้ขยะพลาสติกตกค้างอยู่ในสัตว์ และเมื่อนำสัตว์นั้นมาเป็นอาหาร สิ่งตกค้างก็สามารถเข้าสู่ร่างกาย และเป็นอันตรายมากต่อสุขภาพได้ จึงเห็นว่ารัฐควรสนับสนุนรณรงค์ให้ผู้ที่ไม่เสี่ยงหันมาใช้หน้ากากผ้าแทนการใช้หน้ากากอนามัย เพื่อลดปริมาณขยะที่เป็นพิษและย่อยสลายได้ยาก แล้วสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้เชื่อว่า การบริหารจัดการปัญหาอย่างรัดกุม และเป็นยุทธศาสตร์ จะสามารถผูกมาตรการร่วมในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมเข้าไปในแผนหลักของทาง ศบค. ได้อย่างเป็นระบบ เพราะหลายเรื่องมีการดำเนินการมาอยู่แล้ว และบางเรื่องจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อป้องกันปัญหาใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น
ดังนั้นรัฐบาลควรหามาตรการควบคู่ไปกับการรณรงค์ป้องกัน คือมาตรการเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ อย่างหน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง รวมถึงขยะพลาสติกอื่นๆ ที่มีอัตราเพิ่มมากขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 19 อาทิ ขวดเจลล้างมือที่ใช้แล้ว กระดาษชำระเปียก หรือกล่องอาหารพลาสติก (บริการสั่งอาหารกลับบ้าน) ซึ่งการรณรงค์เกี่ยวกับการนำบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือย่อยสลายง่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้อย่างคึกคัก จะต้องได้รับการกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านมาตรการต่างๆ ในการรับมือกับขยะพลาสติกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องบูรณาการควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี