สธ.เผยมาตรการเปิดศูนย์ดูแลเด็กเล็กห้ามผู้ปกครองเข้าพื้นที่เด็ดขาด จัดที่ทานอาหารและที่นอนห่าง1-2 เมตร พร้อมทั้งขอให้ผู้ปกครองช่วยจนท.สอดส่องประเมินมาตรฐานด้วย
วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการเตรียมความพร้อมเปิดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยหรือเนอร์สเซอรี่ ว่า เรื่องนี้เป็นการทำงานร่วมกัน 4 กระทรวงคือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ประชุมกันอย่างต่อเนื่องร่วมกับสมาคมวิชาชีพ อาทิ สมาคมโรงเรียนอนุบาล สมาคมศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งดูแลตั้งแต่แรกเกิดถึงช่วงเข้าอนุบาล
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สิ่งที่เจ้าของกิจการต้องให้ความสำคัญ คือ ต้องจัดจุดคัดกรองวัดไข้ครู เด็ก ผู้ปกครอง โดยพื้นที่ภายในโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองหรือบุคคลอื่นเข้าไปเด็ดขาด ให้เป็นพื้นที่เฉพาะครูและนักเรียนเท่านั้น และเมื่อครูผ่านการคัดกรองเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนแล้วต้องเปลี่ยนชุด ใส่หน้ากาก สวมเฟสชิลด์ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนมาดูแลนักเรียน ส่วนตัวเด็กต้องเปลี่ยนชุด เปลี่ยนหน้ากากผ้า ทำความสะอาดร่างกายและมือ เป็นต้น
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองเตรียมหน้ากากผ้าสำหรับเด็กใส่ในกระเป๋าด้วย และผู้ปกครองให้รีบพาเด็กกลับโดยเมื่อถึงบ้านแล้วให้รีบพาไปอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายทันที นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ปกครองขอความร่วมมือหากเด็กป่วยให้หยุดอยู่บ้าน ส่วนทางศูนย์ดูแลเด็กเพียงแค่มีความสงสัยให้แยกเด็กออกมาเลย แล้วประสานสถานพยาบาลให้เข้าไปดูแล
พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า สำหรับการทำกิจกรรมให้เด็กทำกิจกรรมแบบกลุ่มไม่เกิน 6 คน และมีปฏิสัมพันธ์ข้ามกลุ่มน้อยที่สุด แยกของใช้ส่วนตัว และของใช้เฉพาะกลุ่ม ก่อนใช้อุปกรณ์ต่างๆ ต้องล้างมือ หลังใช้เสร็จต้องล้างมือ และล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ของเล่นต่างด้วยแอลกฮอล์ รวมทั้งการจัดที่นั่งรับประทานอาหาร ที่นอนกลางวันต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เป็นต้น
ต่อข้อถามมาตรการติดตามและควบคุมการแพร่เชื้อในโรงเรียนนั้น พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีประมาณ 3 หมื่นแห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ 2หมื่นแห่งอยู่ภายใต้การดูแลของท้องถิ่นที่กำกับโดยกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมให้เจ้าของกิจการเข้าใจมาตรการต่างๆก่อนจะเปิดดำเนินการ ส่วนสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในเอกชนได้คุยกับสมาคมฯ และเตรียมชุดการเรียนรู้สำหรับการดูแลเด็กแต่ละจุดๆ แล้ว
ทั้งนี้ การตรวจสอบมาตรฐานนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั่วถึง จึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครองเป็นหูเป็นตา ทำแบบประเมินส่งเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน ส่วนหากมีการระบาดเกิดขึ้นก็เหมือนกับการระบาดของโรคอื่นๆ คือการพิจารณาปิดชั้นเรียน เป็นทั้งโรงเรียน และให้กรมควบคุมโรคเข้าไปดูแลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี