เถื่อน!ยุจับตัว9ตุลาการ

แดงเหิม

เจอที่ไหนจัดการได้เลย

ศาลแจ้งจับ4หัวโจกหมิ่น

ม็อบกร้าวไม่ยอมรับข้อหา

พท.หลุดปาก‘แม้ว’สั่งชน

เดินหน้าทุบ-ท้ายุบพรรค

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 เมษายน นายภัทรพงษ์พันธ์ศรีสะอาด เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ 4 รับมอบอำนาจจากนายปัญญา อุดชาชน รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางไปยังกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) โดยเข้าพบ พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายพงษ์พิสิษฐ์ พงษ์เสนา หรือ “เล็ก บ้านดอน” นายธนชัย สีหิน หรือ “ดีเจ.หนุ่มวีคลอง 11” ผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนเอฟเอ็ม 107.4 เมกกะเฮิร์ต นายมงคล หนองบัวลำภู และนายศรรัก มาลัยทอง แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ก.ว.ป.) แนวร่วมเสื้อแดงที่มาปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลแจ้งจับแก๊งหมิ่นตุลาการ

โดยข้อกล่าวหาสรุปว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เมษายนทีผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กลุ่มบุคคลประมาณ 200 คน โดยมีทั้ง 4 คนเป็นแกนนำ จัดชุมนุมที่บริเวณหน้าที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. โดยมีการปราศรัยพาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ยั่วยุ ปลุกระดมมวลชนให้เกิดการกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เข้าข่ายดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 และ มาตรา 198 เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จึงส่งผู้แทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว พร้อมกับมอบซีดีบันทึกภาพและเสียงคำปราศรัยระหว่างการชุมนุมให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและมอบหมายให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ร้องไว้แล้ว ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

“แดง”เหิมเกริมไม่รับข้อหา

ขณะที่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายพงษ์พิสิษฐ์ พร้อมด้วย นายธนชัย นายมงคล และนายศรรัก ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ประกาศบนเวทีปราศรัยว่า ไม่ขอยอมรับข้อหาที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความกล่าวโทษ ถือเป็นการกระทำที่เลวร้าย ไม่มีความเป็นธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มเสื้อแดงมารวมตัวกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนอย่างต่อเนื่อง

เถื่อน!ประกาศจับ9ตุลาการ

นายพงษ์พิสิษฐ์ ยังระบุด้วยว่า ต่อจากนี้ไปกลุ่มจะยึดอารยะขัดขืนในการชุมนุมกดดัน 9 ตุลาการ และเตรียมจัดตั้ง สน.ประชาชน เพื่อเตรียมจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ทั้งนี้หากประชาชนเจอตัวตุลาการทั้ง 9 คนที่ใด ให้จับกุมตัวได้ทันที เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาของประชาชน และกลุ่มจะไม่ขอยอมรับอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการแต่งตั้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยจะสู้จนกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมทั้ง 9 คนจะลาออก

บุกปปช.ร้องตรวจสอบศาล

ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรรัก ได้นำมวลชนกว่า 100 คน เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ตรวจสอบการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน โดยกล่าวหาว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในสังคม ไม่มีความเป็นกลาง โดย นายสุชาติ ฉิมน้อย ผู้อำนวยการสำนักการข่าว ป.ป.ช. เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับ

พท.ให้ท้ายไล่กวาดบ้านตัวเอง

วันเดียวกัน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า กรณี มีตุลาการบางคนบอกว่านักมวยกำลังต่อยกรรมการนั้น ต้องย้อนถามกลับไปว่ากรรมการเป็นกลางหรือเปล่า ไปเตี๊ยมกับนักมวยฝ่ายหนึ่งหรือไม่ เพราะคำพูดของฝ่ายค้านและกลุ่ม 40 ส.ว.ที่ออกมาเหมือนกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทบไม่ผิดเพี้ยน วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังใช้อำนาจเกินตัว และใช้จนเคยตัว ในที่สุดบ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้ ดังนั้นการที่ส.ส.และส.ว.จะปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หรือมีประชาชนแสดงออกว่าไม่เอาตุลาการบางคน ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และอยากเรียกร้องให้องค์กรอิสระรวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญ กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด

หลุดปาก“แม้ว”สั่งลุยเต็มที่

นพ.เชิดชัย กล่าวด้วยว่า เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวถอดถอนตุลาการบางคน และสนับสนุนให้มีการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนหลักเกณฑ์ หรือเพิ่มจำนวนตุลาการ

“วันนี้เราต้องตั้งป้อมปราการ พร้อมตอบโต้เต็มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็สั่งให้เดินหน้าเต็มที่ หากยุบสภาก็พร้อมยุบ ประกอบกับส.ส.และส.ว.มีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ ศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาทันที คนเรามีศักดิ์ศรี มันก็เหลืออด ผมพร้อมลุยเต็มที่ อย่างเก่งก็ยุบพรรค ถ้ายุบก็ตั้งใหม่ ถ้ามันไม่ไหวก็ยุบสภา แล้วก็รณรงค์ให้คนเลือกมากๆ เพื่อตีโต้อำนาจฝ่ายตุลาการที่กำลังข่มขู่คุกคาม” นพ.เชิดชัยกล่าว

โวล่าชื่อถอดถอนครบแล้ว

ด้าน นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้มี ส.ส.รัฐบาลมาลงชื่อไปแล้ว 100 กว่าคน ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะการยื่นถอนถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้เสียงเพียง 1 ใน 4 ของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น แต่กรณีนี้ สว.จะไม่เข้าชื่อร่วมถอดถอนด้วย เพราะส.ว.ต้องทำหน้าที่พิจารณาถอดถอนในขั้นตอนสุดท้าย หากป.ป.ช.ส่งเรื่องมาให้ดำเนินการ

ส่วนการส่งจดหมายเปิดผนึกปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้สัปดาห์หน้า

พรรคร่วมรอใบสั่งเพื่อไทย

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล นายสนธยา คุณปลื้อม หัวหน้าพรรคพลังชล นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา ต่างกล่าวถึงกรณีประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในทำนองเดียวกันว่า ยังไม่มีการหารือภายในพรรค โดยต้องรอพรรคเพื่อไทยเชิญไปหารือเพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันก่อน

ปชป.ด่าอย่ามั่วอ้างนิติบัญญัติ

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกรณี 312 สส.และสว.อ้างการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการต่อสู้ของฝ่ายนิติบัญญัติและถูกศาลรัฐธรรมนูญละเมิดว่า ถือว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่ถูกต้อง เพราะสมาชิก 312 คนที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวนก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาด้วยซ้ำ และขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีมติใดๆ จากรัฐสภาออกมารับรองข้ออ้างของสมาชิกเหล่านี้ เพราะฉะนั้นจึงอย่านำสถาบันนิติบัญญัติมาอ้างเด็ดขาด

จวกหลอกปชช.เข้าใจผิดศาล

“การเรียกร้องไม่ให้ศาลมาก้าวก่ายงานของฝ่ายนิติบัญญัติก็เช่นกัน ถือเป็นการให้ความเห็นเพื่อโน้มน้าวประชาชนให้เข้าใจผิด คนกลุ่มนี้ควรเคารพและให้ความเป็นอิสระแก่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีคำตัดสินที่พอใจ ก็พากันยอมรับชื่นชม แต่พอตัวเองต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ กลับแสดงออกซึ่งความไม่พอใจ” นายบุญยอด กล่าว

จี้ส่งตำรวจคุ้มกันตุลาการ

ด้าน นายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้ส่งจดหมายถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอให้สั่งการคุ้มครองความปลอดภัยตุลากการศาลทุกศาล และศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการคุกคามอาฆาตมาดร้ายมุ่งประสงค์ต่อชีวิตตุลาการศาล ศาลรัฐธรรมนูญ ข่มขู่ที่จะเผาที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ และมีการโฆษณาชวนเชื่อจากสส.พรรคเพื่อไทยให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ

“อู๊ดด้า”เลื่อนมอบตัวเงินบริจาค

เวลา 09.30 น. วันเดียวกัน นายองอาจ คล้ามไพบูรณ์ และ นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ พร้อมด้วย นายราเมศ รัตนเชวง ทนายความของพรรค ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาคดีบริจาคเงินพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ได้เลื่อนการเข้าให้ปากคำ เนื่องจากติดภารกิจ

นายองอาจ กล่าวว่า เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของเราว่า ไม่ได้ทำอะไรที่ขัดต่อข้อกำหนดตามกฏหมาย และการดำเนินการในเรื่องนี้ถูกต้องโปร่งใสทุกประการ