"จาตุรนต์"ซัด"บิ๊กตู่"เบี่ยงประเด็นปมอ้างไม่รู้จัก"วันเฉลิม" ลั่นคดีคนไทยถูกอุ้มหายต้องลากคนผิดลงโทษ แม้จะคิดต่าง"คสช.-รบ."
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการติดตามตัว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่หายตัวไปในประเทศกัมพูชา ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดถึนายวันเฉลิมทำนองกึ่งตั้งคำถามกึ่งต้องการบอกใบ้เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องรู้จักนายวันเฉลิม ไม่ต้องรู้ว่าเขาไปอยู่ไหนและไปทำอะไร แต่ถึงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรู้แล้วว่านายวันเฉลิม เป็นคนไทยที่ถูกอุ้มหายไปอย่างอุกอาจกลางกรุงกัมพูชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ย่อมมีหน้าที่สั่งการกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยติดต่อไปยังรัฐบาลกัมพูชา เพื่อขอให้สืบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการเพื่อให้คนไทยคนนี้ปลอดภัย ได้รับความยุติธรรมและหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ไม่ควรพูดแบบพยายามจะบ่ายเบี่ยงประเด็นหรือทำอะไรแบบบขอไปที แต่ควรแสดงความจริงใจต่อกรณีนี้
"ยิ่งปรากฎข้อเท็จจริงว่าวันเฉลิม เคยวิพากษ์วิจารณ์ คสช. , รัฐบาล คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งควรกำชับให้ส่วนราชการต่างๆ ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง มิฉะนั้นจะถูกมองว่า เพิกเฉยละเลย เพราะเห็นวันเฉลิมเป็นฝ่ายตรงข้าม" นายจาตุรนต์ กล่าว
สำหรับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่านายวันเฉลิมเคยมีข้อหาอะไรและไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุใดนั้น เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน จากการเปิดเผยขององค์กรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม ปรากฎว่านายวันเฉลิมมีคดีติดตัวเกี่ยวกับการไม่ไปรายงานตัวต่อ คสช.ซึ่งเป็นที่สิ้นสุดไปแล้วกับคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ถูกกล่าวหาโดย คสช.ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่าคดีแบบนี้เกิดจากการกลั่นแกล้งเพื่อปิดปากผู้ที่เห็นต่างจาก คสช.ทั้งๆ ที่ไม่มีมูลเหตุเพียงพอเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ว่านายวันเฉลิมจะมีคดีอะไร และจะมีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐ และ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ก็ตาม เมื่อนายวันเฉลิมเป็นคนไทย ย่อมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะให้ความคุ้มครองนายวันเฉลิมอย่างเต็มความสามารถ
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา การอุ้มหายหรืออุ้มฆ่าเป็นวิธีการหนึ่งที่ผู้มีอำนาจใช้จัดการกับผู้เห็นต่างจากรัฐที่ทำให้เกิดการขาดความไว้วางใจ เชื่อถือต่อรัฐและกระบวนการยุติธรรม เกิดความโกรธแค้นและขัดแย้งในสังคมรุนแรงยิ่งขึ้น จากการศึกษาหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการต่างๆที่เคยมีขึ้นเพื่อหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมก็มีข้อสรุปที่สอดคล้องตรงกันว่า รัฐจะต้องหาทางระงับยับยั้งไม่ให้เกิดการใช้วิธีที่โหดร้ายป่าเถื่อนเช่นนี้ต่อผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ควรเห็นการกระทำที่เกิดกับวันเฉลิมเป็นเรื่องเล็ก
ส่วนที่ รมว.ต่างประเทศ พูดถึงนายวันเฉลิมว่าไม่ใช่วีไอพี ในทางไม่ให้ราคาเพื่อบอกว่ารัฐบาลไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นในเรื่องนี้นั้น ตนคิดว่าการพูดอย่างนั้นเป็นการทำร้ายจิตใจผู้ที่ห่วงใยนายวันเฉลิม และผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายอย่างมาก เนื่องจากเป็นการพูดที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เห็นคนไม่เท่ากัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี