‘วิชา’ไขที่มาขอนายกฯอายัดศพพยานคดีบอส ทิ้งบอมบ์‘เงิน-อำนาจ’ทุบระบบยุติธรรมเสื่อมทรุด
2 สิงหาคม 2563 นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เปิดเผยว่า ตนได้เสนอกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สั่งอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานปากสำคัญในคดีของนายวรยุทธ เพื่อนำกลับมาชันสูตรเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ซึ่งตามกำหนดการญาติจะมีการฌาปนกิจศพในวันนี้ (2 สิงหาคม 2563) แต่การเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตจากประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายว่าอาจเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ และสังคมยังมีความเคลือบแคลงสงสัย
“เรื่องนี้จะต้องดูให้รอบคอบ และลึกลงไปในรายละเอียด โดยเฉพาะจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียดด้วย สรุปเบื้องต้นจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการ หากเสียชีวิตโดยผิดปกติหรือผิดธรรมชาติ แต่ผมตั้งข้อสังเกตผู้เสียชีวิตมีการตายแบบผิดธรรมชาติ จึงต้องมีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร เพราะมันอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอยู่แล้ว เว้นแต่จะไม่ทำเท่านั้น ความเชื่อว่าหากไม่ทำเรื่องนี้ให้เกิดความสงสัยจะทำให้เกิดปัญหาแน่นอน” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการฯ ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 10 คน นัดแรก ในวันพรุ่งนี้(3 สิงหาคม 2563) เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเบื้องต้นจะฟังเสียงของผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีข้อคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ เพื่อนำไปสู่การเรียกบุคคลเข้ามาชี้แจง และจะได้มอบนโยบายได้ถูกต้อง
“การทำงานตามกรอบ 30 วัน ของคณะกรรมการชุดนี้ จะต้องดูให้รอบคอบ หากคณะกรรมการชุดนี้ตรวจสอบคดีเฉยๆ คิดว่า 30 วันคงจะเพียงพอทำให้สังคมเกิดความเชื่อถือและเชื่อมั่นในระบบกระบวนการยุติธรรมไทย แต่ถ้าเรามีความจำเป็นจะต้องเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ อาจต้องใช้ระยะเวลาต่อ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะต้องรายงานเสนอต่อนายกรัฐมนตรีทุก 10 วัน” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวอีกว่า ในส่วนความคาดหวังของสังคมนั้น เมื่อมาอยู่ในจุดที่ต้องรับผิดชอบก็เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีความเสื่อมทรุดไปกว่าเดิม โดยอาจจะมีเรื่องของผลประโยชน์เงินและอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกชาติ ซึ่งถึงจุดเวลาที่จะต้องยกเครื่อง และการทำงานใหม่ ซึ่งสังคมต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วย เนื่องจากเราได้ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้มานานพอสมควร อีกทั้งบ้านเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลง จะทำแบบเดิมคงไม่ได้แล้ว ความคิดของผู้คนก็เปลี่ยนไป
“ยอมรับว่าประเทศไทยปฏิรูปมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม หรือเรียกว่าปฏิวัติหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ซึ่งถึงเวลาแล้วจะต้องเอาจริงเอาจังกับระบบกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะถึงขนาดนายกรัฐมนตรีสั่งการ รวบรวมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ รวมถึงคดีความมาเป็นแม่แบบ หรือต้องถอดบทเรียน หากปล่อยทิ้งไป เมื่อคณะกรรมการชุดนี้ไปนั่งสอบเฉยๆ จะทำให้เกิดความเสียหายเวลา ทั้งนี้ จะขออะไรที่นายกรัฐมนตรีสามารถ ทำได้เพื่อประชาชน คณะกรรมการชุดนี้ก็จำเป็นจะต้องทำ” นายวิชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี