ศาล รธน. เริ่มไต่สวนคุณสมบัติ 32 ส.ส. “ภาดาท์”ผู้ถูกร้องที่ 20 อ้างไม่รู้บริษัททาโร่ ทาเล้นท์ ยังไม่ปิดกิจการ หลังยื่นสมัครส.ส. เหตุแจ้งให้ 2 กรรมการบริหารบริษัทดำเนินการ –ก่อนหน้าแหกตุุลาการพบลงนามในเอกสารหลังลงสมัครส.ส.6เดือน ด้าน “ธัญญ์วาริน” ไม่สนชี้แจง ส่งหนังสือแจ้งไม่ติดใจจะเข้าไต่สวน- ศาลถือทราบนัดโดยชอบให้รอลุ้นคำตัดสิน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ 32 ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยวันนี้เป็นการไต่สวน น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ผู้ถูกร้องที่ 20 และนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 โดยในช่วงแรกเป็นการไต่สวนในส่วนของน.ส.ภาดาท์ และพยาน 2 ปาก ซึ่งศาลได้สอบถามถึงการดำเนินการกิจการของบริษัททาโร่ ทาเล้นท์ว่า ทำธุรกิจผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ และบริการข้อมูลข่าวสารตามที่ระบุในวัตถุประสงค์ที่ยื่นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือไม่ ซึ่งน.ส.ภาดาท์ ชี้แจงว่า บริษัทตั้งขึ้นเพื่อจัดคอร์ส อบรมค่ายเยาวชนให้กับเด็กอายุ 8-15 ปี ในหลักสูตรเอ็กซ์วายแซด และมีการจัดอบรมเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 23-27 ต.ค. 60 ที่เขาใหญ่
ส่วนการในใบนำส่งงบการเงินที่ยื่นกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ทำผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ฯ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น เป็นเรื่องของผู้จัดทำบัญชีที่ดำเนินการ ซึ่งมักจะนำวัตถุประสงค์เพิ่มเติมที่บริษัทจดเพิ่มจากแบบฟอร์มการขอจดทะเบียนมาใส่ไว้ ว่า เป็นลักษณะของการประกอบกิจการในการยื่น ซึ่งทั้งหมดเป็นการดำเนินการของผู้จัดทำบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชี พร้อมย้ำว่า เมื่อรู้ตัวเองจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ได้แจ้งให้หนึ่งในกรรมการบริษัทไปเลิกบริษัทในปลายปี 2561 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีกรรมการบริหาร 2 คนลงนาม ซึ่งตนก็คิดว่า กรรมการทั้งสองคนดังกล่าวดำเนินการแล้ว จึงไม่ได้มีการติดตามสอบถาม และไม่ได้มีการลงชื่อในเอกสารที่ยื่นต่อราชการใด ๆ อีกเลย เพิ่งมาทราบว่า ไม่ได้มีการเลิกกิจการหลังมีการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ตุลาการยังได้สอบถามว่าถ้าเลิกกิจการตั้งแต่ปลายปี 61 และไม่ได้ลงชื่อยื่นในเอกสารใดอีก ทำไมในเอกสารงบการเงินลงวันที่ 18 มิ.ย. 62 ยังมีลายมือชื่อของน.ส.ภาดาท์ ลงนามเอกสารยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นเวลาหลังจากการเปิดรับสมัครส.ส.ไปแล้ว 6 เดือน น.ส.ภาดาท์ ก็อ้างว่า อาจจะลืมเนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมานานแล้ว
ด้านน.ส.น้ำอ้อย อู่อรุณ ผู้จัดทำบัญชีบริษัทในปี 2560 ชี้แจงต่อศาลว่า การระบุวัตถุประสงค์ในใบนำส่งงบการเงินที่ยื่นกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ไม่ตรงกับการดำเนินกิจการจริงของบริษัทนั้น ทำด้วยความเคยชินที่โดยปกติ บริษัทอื่นๆ ก็จะเอาวัตถุประสงค์ข้อแรกที่บริษัทนั้นจดเพิ่มเติมมาใส่ ทั้งที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของบริษัท แต่ยืนยันว่า ธุรกิจของบริษัทนี้คือ จัดคอร์สค่ายเยาวชน ส่วนที่ระบุไปว่า บริษัทมีรายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการผลิตข้อมูลข่าวสาร ความบันเทิง ก็เป็นเพราะความเคยชินที่จะนำเอาวัตถุประสงค์ข้อ 23,25 ซึ่งเป็นข้อที่บริษัทจดเพิ่มเติมมาใส่ โดยยอมรับว่า เกิดความผิดพลาดแต่ไม่ได้จงใจให้ผิดพลาดในกรณีนำวัตถุประสงค์บริษัทจดเพิ่มมาใส่ในงบการเงินโดยที่ไม่ตรงกับการดำเนินกิจการจริง ซึ่งส่วนใหญ่นักบัญชีก็ทำแบบนั้น
ส่วนที่ศาลสอบถามว่า มีรายการค่าใช้จ่ายผลิตสื่อในช่วงระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-8 ธ.ค. 60 เป็นค่าอะไรทั้งที่การจัดอบรมค่ายเยาวชนเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.60 น.ส.น้ำอ้อย ชี้แจงว่า เป็นค่าผลิตสื่อเชิญชวนผู้ปกครองให้ส่งเด็กมาอบรม ซึ่งผลิตไปแล้วแต่ยังไม่จ่ายเงินและมาจ่ายในภายหลังจึงลงเป็นรายการบันทึกค้างจ่ายที่จ่ายชำระ
ขณะที่นายชาตรี ระวิพงษ์ ผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัทดังกล่าวช่วงปี 2560 กล่าวว่า ตนตรวจบัญชีตามเอกสารหลักฐานที่ผู้ทำบัญชีส่งมา ไม่ได้มีการขอดูหรือสงสัยว่าบริษัทดำเนินกิจการตรงตามที่จดทะเบียนหรือไม่ จะดูเพียงตัวเลขของบัญชีว่าเป็นไปตามหลักการบัญชีหรือไม่ ส่วนรายละเอียดอื่นผู้จัดทำบัญชีเป็นผู้จัดทำ ซึ่งตนก็เชื่อในการจัดทำบัญชีของผู้จัดทำบัญชี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนการไต่สวนในรายของนายธัญญ์วารินนั้น เจ้าตัวได้ส่งหนังสือมาแจ้งให้ทราบว่า ทราบที่ศาลได้นัดแต่ไม่ติดใจที่จะเข้าไต่สวนจึงไม่มาศาล ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการไต่สวน ศาลแจ้งว่าให้ผู้ถูกร้องทั้งสองรอฟังคำวินิจฉัยพร้อมกับผู้ถูกร้องอื่นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี